อีซูซุเปิดตัว “สนามรถขับเคลื่อนสี่ล้ออีซูซุ” แห่งใหม่ จ.ปทุมธานี ทั้งท้าทายและสมบูรณ์แบบ(มี Clip VDO)
อีซูซุเปิดตัว “สนามรถขับเคลื่อนสี่ล้ออีซูซุ” (ISUZU 4×4 LAND) แห่งใหม่ จังหวัดปทุมธานี ในรูปแบบใหม่บนเนื้อที่ 30 ไร่ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี แหล่งรวมขีดสุดแห่งความท้าทายใหม่กับ 7 สถานีทดสอบที่จำลองรูปแบบของอุปสรรคตามธรรมชาติไว้อย่างครบครัน เพื่อให้บรรดานักขับที่มีใจรักรถโฟร์วีลไดรฟ์ได้ใช้ฝึกฝนทักษะการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งพร้อมรองรับขีดสุดแห่งสมรรถนะขุมพลังเครื่องยนต์ “อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ของรถปิกอัพออฟโรดขนานแท้ของอีซูซุ
กลุ่มตรีเพชร โดย มร. โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุได้เปิดสนามขับเคลื่อนสี่ล้อแห่งแรกที่พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะการใช้รถออฟโรดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 ในโอกาสนำ “อีซูซุโรดีโอ โฟร์วีลไดรฟ์” รถปิกอัพขับเคลื่อนสี่ล้อที่ประกอบในประเทศเป็นครั้งแรกในประเทศไทยออกสู่ตลาด และตลอด 26 ปีที่ผ่านมา “สนามรถขับเคลื่อนสี่ล้ออีซูซุ พัทยา” ได้เป็นสถานที่ฝึกอบรมการใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อสำหรับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน อีกทั้งใช้ทดสอบสมรรถนะของรถ 4×4 สำหรับผู้จัดจำหน่าย ผู้จำหน่ายอีซูซุ ลูกค้า และสื่อมวลชนจากประเทศต่างๆ ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นในปีนี้ที่อีซูซุก้าวสู่ปีที่ 61 ของการดำเนินธุรกิจในไทย จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้แนะนำ “สนามรถขับเคลื่อนสี่ล้ออีซูซุ” แห่งใหม่ จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีรูปแบบที่แปลกใหม่ต่างจากสนามพัทยา โดยตั้งใจให้เป็นสนามทดสอบออฟโรดที่สมบูรณ์แบบ ยิ่งใหญ่ และดีที่สุดของประเทศไทย บนพื้นที่กว้างขวางถึง 30 ไร่ พร้อมคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ โปร่งสบาย มีห้องอบรม และพื้นที่สันทนาการครบครัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานีทดสอบใหม่ทั้ง 7 สถานี ได้ออกแบบมาเพื่อสร้างความท้าทายใหม่ๆ โดยจำลองอุปสรรคทุกรูปแบบเพื่อให้นักขับที่มีใจรักการขับขี่แบบโฟร์วีลไดรฟ์ได้สัมผัสประสบการณ์เหมือนอยู่ในสถานการณ์ขับขี่จริงตามธรรมชาติ และตอบสนองการใช้งานของรถขับเคลื่อนสี่ล้อ “อีซูซุ วี-ครอส 4×4” ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพของขุมพลังเครื่องยนต์ “อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่สามารถเดินทางฝ่าได้ทุกสภาพอุปสรรค ซึ่งสนามแห่งนี้สามารถรองรับผู้สนใจเรียนรู้ทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อน สี่ล้อทั้งจากหน่วยงานในประเทศและต่างประเทศได้มากกว่าที่เดิม และยังสะดวกในการเดินทาง เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ อีกด้วย”
สถานีทดสอบของ “สนามรถขับเคลื่อนสี่ล้ออีซูซุ” แห่งใหม่ จังหวัดปทุมธานี ได้จำลองอุปสรรคตามธรรมชาติที่ครบถ้วนและท้าทายยิ่งขึ้น ไล่เรียงตามลำดับความยากง่ายของการขับ เพื่อให้เป็นสนามฝึกฝนวิธีการใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้ออย่างถูกต้องและปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ขับได้สัมผัสถึงสมรรถนะการลุยแบบออฟโรดขนาดแท้ของ “อีซูซุ วี-ครอส 4×4” ซึ่งนอกจากจะมีพละกำลังของเครื่องยนต์ “อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ที่มีแรงม้าและแรงบิดที่สูงแล้ว ยังมีระบบ TERRAIN COMMAND ใช้ควบคุมระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อที่ทันสมัย เป็นหัวใจสำคัญและตอบโจทย์การขับขี่แบบออฟโรดให้พร้อมสำหรับทุกการใช้งาน พร้อมสมรรถนะช่วงล่างสุดแกร่งที่ทำให้สามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ไปได้อย่างง่ายดาย ตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบกับการใช้ชีวิตอิสระให้ความเพลิดเพลินกับการผจญภัยได้เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น
โดย 7 สถานี ประกอบด้วย
สถานีที่ 1 : V-Curve เอียงซ้าย เอียงขวา – ปีนป่ายง่ายดาย ด้วยระยะยืดล้อสูงสุด
กับการจำลองลูกระนาดสลับซ้าย-ขวา ทำให้ล้อรถสัมผัสพื้นแค่เพียง 3 ล้อ ซึ่งจะเห็นระยะยืดของล้อ หรือช่วงเขย่งได้ชัดเจน
สถานีที่ 2 : Rugged Route ทิ่มหน้า ทิ่มหลัง – ตะลุยทางทรหด พิสูจน์ช่วงล่างชั้นยอดกับความขรุขระบนเส้นทางวิบาก เพื่อให้เห็นชัดถึงสมรรถนะช่วงล่างชั้นเยี่ยมที่ช่วยให้ผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยความนุ่มนวล
สถานีที่ 3 : High Hill พลังสูงสู้ฟ้า – พิชิตทางสุดชัน กับสถานีที่มีความสูงถึง 15 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 6 ชั้นและมีความชันถึง 40 องศา สามารถขับขี่ได้โดยไม่ต้องใช้คันเร่ง หรือ Walking Speed ในรุ่นเกียร์ธรรมดา
สถานีที่ 4 : Rock Canal ฝ่าลำธารหิน – ความท้าทายใหม่สัมผัสความสมจริงของการขับรถผ่านลำธาร ลุยน้ำลึก ตะกุยผ่านลำธารหิน
สถานีที่ 5 : Waterfall Cliff ปีนไต่ม่านน้ำตก – อุปสรรคใหม่สุดท้าทายที่ดีไซน์ให้ตื่นเต้นเสมือนได้ปีนไต่ขึ้นไปบนน้ำตก ข้ามทางทั้งลื่น ทั้งชัน ทั้งขรุขระ ผ่านม่านน้ำตก
สถานีที่ 6 : Zigzag U-Shape หกเหินระทึก – ระทึกใจกับทางแคบรูปตัวยู และทางโค้งซิกแซก เอียงลาดชัน กับสมดุลยภาพอันเหนือชั้นของรถอีซูซุ วี-ครอส 4×4
สถานีที่ 7 : Side Slope สะอึกเอียงวัดใจ – พิสูจน์สมรรถนะช่วงล่างระดับโลก เกาะถนนและทรงตัวดีเยี่ยมกับความเอียงถึง 40 องศา และพื้นผิวที่ขรุขระ
ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่ได้เพิ่มพูนประสพการณ์และทักษะการขับขี่ให้ผู้ใช้รถ เมื่อต้องเจอกับสภาพถนนหลายรูปแบบในชีวิตจริง