สู่ยุคไฮบริด ..กับ
คัมรี ไฮบริด ใหม่
Drive Intelligent Drive Hybrid
มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย มร.ยูกิฮิโระ โอกาเน หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส และ นายนิกร ประเสริฐสม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวแนะนำ “คัมรี ไฮบริด” ยนตรกรรมอัจฉริยะเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ศกนี้ ที่ ห้องบอลรูม โรงแรมเอราวัณ
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำเสนอรถยนต์ไฮบริดซีดานขนาดกลางรุ่นใหม่ล่าสุด คัมรี ไฮบริด ที่ประกอบขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชีย ยนตรกรรมใหม่สำหรับโลกยุคสีเขียว ที่เพียบพร้อมเทคโนโลยีใหม่อันทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด สมรรถนะดีเยี่ยม ตอบสนองการขับขี่ได้เร้าใจยิ่งกว่า ทั้งเป็นรถยนต์ที่ให้ความเงียบ และให้ความรู้สึกสบาย รื่นรมย์ ตลอดการขับขี่ พร้อมแนะนำ คัมรี ใหม่ รุ่นปรับปรุงโฉม ตอบสนองความต้องการลูกค้าให้เป็นยนตรกรรมเหนือระดับ สำหรับบุคคลเหนือระดับอย่างแท้จริง
ยนตรกรรมแห่งเกียรติประวัติ
คัมรี ได้รับการแนะนำเข้าสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ.2525 ซึ่งชื่อ คัมรี นั้นไม่ได้กำเนิดมาจากภาษาอังกฤษ แต่มาจากภาษาญี่ปุ่นในคำว่า “คัมมูริ” ซึ่งแปลว่า “มงกุฎ” ซึ่ง คัมรี ได้สะท้อนความหมายและภาพลักษณ์ของ “มงกุฎ” ได้อย่างชัดเจน โดยเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง ที่มีดีไซน์อันหรูหรา ภูมิฐาน ห้องโดยสาร โอ่อ่า กว้างขวาง พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมจากลูกค้าในสหรัฐอเมริกา ด้วยการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ซีดานขนาดกลางในประเทศสหรัฐอเมริกาถึง 11 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน คัมรีได้รับการแนะนำเข้าสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทย ครั้งแรกในปลายปี พ.ศ.2536 ด้วยการเป็นรถยนต์นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ได้รับความนิยม อย่างแพร่หลายตลอดมา ด้วยยอดจำหน่ายมากกว่า 100,000 คัน และเริ่มประกอบคัมรีในประเทศ ในเจนเนอเรชั่นที่ 4 และได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทยมากขึ้นตามลำดับ จนรุ่นปัจจุบันเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 6 แล้ว และสามารถครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางมากกว่า 50%
มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “โตโยต้ามีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและริเริ่มโครงการต่างๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ภายใต้พันธสัญญาที่จะร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม และประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกที่ผลิตรถยนต์คัมรี ไฮบริด ในทวีปเอเซีย นอกเหนือประเทศญี่ปุ่น”
“คัมรีไฮบริด เป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะอันยอดเยี่ยม มาพร้อมกับอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยระดับสูง ที่ทุกท่านพบได้จากรถยนต์ซีดานระดับหรูเท่านั้น และด้วยคุณสมบัติอันน่าประทับใจเหล่านี้ทำให้เรามั่นใจว่า คัมรี ไฮบริด จะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักของเราที่จะกระตุ้นตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง นับจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี โดยเรามีเป้าหมายการขายตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนธันวาคมอยู่ที่ประมาณ 4,000 คัน”
มร.ทานาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การส่งมอบรถยนต์ไฮบริดคันแรกจะเริ่มต้นในช่วงต้นสัปดาห์หน้า โดยเราเตรียมความพร้อมสำหรับการบริการหลังการขาย ด้วยการอบรมผู้ฝึกสอนและช่างเทคนิคที่มีความรู้และความชำนาญเรื่องเทคโนโลยีไฮบริดโดยเฉพาะ ซึ่งจะประจำอยู่ในศูนย์บริการโตโยต้าทุกแห่ง ที่สำคัญเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เราจึงรับประกันคุณภาพของรถยนต์ คัมรี ไฮบริด เป็นระยะเวลา 3 ปี หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร รวมถึงการรับประกันพิเศษในส่วนของ แบตเตอรี่ ไฮบริด เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง”
มร.ยูกิฮิโระ โอกาเน หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “เราพัฒนาคัมรี ไฮบริด ใหม่ภายใต้หลักการ 4 ข้อ คือ การรักษาสิ่งแวดล้อมโดยลดการปล่อย ไอเสีย การประหยัดน้ำมันด้วยพลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้า อัตราเร่งอย่างต่อเนื่องจากพลังของเครื่องยนต์ผสานกับมอเตอร์ และความเงียบที่สัมผัสได้ขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำหรือในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ระบบจัดการรวมไดนามิคของตัวรถ (VDIM) จะผสานการทำงานของระบบบังคับเลี้ยว ระบบเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว และระบบป้องกันการลื่นไถล เพื่อสมรรถนะที่ดีของรถยนต์ในทุกๆด้าน ทั้งการขับขี่ การเลี้ยว และการหยุดรถ พร้อมกับห้องโดยสารที่ได้รับการพัฒนาให้มีความสบายและเงียบมากขึ้น”
มร.โอกาเน กล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังจากเราได้ทำการทดสอบคัมรี ไฮบริด ในเมืองไทย ซึ่งมีการขับขี่ใช้งานภายใต้อากาศที่ร้อน การจราจรที่ติดขัดซึ่งทำให้ระบบปรับอากาศต้องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลานั้น เราจึงมั่นใจว่าคัมรี ไฮบริด นั้นพร้อมสำหรับตลาดเมืองไทย”
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “สำหรับกลุ่มลูกค้าของรถยนต์คัมรี ไฮบริดนั้นเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความนำสมัย เน้นประโยชน์ใช้สอยของรถเป็นหลัก โดยเราได้วางกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดของคัมรี ไฮบริด ภายใต้แนวคิด “Intelligent Leader” ซึ่งจะบ่งบอกถึงความล้ำหน้าและความอัจฉริยะในเรื่องของเทคโนโลยีไฮบริดพร้อมกับความเป็นผู้นำของคัมรี โดยทำการสื่อสารเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงแรก เราได้สื่อสารเกี่ยวกับเทคโนโลยี HSD หรือ Hybrid Synergy Drive เพื่อที่จะให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายรับทราบและเข้าใจเกี่ยวกับระบบไฮบริด อย่างถูกต้อง จากนั้นเราจะทำการแนะนำรถคัมรี ไฮบริดอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและรักษาความเป็นผู้นำด้านยอดขายในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง”
นายวุฒิกรกล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นแล้ว เพื่อความมั่นใจของลูกค้า เราได้เตรียมความพร้อมด้านบริการหลังการขายด้วย เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับบริการรถยนต์ ไฮบริด ที่ศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ นอกจากนี้บริษัทมีนโยบายให้ส่งแบตเตอรีใช้แล้วนำกลับไปกำจัดที่บริษัท ผู้ผลิต ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อการกำจัดแบตเตอรีไฮบริดอย่างถูกวิธี โดยทางเราจะเป็นผู้ดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด”
คัมรี ไฮบริด : ยนตรกรรมใหม่แห่งยุคประหยัดพลังงาน
การผสานพลัง ….ด้วย ระบบไฮบริด THSII
ตอบสนองการขับขี่ เร้าใจ
ตอบสนองทุกการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson-Cycle รหัส 2AZ-FXE ขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 187 นิวตันเมตร ผสานการทำงานอย่างฉลาดและฉับไว กับชุดมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร โดยพลังจากทั้งสองระบบที่สามารถให้แรงม้าสูงสุดได้ 140 กิโลวัตต์ ที่ 6500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดจากเครื่องยนต์ 187 นิวตันเมตรที่ 4400 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 270 นิวตันเมตรที่ 0-1500 รอบต่อนาที
ชุดมอเตอร์ ประกอบด้วย
– มอเตอร์ เจนเนเรเตอร์ MG 1 สร้างกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรีไฮบริด และส่งกระแสไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ขับเคลื่อน MG2 และยังทำหน้าที่เป็นมอเตอร์สตารท์เครื่องยนต์
– มอเตอร์ขับเคลื่อน MG 2 ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากมอเตอร์ เจนเนเรเตอร์ MG 1 และชาร์จไฟจากการชะลอความเร็ว หรือ การเบรก เก็บไว้ใน แบตเตอรีไฮบริด ลดการสูญเปล่าของพลังงาน
ออกตัวได้อย่างรวดเร็วด้วยแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่สูงถึง 270 นิวตันเมตรตั้งแต่เริ่มออกตัว
ในขณะขับขี่ การทำงานประสานกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะส่งผลให้รถมีอัตราเร่งแซงฉับไว
ระบบตัดต่อกำลัง Power Split Device ทำหน้าที่ตัดต่อและผสมผสานกำลังจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อส่งต่อไปที่เฟืองท้ายเพื่อการขับเคลื่อน อีกส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับการสร้างกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรีไฮบริด
ชุดอินเวอร์เตอร์ แปลงกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรีไฮบริดเป็นกระแสสลับความดันสูง 650 โวลต์ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อน และแปลงกระแสไฟฟ้าลงเพื่อนำกระแสไฟฟ้าที่ได้จากมอเตอร์ เจนเนอเรเตอร์ เก็บไว้ในแบตเตอรีไฮบริดเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนต่อไป
แบตเตอรีไฮบริด ชนิด nickel-metal hydride แหล่งเก็บประจุไฟฟ้าสำหรับพลังงานขับเคลื่อน ออกแบบใช้งานยาวนานเทียบเท่าอายุรถยนต์ ปลอดภัยสูงสุดด้วยชุดควบคุมด้วย ECU ตัดกระแสไฟทันที เมื่อเกิดสิ่งผิดปกติ หุ้มฉนวนไฟฟ้าป้องกันไฟช๊อต พร้อม service plug ตัดกระแสไฟ ที่เก็บแบตเตอรีไฮบริดอยู่ในตำแหน่งปลอดภัยต่อการชนและไม่เปลืองพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังรถ พร้อมรับประกันคุณภาพ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด…
ประหยัดน้ำมันกว่าเครื่องยนต์ธรรมดา
– ออกตัวด้วยระบบไฟฟ้า ไม่สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
– มีมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยการขับเคลื่อน และเครื่องยนต์หยุดทำงานบางขณะ ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง
– ขณะขับขี่แบบปกติเครื่องยนต์ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เครื่องยนต์ทำงานน้อยลง
– ในขณะชะลอความเร็ว หรือเบรก ระบบเบรกไฟฟ้า จะมีส่วนช่วยชะลอความเร็วพร้อมชาร์จไฟกลับเข้ามาเก็บในแบตเตอรี ไฮบริด เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อน ลดการสูญเปล่าของพลังงาน
– คอมเพรสเซอร์แอร์แบบไฟฟ้า และพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ไม่ใช้กำลังจากเครื่องยนต์ ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น
– ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานที่ 0.29 ตามหลักอากาศพลศาสตร์ของยานยนต์ชั้นสูง ช่วยลดภาระของเครื่องยนต์
– ติดตั้งแผ่นปิดเครื่องยนต์ด้านล่าง เพื่อความไหลลื่นของอากาศใต้ตัวรถ พร้อมแผ่นปิดด้านล่าง ด้านหลัง และแผ่นปิดพร้อมครีบบริเวณจุดต่ำสุดของถังน้ำมัน
เงียบ…สบาย ตลอดการเดินทาง
– ระบบเครื่องปรับอากาศทำงานด้วยไฟฟ้า พร้อมพลาสม่า คลัสเตอร์ ให้อากาศภายในรถสะอาดสดชื่น
– ขณะหยุดรถและออกตัว ระบบเครื่องยนต์จะยังไม่ทำงาน (ขึ้นอยู่กับปริมาณไฟในแบตเตอรีไฮบริด) ซึ่งจะช่วยลดเสียงรบกวน
– ห้องโดยสารที่เงียบ ด้วยระบบซับและป้องกันเสียง เพื่อความเงียบเฉกเช่นยานยนต์ระดับหรูตลอดจนกระจกบานหน้าออกแบบพิเศษ ป้องกันเสียงสะท้อนจากเครื่องยนต์ (Acoustic Glass)
ระบบเสริมความปลอดภัย
– ระบบจัดการรวมไดนามิคของตัวรถ (VDIM) ที่จะควบคุมการทำงานของระบบเสริมความปลอดภัยต่างๆในรถยนต์ที่เคยทำงานแยกกัน ให้มาทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบป้องกันการลื่นไถล (TRC) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) เพื่อการทรงตัวที่ดีของรถและสมรรถนะที่ดีทุกๆด้านในการขับขี่ทั้งการขับ การเลี้ยว ตลอดจนการหยุดรถ
– ติดตั้งระบบเบรก ECB II หรือ Electronic Brake Control เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการเบรก และจะมีการชาร์จไฟกลับ เข้ามาเก็บไว้ที่แบตเตอรีไฮบริด นำพลังงานที่สูญเปล่ากลับมาใช้ประโยชน์อีกทางหนึ่ง
– ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า และด้านข้าง
ภายนอก…เอกลักษณ์โดดเด่น ออกแบบเป็นพิเศษเฉพาะรุ่นไฮบริด
– ล้ำสมัยสะท้อนความเป็นไฮบริดด้วย กระจังหน้า กันชน และโคมไฟหน้าที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ สะท้อนเอกลักษณ์
– กันชนหน้าแบบพิเศษ พร้อมไฟตัดหมอกกรอบวงแหวนโครเมี่ยม
– โดดเด่นกับสัญลักษณ์ ไฮบริด ที่ประตูคู่หน้าและฝากระโปรงหลัง
– โคมไฟหน้าดีไซด์พิเศษ ดูสง่างามแบบ 3 มิติ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ HID สีพิเศษ Blue-tinted Extension ปรับมุมลำแสงอัตโนมัติ ตามมุมเลี้ยวของรถ (AFS)
– โคมไฟหลังส่องสว่างด้วย หลอดไฟแบบ แอลอีดี สีพิเศษ Blue-tinted Extension ให้แสงสว่างชัดเจน ประหยัดพลังงานมากกว่า
– ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ลายใหม่ 10 ก้าน พร้อมยางขนาด 215/60 R16
– ภายนอกสดใสกับ สีฟ้าใหม่ Light Blue Mica Metallic พิเศษเฉพาะ คัมรี ไฮบริด เท่านั้น
ภายใน…ล้ำสมัย เพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายพร้อมสรรพ เพื่อสุนทรียภาพแห่งการขับขี่อย่างรื่นรมย์
– ภายในสีเบจ ให้ความรู้สึกอ่อนโยน หรูหรา กว้างขวาง โอ่อ่า ในแบบบุคคลชั้นนำ
– มาตรวัดเรืองแสงออพตริตรอน พร้อมเข็มวัดระดับการใช้น้ำมัน และหน้าจอแสดงการทำงานของระบบไฮบริด เพื่อให้ผู้ขับ ได้ทราบถึงสถานะของระบบขณะขับขี่
– พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ปริมาตรความจุเทียบเท่ารถยนต์คัมรีเครื่องยนต์เบนซิน…ช่องบรรจุแบตเตอรีไฮบริดมีปริมาตรเพียง 0.389 ลูกบาศ์กเมตร พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระสามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หรือถุงกอล์ฟได้ถึง 4 ใบ
เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
– จากการผสานการทำงานอย่างอัจฉริยะ คัมรี ไฮบริด ไม่เพียงแค่ผ่านค่ากำหนดมาตรฐาน ยูโร4 ที่ประเทศไทยจะบังคับใช้สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ในปี พ.ศ. 2555 แต่ยังได้ได้พัฒนาเพื่อผ่านมาตรฐาน AT-PZEV แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุดในการกำหนดปริมาณมลพิษที่ปล่อยออกสู่อากาศ
เลือกเป็นเจ้าของความเหนือระดับ…คัมรี ไฮบริด 3 รุ่น
– HV AVN DVD Navigator
– HV AVX DVD
– HV 6 CD
พร้อมคัมรี รุ่นปรับปรุงโฉม อีก 4 รุ่น
– 3.5Q
– 2.4G
– 2.0G
– 2.0E
สัมผัสความเหนือระดับ…ของผู้ครอบครองด้วย 7 สี
เอกลักษณ์เฉพาะไฮบริด
– Light Blue Mica Metallic
คัมรี รุ่นปรับปรุงโฉม
– White Pearl CS.
– Silver Metallic
– Medium Silver Metallic
– Black Mica
– Beige Metallic
– Gray Metallic
นำคุณสู่ยุคไฮบริด
สัมผัสความเหนือระดับของ “Camry Hybrid” ในวันที่ 7 – 9 สิงหาคมนี้
ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 310 แห่งทั่วประเทศ
“I am Hybrid
Camry Hybrid ..Drive Intelligent Drive Hybrid”
การทำงานของระบบไฮบริด ในรถยนต์คัมรี ไฮบริด
ขณะออกตัว
รถยนต์ถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่าง เดียว โดยอาศัยพลังงานไฟฟ้าที่สะสมไว้ใน แบตเตอรีไฮบริด (ขึ้นอยู่กับปริมาณแบตเตอรีที่มีอยู่ในขณะนั้น)
ขณะขับขี่ปกติ ด้วยความเร็วคงที่
รถยนต์ถูกขับเคลื่อนโดยอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยระบบควบคุมอัจฉริยะจะตรวจสอบสภาพการขับขี่ในขณะนั้น แล้วสั่งการให้เครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานประสานกันอย่างเหมาะสมลงตัว เพื่อให้ได้การประหยัดน้ำมันสูงสุด ขณะเดียวกันพลังงานส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้งานจะถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าและเก็บสะสมไว้ในแบตเตอรีไฮบริด
ขณะเร่งความเร็ว
รถยนต์ถูกขับเคลื่อนด้วยกำลังจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าผสาน 2 พลังทำให้ได้อัตราเร่งสูงสุด
ขณะลดความเร็วและเบรก
เครื่องยนต์หยุดทำงานขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟและเปลี่ยนพลังงานจลน์จากล้อที่หมุน ที่เกิดจากการลดความเร็วหรือเบรกไปเป็นพลังงานไฟฟ้า ส่งไปเก็บสะสมไว้ในแบตเตอรีไฮบริด
ขณะจอด
เครื่องยนต์จะหยุดการทำงานแต่เครื่องปรับอากาศยังคงทำงานตามปกติโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรีไฮบริด
ข้อมูลผลิตภัณฑ์คัมรีรุ่นปรับปรุงโฉม
3.5Q
ภายนอก
– กันชนหน้าใหม่แบบสปอร์ต
– ไฟตัดหมอกพร้อมกรอบโครเมียมขนาดใหญ่เพื่อความหรูหรา
– กระจังดีไซน์ใหม่พร้อมเส้นกระจัง 3 ชั้น พร้อมเรดาห์ สำหรับระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบไดนามิก เรดาห์และระบบความปลอดภัยก่อนการชน
– ไฟหน้า HID แบบโปรเจ็คเตอร์ ดีไซน์ใหม่พร้อมระบบปรับลำแสงสูง-ต่ำอัตโนมัติ
– ระบบไฟหน้าปรับเลี้ยวอัตโนมัติ AFS (Adaptive Front-Lighting System)
– กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า แบบลดการเกาะตัวของหยดน้ำ (Hydrophilic)
– ชุดไฟท้ายพร้อมไฟตัดหมอกหลัง ดีไซน์ใหม่
– มูนรูฟ เพื่อสุนทรียภาพการขับขี่ยามค่ำคืน
– ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/55R17
ภายใน
– มาตรวัดที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อความสะดวกในการมองเห็นที่ดีขึ้น
– ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบส่องสะท้านเพดาน
– ระบบ Smart Entry และระบบ Push Start
– เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า ปรับระดับ 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่และกระจกมองข้าง และตำแหน่งพวงมาลัย
– เบาะนั่งด้านหลังปรับเอนด้วยไฟฟ้า
– พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมการทำงานของเครื่องเสียง – เครื่องปรับอากาศ – จอแสดงข้อมูลรวม
– บูลทูธ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ พร้อมระบบเชื่อมต่อ Hand free และ ปุ่มรับ-วางสาย โทรศัพท์ บนพวงมาลัย
– เครื่องเล่น ดีวีดี 1 แผ่น พร้อมระบบนำทางในรถยนต์ (In-car Navigator) แบบหน้าจอสัมผัส และ เชื่อมต่อกล้องมองหลัง
– ที่นั่งแบบระบายอากาศ ติดตั้งพัดลมใต้เบาะนั่งคู่หน้า เพื่อช่วยเป่าลมระบายอากาศ
– จอแสดงข้อมูลรวม MID…แสดงข้อมูลการขับขี่ มาตรวัดระยะทาง – อุณหภูมิภายนอก –
ความเร็วเฉลี่ย – ระยะทางที่ขับต่อได้จากน้ำมันที่เหลือ – อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย – ระยะเวลาการขับขี่แต่ละครั้ง
– ระบบปรับอากาศแบบ Dual Auto พร้อมเทคโนโลยี Plasmacluster**…ระบบปรับอากาศแบบแยกควบคุมระดับอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา ได้ตามความต้องการ พร้อมช่องส่งผ่านความเย็นสำหรับเบาะนั่งด้านหลัง พร้อมสุดยอดเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ “พลาสมาคลัสเตอร์” ซึ่งมีคุณสมบัติในการ ยับยั้งเชื้อโรคต่างๆ เพื่อช่วยให้อากาศภายในรถสะอาด และสดชื่นอยู่เสมอ
– ม่านบังแดดหลัง ปรับไฟฟ้า
– ม่านบังแดดประตูหลัง
– พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ และปรับใกล้-ไกล
– ที่พักแขนที่คอนโซลกลาง สามารถปรับเลื่อนได้ถึง 100 มม.เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า
– สวิทช์ปรับเบาะผู้โดยสารจากด้านผู้ขับ สามารถปรับเพิ่มพื้นที่ของผู้โดยสารด้านหลัง โดยการปรับเลื่อน หรือปรับเอนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กดปุ่ม
– ที่วางแก้วน้ำ สามารถวางขวด หรือแก้วน้ำขนาด 500 มล.ได้ถึง 2 ขวด หรือ 2 แก้ว โดยอยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการวาง และหยิบจับ
– ที่วางของด้านข้างคอนโซลหน้า อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการเก็บหรือหยิบของ แม้จะเป็นของชิ้นเล็ก
– กล่องวางของอเนกประสงค์ ภายในมีจุดจ่ายไฟสำรองสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ สะดวกง่ายดายในการวาง หรือหยิบใช้งาน
– กล่องคอนโซล สามารถเก็บแผ่นซีดี ได้สูงสุดถึง 23 แผ่น
– พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หรือถุงกอล์ฟได้มากถึง4 ใบ
เครื่องยนต์
– เครื่องยนต์ 2GR-FE 3500 ซีซี DOHC 24 วาล์ว Dual VVT-i
ความจุกระบอกสูบ 3,456 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 200 กิโลวัตต์ (272ps)/6,200 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 336 นิวตัน-เมตร/4,700 รอบต่อนาที
ระบบขับเคลื่อน อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ Sequential Shift
– ดิสก์เบรก 4 ล้อ เส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่
– ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้า : อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ด้านหลัง : อิสระดูอัลลิงค์สตรัท
ความปลอดภัยแบบป้องกัน
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
– ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
– ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
– ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ช่วยควบคุมกำลังเครื่องยนต์
แบบอัตโนมัติ พร้อมควบคุมการเบรกของล้อแต่ละล้อ เมื่อรถกำลังเสียการทรงตัวขณะเข้า โค้ง
– สัญญาณเตือนกะระยะที่มุมกันชนทั้ง 4 มุม พร้อมเสียงสัญญาณเตือน ช่วยให้ผู้ขับทราบถึง สิ่งกีดขวางระยะประมาณ 50 ซม
ความปลอดภัยแบบปกป้อง
– โครงสร้างนิรภัย GOA ช่วยกระจายแรงกระแทกจากการชนไปยังโครงสร้างส่วนต่างๆ ของตัวรถ เพื่อลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดกับผู้โดยสาร
– พวงมาลัยยุบตัวได้ ช่วยลดโอกาสที่พวงมาลัยจะกระแทกกับหน้าอกผู้ขับ เมื่อเกิดการชน
จากด้านหน้า
– ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า และด้านข้าง
– โครงสร้างเบาะนั่งแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening ) ติดตั้งที่เบาะนั่งด้านหน้า โดยพนักพิงจะโอบกระชับรองรับศรีษะและแผ่นหลังช่วงบนอย่างพอดีเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง
2.4G
ภายนอก
– กันชนหน้าใหม่แบบสปอร์ต
– ไฟตัดหมอกพร้อมกรอบโครเมียมขนาดใหญ่เพื่อความหรูหรา
– กระจังดีไซน์ใหม่พร้อมเส้นกระจัง 3 ชั้น
– ไฟหน้า HID แบบโปรเจ็คเตอร์ ดีไซน์ใหม่พร้อมระบบปรับลำแสงสูง-ต่ำอัตโนมัติ
– ชุดไฟท้ายพร้อมไฟตัดหมอกหลัง ดีไซน์ใหม่
– ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 215/60R16
ภายใน
– มาตรวัดที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อความสะดวกในการมองเห็นที่ดีขึ้น
– เครื่องเสียง พร้อมช่องต่อ AUX เพื่อตอบรับรูปแบบความบันเทิงที่ทันสมัย
– พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมการทำงานของเครื่องเสียง – เครื่องปรับอากาศ – จอแสดงข้อมูลรวม
– ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
– วิทยุพร้อมเครื่องเล่นซีดี 6 แผ่น (MP3 และ WMA) 6 ลำโพง
– จอแสดงข้อมูลรวม MID…แสดงข้อมูลการขับขี่ มาตรวัดระยะทาง – อุณหภูมิภายนอก –
ความเร็วเฉลี่ย – ระยะทางที่ขับต่อได้จากน้ำมันที่เหลือ – อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย – ระยะเวลาการขับขี่แต่ละครั้ง
– ระบบปรับอากาศแบบ Dual Auto พร้อมเทคโนโลยี Plasmacluster**…ระบบปรับอากาศแบบแยกควบคุมระดับอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา ได้ตามความต้องการ พร้อมช่องส่งผ่านความเย็นสำหรับเบาะนั่งด้านหลัง พร้อมสุดยอดเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ “พลาสมาคลัสเตอร์” ซึ่งมีคุณสมบัติในการ ยับยั้งเชื้อโรคต่างๆ เพื่อช่วยให้อากาศภายในรถสะอาด และสดชื่นอยู่เสมอ
– ม่านบังแดดหลัง ปรับไฟฟ้า
– ม่านบังแดดประตูหลัง
– เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า ปรับระดับ 8 ทิศทาง
– พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ และปรับใกล้-ไกล
– ที่พักแขนที่คอนโซลกลาง สามารถปรับเลื่อนได้ถึง 100 มม.เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า
– สวิทช์ปรับเบาะผู้โดยสารจากด้านผู้ขับ สามารถปรับเพิ่มพื้นที่ของผู้โดยสารด้านหลัง โดยการปรับเลื่อน หรือปรับเอนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กดปุ่ม
– ที่วางแก้วน้ำ สามารถวางขวด หรือแก้วน้ำขนาด 500 มล.ได้ถึง 2 ขวด หรือ 2 แก้ว โดยอยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการวาง และหยิบจับ
– ที่วางของด้านข้างคอนโซลหน้า อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการเก็บหรือหยิบของ แม้จะเป็นของชิ้นเล็ก
– กล่องวางของอเนกประสงค์ ภายในมีจุดจ่ายไฟสำรองสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ สะดวกง่ายดายในการวาง หรือหยิบใช้งาน
– กล่องคอนโซล สามารถเก็บแผ่นซีดี ได้สูงสุดถึง 23 แผ่น
– พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หรือถุงกอล์ฟได้มากถึง4 ใบ
เครื่องยนต์
– เครื่องยนต์ 2AZ-FE 2400 ซีซี DOHC 16 วาล์ว VVT-i
ความจุกระบอกสูบ 2,362 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 123 กิโลวัตต์ (167ps)/6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 224 นิวตัน-เมตร/4,000 รอบต่อนาที
ระบบขับเคลื่อน อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ Shift Sequential
– ดิสก์เบรก 4 ล้อ เส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่
– ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้า : อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ด้านหลัง : อิสระดูอัลลิงค์สตรัท
ความปลอดภัยแบบป้องกัน
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
– ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
– ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
– สัญญาณเตือนกะระยะ ด้านท้าย พร้อมเสียงสัญญาณเตือน ช่วยให้ผู้ขับทราบถึงสิ่งกีดขวางในระยะประมาณ 150 ซม.
– สัญญาณเตือนกะระยะที่มุมกันชนทั้ง 4 มุม พร้อมเสียงสัญญาณเตือน ช่วยให้ผู้ขับทราบถึง สิ่งกีดขวางระยะประมาณ 50 ซม
ความปลอดภัยแบบปกป้อง
– โครงสร้างนิรภัย GOA ช่วยกระจายแรงกระแทกจากการชนไปยังโครงสร้างส่วนต่างๆ ของตัวรถ เพื่อลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดกับผู้โดยสาร
– พวงมาลัยยุบตัวได้ ช่วยลดโอกาสที่พวงมาลัยจะกระแทกกับหน้าอกผู้ขับ เมื่อเกิดการชน
จากด้านหน้า
– ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า
– โครงสร้างเบาะนั่งแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening ) ติดตั้งที่เบาะนั่งด้านหน้า โดยพนักพิงจะโอบกระชับรองรับศรีษะและแผ่นหลังช่วงบนอย่างพอดีเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง
2.0E และ 2.0G
ภายนอก
– กันชนหน้าใหม่แบบสปอร์ต
– ไฟตัดหมอกพร้อมกรอบโครเมียมขนาดใหญ่เพื่อความหรูหรา
– ไฟหน้าดีไซน์ใหม่
– กระจังดีไซน์ใหม่พร้อมเส้นกระจัง 3 ชั้น
– ชุดไฟท้ายพร้อมไฟตัดหมอกหลัง ดีไซน์ใหม่
– ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 215/60R16
ภายใน
– มาตรวัดที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อความสะดวกในการมองเห็นที่ดีขึ้น
– เครื่องเสียง พร้อมช่องต่อ AUX เพื่อตอบรับรูปแบบความบันเทิงที่ทันสมัย
– พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมการทำงานของเครื่องเสียง – เครื่องปรับอากาศ – จอแสดงข้อมูลรวม
– บูลทูธ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ พร้อมระบบเชื่อมต่อ Hand free และ ปุ่มรับ-วางสาย โทรศัพท์ บนพวงมาลัย (เฉพาะรุ่น 2.0G)
– วิทยุพร้อมเครื่องเล่นซีดี 6 แผ่น (MP3 และ WMA) 6 ลำโพง (ซีดี 1 แผ่นในรุ่น 2.0E)
– จอแสดงข้อมูลรวม MID…แสดงข้อมูลการขับขี่ มาตรวัดระยะทาง – อุณหภูมิภายนอก –
ความเร็วเฉลี่ย – ระยะทางที่ขับต่อได้จากน้ำมันที่เหลือ – อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย – ระยะเวลาการขับขี่แต่ละครั้ง
– ระบบปรับอากาศแบบ Dual Auto พร้อมเทคโนโลยี Plasmacluster**…ระบบปรับอากาศแบบแยกควบคุมระดับอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา ได้ตามความต้องการ พร้อมช่องส่งผ่านความเย็นสำหรับเบาะนั่งด้านหลัง พร้อมสุดยอดเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ “พลาสม่าคลัสเตอร์” ซึ่งมีคุณสมบัติในการ ยับยั้งเชื้อโรคต่างๆ เพื่อช่วยให้อากาศภายในรถสะอาด และสดชื่นอยู่เสมอ
– ม่านบังแดดหลัง ปรับไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น 2.0G)
– ม่านบังแดดประตูหลัง (เฉพาะรุ่น 2.0G)
– เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า ปรับระดับ 8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น 2.0G)
– พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ และปรับใกล้-ไกล
– ที่พักแขนที่คอนโซลกลาง สามารถปรับเลื่อนได้ถึง 100 มม.เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า
– สวิทช์ปรับเบาะผู้โดยสารจากด้านผู้ขับ สามารถปรับเพิ่มพื้นที่ของผู้โดยสารด้านหลัง โดยการปรับเลื่อน หรือปรับเอนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กดปุ่ม
– ที่วางแก้วน้ำ สามารถวางขวด หรือแก้วน้ำขนาด 500 มล.ได้ถึง 2 ขวด หรือ 2 แก้ว โดยอยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการวาง และหยิบจับ
– ที่วางของด้านข้างคอนโซลหน้า อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการเก็บหรือหยิบของ แม้จะเป็นของชิ้นเล็ก
– กล่องวางของอเนกประสงค์ ภายในมีจุดจ่ายไฟสำรองสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ สะดวกง่ายดายในการวาง หรือหยิบใช้งาน
– กล่องคอนโซล สามารถเก็บแผ่นซีดี ได้สูงสุดถึง 23 แผ่น
– พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หรือถุงกอล์ฟได้มากถึง4 ใบ
เครื่องยนต์
– เครื่องยนต์ 1AZ-FE……….2000 ซีซี DOHC 16 วาล์ว VVT-i
ความจุกระบอกสูบ…….1,998 ซีซี
แรงม้าสูงสุด……………108 กิโลวัตต์ (147ps)/6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด………………190 นิวตัน-เมตร/4,000 รอบต่อนาที
ระบบขับเคลื่อน…………..อัตโนมัติ 4 สปีด Super ECT
– ดิสก์เบรก 4 ล้อ เส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่
– ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้า : อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ด้านหลัง : อิสระดูอัลลิงค์สตรัท
ความปลอดภัยแบบป้องกัน
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
– ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
– ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
ความปลอดภัยแบบปกป้อง
– โครงสร้างนิรภัย GOA ช่วยกระจายแรงกระแทกจากการชนไปยังโครงสร้างส่วนต่างๆ ของตัวรถ เพื่อลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดกับผู้โดยสาร
– พวงมาลัยยุบตัวได้ ช่วยลดโอกาสที่พวงมาลัยจะกระแทกกับหน้าอกผู้ขับ เมื่อเกิดการชน
จากด้านหน้า
– ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า
– โครงสร้างเบาะนั่งแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening ) ติดตั้งที่เบาะนั่งด้านหน้า โดยพนักพิงจะโอบกระชับรองรับศรีษะและแผ่นหลังช่วงบนอย่างพอดีเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง
Drive Intelligent Drive Hybrid
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…