Brand: PEUGEOT Model: 406
Year: 2002 Miles: 0-5000
From: Big Big
เนื่องจากผมต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของรถ สัก 5% โดยการทำดังนี้จะพอไหวไหมครับ
1. เปลี่ยน หัวเทียนที่ดีขึ้น เช่นที่มันเป็น แพลทตินั่มหรือที่มัน ให้ประกายไฟมากขึ้น คำถามคืออะไรบ้างนี้ผมต้องทราบบ้างเวลาไปซื้อหัวเทียนอันใหม่เพื่อให้เข้ากันกับรถของผม
2. เปลียน สายหัวเทียนใหม่ คำถามคืออะไรบ้างนี้ผมต้องทราบบ้างเวลาไปซื้อสายอันใหม่เพื่อให้เข้ากันกับรถของผม
3. ท่อของกรองอากาศ ผมสังเกตุเห็นว่าอันที่อยู่ในรถผมมันแปลกๆ คือมันยาวมาก (พาดจากด้านซ้ายสุดมาขวาสุดเลยครับ)เข้าใจว่าผู้ประกอบบ้านเราคงทำขึ้นเพื่อหนีน้ำ ถ้าผมทำให้มันสั้นลงแต่สูงพอหนีน้ำได้และไปอยู่ที่ตำแหน่งของอากาศ(เย็น เพราะตอนนี้ปลายท่อมันใกล้กับหม้อน้ำรถมากครับ)เข้าสะดวกขึ้นจะดีขึ้นไหมหรือไม่แตกต่างครับ
4. การเอา หม้อแคท ที่ใช้กรองไอเสียออกจะดีขึ้นไหมและจะมีผลกับระบบเครื่องยนต์หรือเปล่าครับคือต้องปรับอะไรไหมครับ
รบกวนถาม 4 ข้อครับ ขอบคุณมากครับ
Big
เป็นคำถามที่ผมอยากจะตอบให้ทราบ โดยไม่ต้องถามกันอยู่แล้วครับ สำหรับเรื่องการแต่งรถง่ายง่าย แบบมือใหม่นี่แหละครับ ผมเห็นว่า ที่เราพูดกันอยู่ทุกวันนี้ ก็มักจะเป็นเรื่องเทคนิคที่ก้าวลึกเข้าไปในทางซ่อมเครื่องยนต์กันมาก ดังนั้น ผมจึงพยายามใช้การตอบแบบง่ายที่สุด เพื่อให้เข้าใจง่าย และหากเป็นไปได้ ก็อ่านสนุกด้วย ในหนังสือพิมพ์ที่ผมทำงานเขียนคอลัมน์ให้
ซึ่ง ก็กำลังจะออกสู่สายตาท่าน ในประชาชาติธุรกิจ คอลัมน์เพื่อนช่าง เพื่อคุณ ทุกฉบับวันอาทิตย์ โดยจะเขียนสลับกันไปแบบ 3-1 ให้ 3 ส่วนเป็นเรื่องของ”การกลับไปรับคนใหม่” ที่เพิ่งขับรถได้ และมีรถคันแรก หรือคันที่สองที่สามก็แล้วแต่ แต่ยังถือเป็นกลุ่มคนใหม่ ที่ยังไม่รู้เรื่องรถเรื่องรากันมากเท่าไรนัก มีปัญหาคับข้องใจ ก็ไม่อยากถามใคร ไม่กล้าถาม แต่จะอ่านเรื่องราวที่อยากอ่านอยู่เสมอ เพียงแต่หาบทความอย่างที่อยากอ่าน อยากรู้ยากหน่อย ด้วยว่า พวกนักเขียนคอลัมน์รถยนต์ ไม่ยอมเขียน กลัวจะถูกหาว่า”โง่” หรือล้าสมัย
เผอิญผม และกองบรรณาธิการประชาชาติธุรกิจไม่กลัว กับการเขียนและเสนอเรื่องที่ท่านนักเขียนเหล่านั้น เห็นว่า คนเขียนความรู้ไม่ถึง แต่อย่างไร ผมจึงเขียนให้ประชาชาติธุรกิจได้อย่างเต็มใจ และเต็มความภาคภูมิ
ผมเชื่อเสมอว่า คนที่เขียนหนังสือให้คนอ่านเข้าใจได้ง่ายนั้น ทำงานเขียนออกมาได้ยากครับ
ต้องเก่งจริง รู้จริง จึงจะบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรที่เข้าใจง่ายได้
เรื่องของคุณ ผมจะนำไปเป็นหัวข้อตอบปัญหาในบทความแรก หรือบทความที่สองของประชาชาติธุรกิจ ในคอลัมน์เพื่อนช่างเพื่อคุณแบบใหม่เลยทีเดียว แต่ตอนนี้ ขอตอบง่ายง่ายว่า
1-การทำให้ประกายไฟจากหัวเทียนแรงขึ้น มีผลกับการจุดระเบิด และให้ผลกับการเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์จริง แต่ไม่ใช่เพียงแค่ที่คุณจะเปลี่ยนหัวเทียนให้ดีขึ้น ต้องประกอบกันกับอย่างอื่นด้วย ดังนี้ครับ
2-สายหัวเทียน ควรเลือกสายประเภทไฮ-เพอร์ฟอร์มเมนซ์ และให้สายมีแรงต้านทานน้อยลงกว่าเดิม เมื่อใช้กับหัวเทียนใหม่ จะได้เพิ่มระดับของประกายไฟได้ แต่ก็ยังต้องการอย่างอื่นอีกด้วย หากไม่ใช้ ก็จะไม่ได้อะไรเพิ่มขึ้นเลย
สิ่งที่ต้องใช้ ก็คือคอยล์จุดระเบิด ที่ควรจะต้องให้กำลังไฟจุดระเบิดได้สูงถึง 49,000 โวลต์ หรือ 50,000 โวลต์เป็นอย่างต่ำ คอยล์จุดระเบิดระดับ 49,000 โวลต์ที่ผมบอก ก็มักจะเป็นคอยล์มาตรฐานของรถที่ใช้ระบบ Direct Ignition หรือ Direct Coil เช่นวอลโว่ 960 รุ่น 3.0 ของผม รถอื่น มักจะใช้คอยล์จุดระเบิดระดับ 30,000 ซึ่งจะไม่สามารถให้กำลังการจุดระเบิดเพิ่มขึ้น เพื่อหวังกำลังเครื่องยนต์ได้ คุณต้องเปลี่ยนคอยล์ให้ให้กำลังสูงสุดเท่าที่จะหาได้ในตลาดลงไปด้วย หรือเป็นอันดับแรก
โดยเฉพาะรถยนต์ทั่วไป ที่ให้ตั้งเขี้ยวหัวเทียนห่างได้เพียงไม่เกิน 0.30 มม. นั้น หมายความว่า คอยล์จุดระเบิด มีกำลังไฟเพียง 30,000 โวลต์หรือใกล้เคียงกันเท่านั้น ถ้าจะทำ ก็ต้องเปลี่ยนคอยล์ครับ
3-อากาศเย็น ช่วยให้กำลังเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นจริง เพราะความหนาแน่นของอากาศมีมากขึ้น และกำลังของรถ มาจากการขยายตัวของอากาศที่ร้อนเพราะการเผาไหม้ของเครื่องยนต์
แต่ของรถคุณ ผมเข้าใจว่า เขาต้องทำให้ท่ออากาศยาว เพื่อเพิ่มแรงการไหลของอากาศ การตัดสั้น จะทำให้แรงการไหลลดน้อยลง และไม่ต่อเนื่อง ทำให้กำลังลดลงได้มาก จะเห็นได้จากพวกที่ทำการดัดแปลงไปใช้กรองเปลือย ที่ควรจะให้กำลังดีขึ้น แต่ปรากฏว่า ไม่ได้ให้อะไรดีขึ้นเลย นอกจากเสียงที่ดังขึ้น เหมือนทำให้ขับสนุกขึ้น แต่ที่จริงแล้ว เป็นเพราะการเหยียบคันเร่ง และอากาศที่ผ่านหม้อกรองส่งเสียงดังอึกทึก แทนการเข้าอย่างสงบเรียบร้อย เป็นยูนิฟอร์ม ดังนั้น จึงไม่แนะนำครับ
4-Cat ของไอเสีย เมื่อเอาออก จะเพิ่มกำลังให้เครื่องยนต์ประมาณ 5% โดยอัตโนมัติ แต่ก็จะส่งมลภาวะออกสู่บรรยากาศ ให้โลกเราสกปรกขึ้นได้ถึง 100% ครับ
ถ้าคุณรับผิดชอบกับมลภาวะของโลก คุณก็คงต้องตอบตัวเองได้ว่า เอาออก ดีหรือไม่-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…