มาถึงตอนสุดท้ายของงาน เจนีวา มอเตอร์ โชว์ เมื่อต้นเดือน เชิญพบกับค่ายสหกรณ์ เรโนลต์ นำเสนอ เอสยูวี ในชื่อรุ่น คัดจาร์ Kadjar ฝาแฝดของ นิสสัน คาชไคว Qashqai มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ทีซีอี TCe 130 แรงม้า และ ดีเซล 1.5 ดีซีไอ dCi 110 แรงม้า และ 1.6 ซีดีไอ 130 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี สตาร์ท/สต็อพ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และใช้เทคนิคการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ที่ช่วยลดค่าไอเสียขณะวิ่งบนทางหลวง ได้ 4 กรัม/กม.
มีให้เลือกทั้งแบบขับสองล้อ พร้อมระบบควบคุมให้ล้อขับเคลื่อน โดยไม่ลื่นไถล และขับเคลื่อนสี่ล้อ ทั้งเกียร์ธรรมดา และออโต้ โดยรุ่นออลวีล ไดร๊ฟ มีโหมดให้เลือก 3 แบบ เลือกออโต้ เลือกขับสี่ล้อ และ เลือกขับสองล้อ มีระบบช่วยจอด โดยอาศัยจากเซ็นเซอร์ 360 องศา กล้องมองหลังขณะถอย ระบบจดจำกระแสการจราจร ส่วนระบบเครื่องเสียง เรียกชื่อว่า อาร์-ลิงค์ 2 R-Link 2 พร้อมลำโพง โบส Bose รอบทิศทาง แต่ยังไม่ประกาศราคา บอกเพียงว่า รถจะออกจำหน่ายภายในปีนี้
นักข่าวประเมินกันว่า ราคาน่าจะอยู่ราว 650,000 บาท
อีกรุ่นของ เรโนลต์ เป็นรถสปอร์ต คือ คลิโอ ที่เปลี่ยนใจมาใช้เกียร์ธรรมดา แทนเกียร์ออโต้ แพดเดิ้ลชิฟท์ แต่ยังเป็นเครื่อง 1.6 เทอร์โบ ที่ปรับแต่งให้ได้แรงขึ้นมา 197 แรงม้า พร้อมระบบช่วยการออกตัว ทำให้สามารถทำ 0-100 ได้ภายใน 6.7 วินาที
มาถึงค่ายรถหรู โรลส์รอยซ์ ลักซ์ชัวรี่ เอสยูวี ด้วยรุ่น แพนทอม Phantom ที่การตกแต่งก็ยังคงเดิมแบบเดียวกับรุ่น แพนทอม พร้อมสีขาวมุกสดใส Mother-of-Pearl ที่เป็นสีราคาแพงที่สุด นับแต่เคยผลิตขึ้นมา เพราะต้องมีถึง 3 ชั้น และใช้เวลาพ่นด้วยมือ 12 ชม. จากโรงงานในกู๊ดวู๊ด
ส่วนการตกแต่งภายใน อิงไปกับผ้าไหมสีเขียวควันไฟ smoke-green ที่ทรงค่า ผลิตด้วยฝีมือแรงงานในประเทศจีน และส่งมายังโรงงานในอังกฤษ โดยในแต่ละคัน ต้องใช้ผ้าไหม 10 เมตร และใช้ฝีมือแรงงานในการประกอบ 2 วัน ภายนอกยังวาดสีน้ำด้านข้างเป็นภาพดอกไม้ รวมแล้วการทำงานทั้งหมดต้องใช้เวลาถึง 600 ชม. เพียงแต่ต้นแบบคันนี้ โรลส์รอยซ์ ไม่บอกว่าจะนำไปใช้ในรถที่ออกจำหน่ายเมื่อใด สร้างขึ้นเพื่อความภูมิใจ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในทุกวิถีทาง ตราบที่ลูกค้ายังสามารถสู้ราคาได้
ตามมาด้วยค่ายญี่ปุ่น ซูซูกิ นำเสนอต้นแบบ 2 รุ่น สวิฟท์ ไอเค-2 IK-2 ที่สเปคยังคงใกล้เคียงกับ สวิฟท์ ปัจจุบัน แต่เส้นสายของออกมาในแนวทันสมัยมากขึ้น โดยปรับโครงสร้างตัวรถใหม่ เพื่อเตรียมเป็นต้นแบบในการพัฒนารถทุกรุ่น และลดเวลาในการพัฒนาเช่นกัน เครื่องยนต์เบนซิน ไดเร็คอินเจ็คชั่น 1.0 ลิตร เทอร์โบ ที่คุยว่าแรงกว่ารุ่นปัจจุบัน พร้อมเตรียมออกรุ่น ไฮบริด เบนซิน-ไฟฟ้า ในอนาคตอันใกล้นี้
ต้นแบบอีกรุ่น เป็น ไอเอ็ม-4 iM-4 ในแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่นักข่าวเรียกว่าเป็น จิมนี่ Jimny รุ่นใหม่ หลังจากรุ่นเก่าออกสู่ตลาดมาแล้ว 17 ปี พร้อมเทคโนโลยีใหม่มากมาย
ด้วยความยาว 3.7 เมตร สั้นกว่า วิทาร่า อยู่ 482 มม. แต่ยาวกว่า จิมนี่ 18 มม. แต่ยังเป็นโครงสร้างเดียวกับ ไอเค-2 ขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมกะทะล้อ 18 นิ้ว เครื่องยนต์เป็นไฮบริด ที่ซูซูกิ เรียกตัวเองว่า เอสเฮชวีเอส SHVS เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ดูอัลเจ็ท Dualjet พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน พร้อมระบบแปลงแรงเฉื่อยเป็นกระแสไฟฟ้า คาดว่าจะขึ้นสายการผลิตได้ช่วงปลายปีหน้า
ค่ายสุดท้ายเป็น โตโยต้า นำเสนอรถครอบครัวขนาดใหญ่ อะเวนซิส Avensis ทั้งรุ่นซาลูนและเอสเตท หนนี้ปรับโฉมใหม่ พร้อมทั้งปรับปรุงเครื่องยนต์และการตกแต่งภายใน พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยใหม่ โดยจะประกอบในอังกฤษ และต้องปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่หมด เพื่อให้สอดรับกับข้อบังคับ อียู6 ที่เพิ่งออกเมื่อปลายปีก่อน ทั้งเบนซิน 1.8 ลิตร ดีเซล 2.0 ลิตร และ 2.2 ลิตร โดยอาจเพิ่มเครื่องเบนซิน เทอร์โบ อีกรุ่น พร้อมทั้งรถไฮบริด ไฟฟ้า หลังร่วมกันพัฒนากับ บีเอ็มดับบลิว มาแล้ว
อีกรุ่นเป็น ออริส Auris เจเนอเรชั่นที่ 2 ที่เพิ่งออกตัวเมื่อปี 2013 แต่ โตโยต้า ก็รีบปรับโฉมออกมาใหม่ คู่ต่อสู้ของ ฟอร์ด โฟกัส, ฮอนด้า ซีวิค และ ฮุนได ไอ30 ที่พร้อมลงสู่ตลาดกลางปีนี้