Brand: TOYOTA Model: Corolla
Year: 2001 Miles: 100001 – More
From: ชนินทร์ ยุทธนา
ผมนำรถไปเช็ค120000ที่ศูนย์โตโยต้า มีเปลี่ยนถ่ายน้ำมันทั้งหมดรวมน้ำมันเกียร์ด้วยครับ พอออกมาปรากฎว่า การเข้าเกียร์หนักขึ้นกว่าเดิมและช่วงเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N จะมี่เสียงดังแก็ก เหมือนตอนที่เราเปลี่ยนจาก R มา N โดยที่ไม่กดตัวLockเกียร์ซึ่งก่อนเข้าศูนย์ การเข้าเกียร์จะนุ่มนวลกว่านี้และเบากว่านี้ ก็เลยเช็คน้ำมันเกียร์ผมว่ามันมากไปเพราะว่ามันเลยหยักบนมาประมาณ 1 Cm. ผมก็เลยไปแจ้งทางศูนย์ แล้วทางศูนย์แจ้งว่า
1. ต้องเปลี่ยนชุดคันเกียร์ เพราะมันหลวมแล้วประมาณ 4000 บาท
ผมเลยถามว่าจำเป็นมั้ย ช่างบอกว่าใช้ไปก่อนได้ก็เลยไม่เปลี่ยน
2. เปลี่ยนยางรองแท่นเครื่อง 4 ตัว ประมาณ 7000 บาท
ผมเพิ่งเปลี่ยนตัวซ้ายขวามาไม่ถึงปีก็เลยบอกว่าขอเปลี่ยนเฉพาะ หน้าและหลังเท่านั้น
หลังจากเปลี่ยนมาแล้วรถมีอาการดังนี้
1. ตอนเครื่องร้อนดับเครื่องแล้วstart ใหม่จะมีอาการกระตุกค่อนข้างแรง
2. ตอนเครื่องร้อนเข้าเกียร์ N ไป D หรือ D ไป N รถมีอาการกระตุกแรงมากจนถ้าดูภายนอกจะเห็นเลยว่ารถกระตุกอย่างแรงเหมือนจะพุ่ง
ก็เลยนำรถไปให้ที่ศูนย์เดิมดูหลังจากดูแล้วมีการเช็ครอบเครื่องการทำงานของเครื่องและดูดน้ำมันเกียรออก แล้วนำมาส่งผมให้ลองลองดูปรากฏว่าอาการไม่ดีขึ้น ช่างแจ้งว่า
1. เนื่องจากรถผมเป็นเครื่อง 1.8 อาการกระตุกตอน Start เป็นเรื่องปกติ
ผมบอกว่าเมื่อก่อนไม่แรงขนาดนี้แล้วทำไมตอนเย็นจึงไม่เป็นซึ่งความจริงแล้วตอนเย็นน่าจะกระตุกมากกว่าด้วยเพราะต้องมีการส่งถ่ายน้ำมันต่างๆอย่างแรง แล้วถ้าเครื่องแค่ 1.8 กระตุกมากขนาดนี้ถ้าเครื่อง 3.0 สงสัยคอหัก
2. เข้าเกียร์แล้วกระตุกมากต้องล้างห้องเกียร์ หรือ Over hall เนื่องจากมีเศษโลหะไปอุดตันตามท่อต่างๆทำให้น้ำมันเดินไม่สะดวก
ผมเลยดึงก้านวัดออกมาให้ดูสภาพน้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ไม่มีเศษอะไรเลยลองขยี้ดูก็เนียนไม่มีเศษอะไรเลย
ทางหัวหน้าช่างก็เลยนำรถไปตรวจสอบช่วงล่างให้ใหม่ ผมดูจากกระจกด้านนอกสังเกตุว่าหัวหน้าช่างมีการเรียกคาดว่าเป็นลูกน้องไปต่อว่าด้วย แล้วก็มีการขันน็อตปรับแต่งอะไรบางอย่าง มีก้านเหล็กที่ใช้ถอดล้อออกจากกะทะล้อมาช่วยงัดด้วย เสร็จแล้วหัวหน้าช่างบอกว่า ช่างตั้งตัวหลังต่ำไปก็เลยกดตัวหน้าลง ผมก็เลยลองดูปรากฎว่าสตาร์ทแล้วการกระตุกนุ่มนวลขึ้นแต่ก็ยังกระตุกอยู่แต่นุ่มนวลขึ้นมาก ส่วนการเข้าเกียร์แล้วกระตุกยังเป็นอยู่แต่ไม่มาก แต่ว่าช่วงเข้าเกียร์ D ไป N ก็ยังแรงอยู่ ช่างเลยบอกว่าให้ลองไปใช้ดูซักพักอาจจะเป็นที่ยางลองแท่นเครื่องยังใหม่ มันยังนิ่มทำให้มีการโยนตัวมาก
หรื่อออาจจะต้องล้างห้องเกียร์ ค่าใช้จ่ายประมาณ 1 พันบาท แต่ให้ผมไปใช้ดูก่อนซักระยะให้ยางรองแท่นเครื่องแข็งอีกหน่อย
ผมเลยมีข้อสงสัยอยากถามอาว่า
1. การล้างห้องเกียร์จำเป็นไหม และ น่าจะเป็นประเด็นหรือไม่
2. น้ำมันเกียร์มีผลมั้ย เพราะสังเกตุว่าจะเป็นตอนที่มันร้อน
3. ชุดกระปุกเกียร์ที่มันเปลี่ยนเกียร์แล้วดังที่คันเกียร์มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนมั้ย
4. การที่ช่างตั้งสายส่งเกียร์ให้ตึงมีผลมั้ย
5. จริงมั้ยที่ต้องรอยางรองแท่นเครื่องแข็งขึ้นอีกนิดนึง
6. เมื่อวานผมดูที่ยางรองแท่นตัวหลังปรากฎว่า มีร่องรอยการเชื่อมหรือถลอกที่ปลอกของมันอยู่ที่ด้านบน แต่ผมคิดว่าเชื่อมเพราะมันนูนยังเป็นรอยขาวๆอยู่เลย ไม่รู้ตัวนี้มีปัญหารึปล่าว ซึ่งโดยปกติแล้วมันไม่น่าจะเชื่อมมันควรเป็นชิ้นเดียวใช่มั้ยครับ
ขอรบกวนคุณอาด้วยครับโปรดแนะนำแนวทางแก้ปัญหาให้ผมด้วย ผมต้องใช้รถเดินทางทุกวันและผมว่าค่อนข้างไกลจากบ้านมาที่ทำงาน ประมาณ 50 กิโลไปกลับก็ 100 กิโลต่อวันแล้วผมต้องเดินทางอาทิตย์ละ 6 วัน อาจจะยาวไปนิดนะครับแต่ผมอยากให้คุณอาได้ทราบรายละเอียดมากที่สุด
1-ควรล้างเป็นครั้งเป็นคราว ผมล้างของผมทุกห้าหมื่นกิโลเมตร
2-มีผล หากใช้ผิดแบบ และการเข้าเกียร์ ควรจะเหยียบเบรกไว้ก่อนเข้าเกียร์จากเกียร์ว่าง ทุกครั้ง
3-บางคนเขาใช้การเปลี่ยนเฉพาะบูทคันเกียร์ ที่เป็นไฟเบอร์ หรือเหล็ก และแตก เปลี่ยนแค่นี้ ก็ใช้ได้ แต่ทางศูนย์บริการคงไม่มีอะไหล่เป็นชิ้น จริงจริงแล้ว ผมอยากให้คุณเปลี่ยนศูนย์บริการมากกว่าครับ ลองใช้ศูนย์อื่นดูบ้างก็ไม่ผิดกติกา
4-ไม่ทราบครับ ว่าตึงอย่างไร หย่อนอย่างไร ปกติเขาก็ตั้งไว้ให้ทำงานได้พอดีทั้งนั้นนี่ครับ
5-ไม่จริง
6-ใครจะไปเชื่อมยางรองแท่นเครื่องกันครับ เชื่อมได้ที่ไหน เพราะเชื่อมต้องใช้ไฟ ร้อนมาก ยางละลายหมดแล้ว และยางกับเหล็กก็ไม่เป็นชิ้นเดียวกันอยู่แล้ว คือชุดยางแท่นเครื่อง จะมีเหล็กปะกบหน้าหลัง มียางอยู่ตรงกลาง หรือยางทั้งตัว แล้วมีปลอกเหล็กสวมอยู่ภายใน ไม่มีแบบเป็นชิ้นเดียวเท่านั้นหรอกครับ-ธเนศร์
อีซูซุส่งเครื่อ…