สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย และ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ขอเชิญผู้สนใจชม “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 34” ประทับใจกับรถหาชมยากอายุกว่า 100 ปี “ดาร์รักค์ ซือเรสน์” ตำนานรถเมืองน้ำหอม ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คันในโลก ระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคมนี้
นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 34” (THE GLOSSY HERITAGE AWARDS 2010) ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์การค้า ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ภายในงานจะพบกับรถแห่งตำนานอันสง่างาม อายุกว่า 100 ปี “ดาร์รักค์ ซือเรสน์” (DARRACQ SURESNES) รถโบราณเมืองน้ำหอม อดีตแชมพ์แรลลี เจ้าของฉายา “เฟมัส ฟิฟทีน” (FAMOUS FIFTEEN) หรือ “15ม้า ผู้ลือนาม” หรืออีกฉายาหนึ่งคือ “ฟลายอิง ฟิฟทีน” (FLYING FIFTEEN) หรือ เจ้า “15ม้า ถลาลม” ของมร.จอห์น สมิธ
เสน่ห์ของ “ดาร์รักค์ ซือเรสน์” คือ การออกแบบรูปลักษณ์ ภายนอกบริเวณด้านหน้าและบังโคลนสีเขียว ผสานสีขาวครีมของประตูและตัวถังได้อย่างลงตัว กระทะล้อไม้ 10 ก้านขนาดใหญ่เข้าชุดกับยางหน้าแคบ สไตล์รถโบราณ ทั้งแตรลม ไฟหน้า และไฟสัญญาณต่างๆ ครบถ้วน
ส่วนภายในเป็นเบาะหนังสีดำหรู ห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาผ้าใบแข็งแรงทนทาน สามารถกางออกบังแดดและฝนได้สะดวกง่ายดาย เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ 3,000 ซีซี กำลังสูงสุด 15 แรงม้า แต่ยังวิ่ง 50-60 กม./ชม. ได้อย่างสบาย แม้จะมีผู้โดยสารนั่งประจำทุกที่นั่ง
ด้วยสมรรถนะเหนือชั้นตามแบบเฉพาะของประเทศฝรั่งเศส ผลิตโดยนายอเลกซานเดอร์ ดาร์รักค์ (Alexandre Darracq) ซึ่งพัฒนาขึ้นจากธุรกิจรถจักรยาน แล้วสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ สามารถผลิตแทกซี รถยนต์นั่ง 2-3 รุ่น และเครื่องยนต์ขนาดเล็ก 1-2 สูบ ได้สำเร็จ จนกระทั่งก้าวหน้าสู่การผลิตเครื่องยนต์ขนาด 4 สูบ 15 แรงม้า นาม “ซือเรสน์” (SURESNES) ตั้งตามชื่อย่านหนึ่งในแถบชานกรุงปารีส
รถรุ่นนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงปี ค.ศ.1903-1904 จึงมีโรงงานผลิตในหลายประเทศ อาทิ เยอรมนี อิตาลี และสกอตแลนด์ ผ่านการแข่งขันแรลลี และคว้าชัยชนะมาหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะปิดตำนานลง ประมาณปี ค.ศ.1909 เมื่อนายทุนจากประเทศอิตาลี ตัดสินใจซื้อกิจการ จากนั้นตั้งบริษัทใหม่ อันเป็นที่มาของยี่ห้อรถ “อัลฟ่า” ในปัจจุบัน ทำให้ “ดาร์รักค์ ซือเรสน์” ได้รับการจารึกเป็นรถตำนานเก่าแก่ ก่อนยุคสงครามโลก ครั้งที่ 1 (ค.ศ.1914 – 1918) ที่มีจำนวนหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คันในโลก ซึ่งหาชมได้ยากยิ่ง
ภายในงานนอกจาก “ดาร์รักค์ ซือเรสน์” (DARRACQ SURESNES) แล้วท่านจะได้พบกับรถไฮไลท์ของงาน อีก 3 คัน คือ Bugatti Type 57 รุ่นปี1938 , Sunbeam-Talbot 2.0 ลิตร ปี1937 และ Morris 8 Series E Tourer ปี1939 รวมทั้งรถโบราณและรถจักรยานยนต์โบราณอีกกว่า 100 คัน
บรรยากาศรถอื่นๆภายในงาน
#####################################
เปรมศักดิ์ เพียรพานิชย์ รายงาน
สารฑูล สักการเวช ถ่ายภาพ
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…