บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด นำเหล่าสมาชิกประชาคมอีซูซุแอ่วเหนือ เยือนถิ่นล้านนาไปกับ “อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล คาราวานสัญจร” เส้นทางที่ 3 ซึ่งเป็นเส้นทางในประเทศ ทริปสุดท้ายของปี จากเมืองแพร่ เที่ยวลำปาง สิ้นสุดที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ฟ้าฝนเป็นใจ อากาศเย็นสบาย พาชมขอบเหมืองแร่ที่ดูลึกลับแต่แฝงความสวยงามน่าทึ่ง เก็บเกี่ยวสาระในพิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา ฯ (เหมืองแม่เมาะ) และชมการแสดงช้างแสนรู้ น่ารัก ณ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย
“อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล คาราวานสัญจร” เส้นทางที่ 3 แพร่ – เชียงใหม่ ได้รับเกียรติจากคุณปริญญา พันธุ์พาณิช อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค5, คุณศิริ สุขทรงศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานแพร่ และ มร.อาซึชิ สุกียาม่า ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายดีลเลอร์ บี บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมตีธงปล่อยขบวนคาราวาน จากโชว์รูม บริษัท อีซูซุแพร่ จำกัด มุ่งสู่จังหวัดลำปาง ผ่านเส้นทางขุนเขาคดโค้งที่มีการซ่อมทางเพื่อขยายถนนให้กว้างขึ้นเป็นระยะ ซึ่งในอนาคตอันใกล้เส้นทางจากแพร่สู่ลำปางจะสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยจุดหมายแรกที่ “โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปาง” สถานที่จำหน่ายกระแสไฟฟ้าไปยังที่ต่างๆ เกือบครึ่งประเทศ สมาชิกต่างตื่นตาและแชะภาพเป็นที่ระลึกอย่างสนุกสนานกับรถบรรทุกถ่านหินขนาดใหญ่โตมโหฬาร เพียงแค่ขนาดล้อยังใหญ่และสูงท่วมหัวเลยทีเดียว พร้อมชมความอลังการของเหมืองแม่เมาะที่ขุดเจาะหาแหล่งถ่านหินลิกไนต์ลึกลงไปถึง 200 เมตร สัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์จากขอบเหมืองที่หาไม่ได้ในเมืองกรุง
“โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปาง” วางนโยบายการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 ด้วยการ “ติดตั้งเครื่องดักจับฝุ่นด้วยไฟฟ้าสถิตย์” ซึ่งมีประสิทธิภาพในการดักจับ 99% คุณภาพนั้นดีกว่าต้นแบบที่โรงไฟฟ้าแถวยุโรป และการดักจับฝุ่นนี้ทำให้ได้ “เถ้าลอย” มาใช้ประโยชน์ด้านก่อสร้างเพื่อผลิตปูนซีเมนต์ต่อไป นอกจากนี้ยังได้ติดตั้ง “เครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์” ที่กำจัดได้ถึง 95% ซึ่งสามารถกำจัดได้ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ แถมยังได้ “ยิบซัมสังเคราะห์” มาใช้ประโยชน์เพิ่มเติมอีกด้วย
นอกจากนี้ สมาชิกยังได้เข้าชม พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา ฯ (เหมืองแม่เมาะ) โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ซึ่งพระองค์ฯ ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สงวนแหล่งถ่านหินลิกไนต์ที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ไว้ใช้ในราชการ อันนำมาซึ่งคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติจวบจนปัจจุบัน นอกจากนี้ในพิพิธภัณฑ์ฯ ได้จำลองขั้นตอนการผลิตไฟฟ้า เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับถ่านหิน การฉายภาพยนตร์ 3 มิติเกี่ยวกับยุคสมัยของโลกมนุษย์ และมีการจัดแสดงวัตถุสิ่งของที่มีความหมายในอดีต ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ปิดท้ายก่อนจากโรงไฟฟ้าด้วยอาหารกลางวันมื้ออร่อยท่ามกลางบรรยากาศสนามกอล์ฟของ กฟผ.แม่เมาะ
เดินทางสู่จุดหมายเอาใจสมาชิกตัวน้อย ณ “ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย” ซึ่งได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Awards) ประเภทรางวัลดีเด่นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พ.ศ. 2541 ปัจจุบันมีโครงการโรงเรียนฝึกควาญช้างเพื่อฝึกควาญหรือผู้ที่ประสงค์จะเป็นควาญให้สามารถดูแลช้างได้อย่างถูกต้อง มีชาวต่างชาติให้ความสนใจมาสมัครเป็นนักเรียนหลายคน และมีกิจกรรมโฮมสเตย์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติเรียนรู้วิถีชีวิตที่ผูกพันระหว่างช้างกับคนเลี้ยงช้างอย่างใกล้ชิด
บรรยากาศในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เริ่มต้นด้วยการชมการสาธิตทำกระดาษสาจากมูลช้าง นำมาซึ่งผลผลิตเป็นสินค้าที่ระลึกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษโน๊ต การ์ดอวยพร กระดาษห่อของขวัญ ฯลฯ นอกจากกิจกรรมเพิ่มความสุข สนุกทุกครั้งที่ร่วมเดินทางกับอีซูซุแล้ว เหล่าสมาชิกประชาคมอีซูซุยังได้ร่วมบริจาคเงินและอาหาร มอบให้แก่โรงพยาบาลช้างประจำศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย โดยมีสัตวแพทย์หญิงปิติกาญจน์ บำเพ็ญผล เป็นผู้แทนรับมอบ ก่อนเข้าชมการแสดงของช้างแสนรู้กว่า 10 เชือก โดยมี “ใบตอง” ช้างน้อยนักแสดงนำที่มีลีลาท่าทางน่ารักน่าชัง ทำตามคำสั่งได้อย่างแม่นยำ เรียกเสียงปรบมือและเสียงหัวเราะ สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดีตลอดเวลา 45 นาที สำหรับการแสดงช้างจะมี 2 รอบในวันธรรมดา คือ 10.00 น. และ 11.00 น. ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะเพิ่มรอบ 13.30 น. อีก 1 รอบ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 80 บาท ถ้ารวมรถรางนำเที่ยวภายในศูนย์อนุรักษ์ฯ ก็จะคิดท่านละ 100 บาท ส่วนเด็ก 40 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ www.thailandelephant.org
เมื่อถ่ายภาพกับน้องใบตองและเหล่าผองเพื่อนกันพอสมควร ได้เวลาเคลื่อนขบวนเข้าที่พักสุดหรู ณ โรงแรมคุ้มหญา รีสอร์ท แอนด์ สปา โรงแรมในเครือเซนทารา รีสอร์ทสไตล์ไทยประยุกต์ผสานความงดงามของเมืองเหนือ ภายในตกแต่งได้อย่างลงตัว ห้องพักกว้างขวาง แถมงานปาร์ตี้รับรองสุดพิเศษ เรียกความสุขด้วยการเพ้นท์ร่มบ่อสร้าง แบบ DIY สไตล์ใคร สไตล์มันนำกลับไปเป็นที่ระลึกไว้อวดเพื่อนฝูงได้อีกด้วย ตบท้ายมื้อค่ำด้วยอาหารพื้นเมืองแบบขันโตก พร้อมขนมจีนน้ำเงี้ยวและข้าวซอยต้นตำหรับ จัดเต็มกับการแสดง อาทิ ฟ้อนเทียน การแสดงกลองสะบัดชัย ฟ้อนไหม และพร้อมใจกันรำวงอย่างสนุกสนานทั้งนักแสดงและผู้ร่วมคาราวาน ก่อนรับรางวัลจากผู้สนับสนุนใจดี อิ่มทั้งกายและใจกันอย่างถ้วนหน้า
การเดินทางของคาราวานอีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล ประจำปี 2555 ทริปในประเทศได้จบลงแล้ว ยังคงเหลือเส้นทางระหว่างประเทศ คือ ไทย – ลาว (ระหว่างวันที่ 1-5 สิงหาคม 2555) โดยอีซูซุจะรีบนำบรรยากาศความสนุกมารายงานในโอกาสต่อไป
thunyaluk@caronline.net
มูลนิธิกลุ่มอีซ…
“มหกรรมยานยนต์ …
นายณัทธร ศรีนิเ…