สอบถามเกี่ยวกับ Sport Rider กับ Cameo
Brand: TOYOTA Model: RAV4
Year: 1999 Miles: 5001-20000
From: Bordin Boontrakool
Toyota : Sport Rider
รบกวนสอบถามหน่อยนะครับ คือ ผมใช้ Cameo ปี 93 อยู่นะครับ และเคยสังเกตุที่ใต้ท้องรถมีน้ำมันซึมออกมา เคยนำไปเข้าให้ศูนย์เช็ค เขาบอกให้เปลี่ยน ซีน รู้สึกจะหลายตัวมากนะครับ ราคาทั้งหมดประมาณ 7,000 บาท ถ้าไปทำที่อู่ข้างนอกพอจะแนะนำได้ไหมครับ ผมอยู่แถวสะพานใหม่ครับ และราคาจะถูกลงไหมครับ และถ้าผมจะขาย Cameo 400,000 บาท ยังพอขายได้ไหมครับ เพื่อเปลี่ยนไปใช้ Sport Rider 4wd เกียร์ธรรมดา เครื่อง 3000 พอดีมีญาติจะขายให้ 600,000 บาท รถประมาณปี 99วิ่งไป 20,000 โล รู้สึกเป็น SR5Limited นะครับ ผมเห็น Sport Rider มีหลายรุ่นมาก มันต่างกันที่อะไรครับ รบกวน Comment ให้หน่อยนะครับ อ้อ Sport Rider ดูแลรักษายากไหมครับ และภาษีต่อปีแพงไหมครับ และกินน้ำมันไหมครับ กี่ กม ลิตรครับ ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ ( รบกวนหน่อยนะครับเพราะผมไม่รู้เรื่องรถจริงๆ เกี่ยวกับรถ นำเข้าศูนย์ตลอด เปลืองมากเลยครับ )
รบกวนถามอีกหน่อยนะครับ
1. รถควรนำไปพ่นกันสนิมไหมครับ แพงไหมครับ
2. การล้างอัด-ฉีด รถ ดีไหมครับ ถ้าไม่ควรแล้วเวลารถเปื้อน
ใต้ท้องรถทำอย่างไรครับ
3.ความแตกต่างของ Sport Rider รุ่นเก่าที่ไม่มี D4D กับรุ่นใหม่ที่มี กินน้ำมันหรือประหยัดมากกว่ากันเยอะไหมครับ
ขอขอบคุณอีกครั้งครับ ( ใน List Model รู้สึกไม่มี Sport Rider นะ )
เอาเรื่องคาเมโอกันก่อน ขนาดรถเสีย จะต้องซ่อมเป็นเงินแค่เจ็ดพันบาท คุณยังคิดจะเปลี่ยนรถแล้วหรือครับนี่ ผมว่าถูกมากนะครับ สำหรับการซ่อมการรั่วของน้ำมันเครื่อง ด้วยเงินเพียงเจ็ดพันบาท
ซีลหน้า ซีลหลังเครื่อง ราคาร่วมสองพันบาทแล้ว ค่าแรงศูนย์บริการไม่ใช่ถูก อาจจะต้องตีไว้เผื่อว่าเพลาข้อเหวี่ยงของคุณสึกเพราะโดนซีลกัด ต้องเอาไปซ่อมอีกสามสี่พันบาทด้วย ส่วนที่ว่า ซีลหลายตัว ผมไม่เข้าใจครับ มีซีลตัวไหนบ้าง นอกจากสองตัวนี่ อาจจะมีซีลบริเวณรังผึ้งของตัวระบายความร้อนน้ำมันเครื่องด้วยกระมัง หรือซีลอะไรก็ไม่รู้ละ เจ็ดพัน น่าจะมีค่าซ่อมเพลาด้วยนะครับ
สปอร์ตไรเด้อร์ ก็ดูแลเหมือนกับอีซูซุนั่นแหละ ยากง่ายไม่ต่างกันสำหรับเจ้าของรถ เพราะคุณไม่ได้ซ่อมเครื่องยนต์เอง จะต้องไปห่วงอะไรล่ะครับ ดูแลรถคันเก่าอย่างไร ก็ดูแลรถคันใหม่อย่างนั้น นี่ผมไม่ได้รวน หรือไม่ได้โยกโย้อะไรคุณเลยนะ ก็คุณไม่ต้องซ่อมเอง จะไปวิตกวิจารณ์อะไรล่ะครับ รถก็คือรถเหมือนกัน ได้สมุดคู่มือมา ก็ดูและอ่าน ทำไปตามนั้น เหมือนกันทั้งนั้นแหละครับ
ถ้าไม่รู้เรื่องรถเลย ก็แสดงว่า คุณไม่เคยใช้รถเลยสักคัน นี่คุณก็บอกว่าเคยใช้อยู่ ทำไมจะไม่รู้เรื่องรถเลยกันล่ะครับ ต้องรู้ซีครับ รู้ว่ารถยนต์เป็นอะไร มีอะไร ใช้อย่างไร ดูแลรักษาอย่างไร แค่นี้ ก็รู้เรื่องรถแล้วครับ อย่าไปบอกให้ใครหัวเราะเชียวว่า คุณไม่รู้เรื่องรถเลย บอกผมน่ะได้ เพราะผมไม่หัวเราะคุณแน่ แต่ผมต้องบอกคุณว่า คุณรู้เรื่องรถยนต์ครับ
ภาษีต่อปี คุณก็ดูได้จากคู่มือจดทะเบียน เครื่องยนต์ใหญ่ สามพันซีซี.ก็จ่ายแพงหน่อย แค่นั้นเองครับ
กินน้ำมันไหม ก็กินน่ะซีครับ ถ้าหากว่าคุณเห็นว่า การกินน้ำมันเวลาเดินทางไกล ที่ความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประมาณ 9-10 กิโลเมตรต่อลิตร อย่าถามในเมืองนะครับ ตอบไม่ได้
รถยนต์น่ะ เวลาใช้งานมาจนหมดระยะรับรองคุณภาพแล้ว ไม่จำเป็น ไม่ต้องเข้าศูนย์หรอกครับ ศูนย์เขาทำงานแบบต้องป้องกันตัวเขาเองไว้ก่อน มีอะไรที่เหลือในระดับพอใช้ได้ เขาเปลี่ยนหมดแหละครับ ซ่อมอู่ข้างนอก อะไรที่พอใช้ได้ เขาก็ให้ใช้ไปก่อน อะไรที่ไม่ไหวแล้ว เขาจึงจะเปลี่ยนให้ คุณอย่ามัวอ้างว่า ไม่รู้เรื่องรถยนต์ จึงเข้าศูนย์บริการเลยครับ คุณต้องรู้จักอู่อิสระบ้างแน่นอน เพราะขับรถผ่านอยู่บ่อยบ่อย มองหาที่ดีดี น่าเชื่อถือ แล้วลองสอบถามเพื่อนดูว่า อู่ไหนที่เขาใช้ แล้วดี ก็น่าจะได้ครับ
1-คันไหนครับ คันใหม่หรือเก่า ถ้ารถที่ใช้มาแล้วสองสามปี เอาไปพ่นกันสนิม ก็กันไม่ได้หรอกครับ เพราะเก่าแล้ว สนิมจะขึ้นได้เสมอ แต่ปกติ รถยนต์อายุไม่เกินเจ็ดปี นี่ แทบไม่มีสนิมแล้ว เขาเลยไม่พ่นกัน
2-ใครบอกคุณล่ะครับ ว่าไม่ควรล้างใต้ท้องรถ เวลาผมกลับจากทะเล ผมมักล้างใต้ท้องรถผมเสมอ
3-เครื่องยนต์คอมมอนเรล ของโตโยต้า ประหยัดกว่าเครื่องยนต์รุ่นเก่า ของโตโยต้าครับ-ธเนศร์