เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น

Brand: TOYOTA Model: Corolla
Year: 1996 Miles: 80001-100000
From: ยงยุทธ มณีศรี

รถโตโยต้าโคโรล่า ปี 96 เครื่อง AE110, 1500 CC., เกียร์ AUTO วิ่งระยะทาง 90,000 Km.
ขอถามปัญหาดังนี้ครับ

1.รถเช็คที่ศูนย์บริการโตโยต้าตลอดทุก 10,000 Km. ช่างบอกว่ายางหุ้มเพลาขับขาด เนื่องจากเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวบ่อย
ต้องเปลี่ยนทั้งก้านและเพลาเป็นชุด อยากทราบว่าต้องเปลี่ยนทั้งชุดจริงหรือไม่ จะเปลี่ยนแต่ยางที่หุ้มเพลาอย่างเดียวได้หรือไม่, ไม่ทราบว่าซ่อมได้หรือไม่ เพราะเปลี่ยนที่ไรไม่เห็นเอาอะไหล่เก่ามาคืนผมสักครั้งเดียว

2.เมื่อเหยียบคันเร่งให้รถวิ่งเร็วขึ้น บางครั้งมีเสียงดัง ครืดๆๆๆ ใต้ท้องรถไม่ทราบว่าเสียงอะไร เป็นความผิดปรกติของเกียร์หรือเปล่าครับ

3.ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ทุกๆ 10,000 Km ถ้าจะเปลี่ยนมาใช้ ชนิด 5,000 Km จะได้หรือเปล่าครับ เพราะราคาต่างกัน และกำลังจะได้เวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้วครับ

4.Start เครื่องครั้งแรก รอบเดินเบาขึ้นสูง 1,300 – 1,400 r/min จะกินน้ำมันมากสังเกตุจากเข็มวัดระดับน้ำมันลดลงมาก แต่พอวิ่งได้ 2-3 นาที่แล้วจอดเข้าเกียร์ว่างรอบเดินเบาอยู่ที่ 600-700 Km/h ซึ่งเมื่อเทียบกับตอนออกรถมาใหม่ พอ Start รอบเดินเบาอยู่ที่ 500-600 r/min ไม่ทราบว่าต้องแก้ไขอย่างไรครับ
(ปรึกษาช่างที่ศูนย์บริการโตโยต้า ช่างบอกว่ารถเกียร์ออโต้ รอบเดินเบาสูงอย่างนี้เองแหละครับเป็นปรกติ ปรบลดลงไม่ได้)

5.ขับรถโดยใช้ Overdrive On มาตลอด ปรกติเหยียบคันเร่ง รอบจะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและความเร็วจะค่อยๆเพิ่มตาม สังเกตุดูว่าใช้ความเร็ว 100 Km/h รอบเครื่องอยู่ที่ 2,000 r/min แต่ตอนนี้พอ Start รถแล้วออกตัวโดยค่อยๆเหยียบคันเร่ง รอบขึ้นไปถึง 2,000 r/min โดยที่รถไม่ค่อยวิ่ง และสังเกตุดู วิ่งความเร็ว 80 Km/h รอบขึ้นถึง 2,000 r/min และใช้ ความเร็ว 100 Km/h รอบขึ้นถึง 2,500 r/min และรู้สึกว่าเร่งไม่ขึ้นอีกแล้ว ไม่ทราบว่าจะแก้ไขอย่างไรครับ
(เนื่องจาก 3 เดือนก่อนไปต่างจังหวัดรู้สึกว่าหลังจากความเร็ว 80 Km/h จะเร่งไม่ขึ้นและเมื่อใช้ความเร็ว 100 Km/h รอบขึ้น 2,500 r/min เป็นเวลานาน)


1-เอารถออกมาจากศูนย์บริการนั้นก่อน แล้วไปที่อีกศูนย์หนึ่ง ให้เขาตรวจสอบดู ผมว่า เปลี่ยนเฉพาะยางหุ้มเพลาก็น่าจะได้แล้ว ถ้าไม่มีเสียงดังก๊อกแก๊กเวลาเลี้ยวนะครับ ไม่ต้องเปลี่ยนเพลา หากมีเสียงดัง ก็ต้องเปลี่ยนหัวเพลา แค่นั้นเอง ไม่ต้องเปลี่ยนเพลาทั้งเส้นหรอก แพงไม่เข้าเรื่อง ช่างศูนย์ที่คุณเข้าเขาจะฟันค่าอะไหล่คุณน่ะครับ
2-ต้องฟังดูครับ ว่าดังจากที่ไหน แล้วหาตรงจุดนั้น ว่าดังเพราะอะไร ส่วนมาก เป็นเสียงท่อไอเสีย หรือเสียงจากท่อไอเสีย แต่ของคุณ ผมไม่ทราบครับ เพราะไม่ได้บอกไปว่า ดังจากจุดไหนของรถ โธ่ ใต้ท้องรถนี่ มีทุกส่วนของรถวางอยู่เลยนะครับ ใครจะไปรู้ว่าดังมาจากไหนล่ะครับ ถ้าไม่บอกกัน ผมโง่ครับ อย่างที่ผมเรียนไว้ในคำถามอื่น ว่าผมโง่ ถ้าคุณอยากให้ผมฉลาด คุณต้องบอกให้ละเอียด ผมจะได้ฉลาดและรู้ว่า ดังจากอะไรน่ะครับ
3-น้ำมันเครื่องชนิดอะไรล่ะครับ ที่คุณว่า ใช้ได้แค่ห้าพันกิโลเมตร ผมไม่เห็นมีเหลืออยู่ในตลาดแล้วนี่ มีแต่น้ำมัน SJ กัย SL และน้ำมันปลอมเท่านั้นแหละครับ น้ำมันปลอม ใช้สองสามกิโลเมตรก็ไม่ไหวแล้ว น้ำมัน SL กับ SJ ใช้ถึงหมื่นกิโลเมตรทุกชนิดอยู่แล้วนี่ครับ
4-โอ้ โฮ คุณนี่ ดูละเอียดเหลือเกินนะครับ ดูเห็นได้อย่างไร เครื่องเดินเบาตอนแรกติดเครื่องใหม่ใหม่ รอบสูงพันสองถึงพันห้าน่ะได้ครับ ผมสงสัยว่า แล้วคุณดูอย่างไรว่า เครื่องเดินเบารอบจัดแค่ไม่กี่นาทีนี่ รถกินน้ำมันมากเหลือเกิน ไอ๊หย่า ไม่สู้แล้วครับ เก่งเกินไปนะครับ
เป็นปกติอย่างที่ช่างเขาบอกครับ เครื่องเย็น รถจะจ่ายเชื้อเพลิงและอากาศให้เครื่องยนต์มากกว่าปกติ เพื่ออุ่นเครื่องเร็วขึ้นหน่อย แค่นั้นเองครับ ไม่กินน้ำมันมากไปหรอก คุณดูอย่างไรกันนี่ ผมไม่รู้เรื่องเลยครับ ว่าดูเข็มน้ำมันออกได้ด้วยหรือนี่ ฮ่า ฮ่า เก่งจัง
5-รถของคุณ วิ่ง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รอบเครื่องสองพันห้า ดีแล้วนี่ครับ ถ้าเร่งไม่ออก ก็กดคันเร่งลึกลงไปหน่อย มันก็จะวิ่งเร็วขึ้น รอบขึ้นสูงขึ้นเอง คุณดูดีแล้วหรือว่าคันเร่งไม่ติดขัดตรงไหน ทำไมถึงเร่งไม่ออก ผมไม่เข้าใจครับ ต้องเร่งได้ซีครับ ถ้ารอบเครื่องขึ้น ความเร็วก็จะขึ้นไปเอง แต่ถ้าความเร็วไม่ขึ้น ในขณะที่รอบเครื่องขึ้นไปถึงสามพันแล้ว ก็แสดงว่า คลัทช์หมดครับ แต่ผมว่าไม่ใช่แน่นอน เพราะของคุณ บอกว่ารอบไม่ขึ้น ก็กดคันเร่งลงไปให้สุดซีครับ ไปมัวถนอมมันอยู่ทำไมล่ะ อยากเร็ว ก็ต้องเร่ง เร่งแล้วก็ต้องกินน้ำมันบ้างเป็นธรรมดานะครับ-ธเนศร์

Facebook Comments
CarOnline Team

Recent Posts