Brand: HONDA Model: Civic
Year: 2004 Miles: 100001 – More
From: เอกรัตน์ สุมะนังกุล
: Dimension
สตาร์ทแล้วกำลังอัดฟรีทิ้งครับ 2/22/2008 3:23:22 PM
ยี่ห้อ : Honda Civic
ปี : 2004
ระยะการวิ่ง : 100001 – More
ผมใช้ Honda Civic Dimension 2004 ครับ ติดระบบ หัวฉีดของ Autronic ครับ ปกติจะบังคับสตาร์ทน้ำมัน และวิ่งแก๊ส ถ้าอย่างนี้จะปกติทุกอย่างครับ เครื่องเดินเรียบ กำลังดี วิ่งปร๋อเลยครับ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมมีการสลับมาใช้น้ำมันบ้าง (เพื่อให้เครื่องได้ใช้น้ำมันบ้าง) ผลคือหลังจากดับเครื่องจนเครื่องเย็น หรือวันรุ่งขึ้น จะสตาร์?ไม่ติดทันที่ครับ และเวลาสตาร์ทเครื่องหมุนครับ แต่ไม่มีกำลังอัด ต้องสตาร์ทเป็น20-30ครั้ง กำลังอัดถึงจะมา และเวลาติดแล้ว เครื่องจะเดินแบบไม่ครบสูบอ่ะครับ คือสั่นเป็นเจ้าเข้าเลย ต้องเลี้ยงรอบไว้สักนาทีนึง ทุกอย่างถึงปกติ ล่าสุดเป็นเมื่อวาน ให้ช่าง0 มาช่วย ลองหลายวิธีก็ไม่ได้ ท้ายสุดเอาน้ำมันเครื่องหยอดล่อไปที่หัวเทียน กำลังอัดมาเลยครับ แต่จะเป็นอาการอย่างที่บอกหลังจากที่เครื่องติดแล้ว ช่างบอกว่าน่าจะเกิดการที่แหวนไม่ขยายตัว เลยทำให้กำลังหมุนฟรีทิ้งไป ท่านใดพอทราบ ช่วยแนะนำที่ครับ ผมมีรถกะเค้าอยู่คันเดียวอ่ะครับ และรักมากอ่ะครับ เอก 081-9157722
เอกรัตน์ สุมะนังกุล
——————————————————————————–
คุณติดตั้งแก๊ส LPG ใช่ไหมครับ และมีระบบ Auto Lube ด้วยใช่ไหม ถ้าใช่ ก็เป็นไปได้ที่แหวนลูกสูบจะติดตาย
เพราะน้ำมันเครื่องแบบ Auto Lube เข้าไปเกาะแหวนลูกสูบให้ติดอยู่ในร่องแหวน ต้องรื้อเครื่องออกมาทำความสะอาด แล้วประกอบใหม่ หากแหวนยอมถ่างตัวเองออก ก็จะติดง่ายขึ้น
แต่ทีนี้ ผมไม่ค่อยเข้าใจการสตาร์ทเครื่องของคุณ ขอให้คุณสตาร์ทยาวหน่อย สัก 2-3 วินาที ไม่ใช่สตาร์ทพอเครื่องยนต์เริ่มหมุนก็ปล่อยเลยนะครับ ลองดูอีกสักที เครื่องยนต์อายุมากขึ้น ก็ต้องสตาร์ทยาวขึ้นหน่อย เป็นปกติครับ-ธเนศร์
รบกวนอาจารย์ครับ คือว่ารถผมไม่มีระบบ Auto Lube ครับ และอาการนี้จะเป็นเฉพาะเวลาที่ผมใช้รถโดยสลับแก๊สกับน้ำมันอ่ะครับ แต่ถ้าปกติคือระบบจะสตาร์ทน้ำมันและวิ่งด้วยแก๊ส ปกติอย่างนี้จะไม่เป็นครับ ส่วนเวลาที่เป็นขณะสตาร์ทผมจะต้องสตาร์ทยาวมากๆครับ เป็นจำนวนครั้งไม่ต่ำกว่า 10ครั้งครับ จนเครื่องเริ่มมีกำลังอัดและต้องคอยเลี้ยงรอบไว้ ไม่งั้นเครื่องดับ เพราะมันติดแบบเหมือนกับว่าเดินไม่ครบสูบ จนสักนาทีนึงครับ เครื่องถึงทำงานสมบูรณ์ครับ
ขอความกรุณาช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยครับ
ขอขอบคุณอย่างสูงครับ
เอกรัตน์ สุมะนังกุล
——————————————————————————–
เอาอย่างนี้นะครับ ตรงนี้นะ คุณหมายความว่าอย่างไรกันแน่ครับ ตกลงว่า เป็นเวลาใด
“ถ้าปกติคือระบบจะสตาร์ทน้ำมันและวิ่งด้วยแก๊ส ปกติอย่างนี้จะไม่เป็นครับ ส่วนเวลาที่เป็นขณะสตาร์ทผมจะต้องสตาร์ทยาวมากๆครับ”
ผมไม่เข้าใจครับ ตกลงว่า คุณสตาร์ทด้วยแก๊ส แล้วจึงมีอาการหรือครับ
ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็ทำไมไม่สตาร์ทด้วยน้ำมันก่อนละครับ เพราะแก๊สนั้น หากคุณไม่มีระบบโช้คแก๊ส ก็จะต้องใช้เวลานานกว่าที่แก๊สจะเป็นไอ แล้วไหลเข้าเครื่องยนต์ด้วยอัตราส่วนผสมที่ถูกต้องนะครับ-ธเนศร์
เรียนอาจาร์ยครับ
โดยปกติระบบจะบังคับสตราทน้ำมันอยู่แล้วครับ เมื่ออุณหภูมิได้ก็จะตัดเข้าแก๊สครับ ผมก็จะวิ่งจนถึงที่หมายแล้วก็ดับเครื่องปกติ(ด้วยแก๊ส) นี่คือปกติวิสัยที่ใช้งานประจำครับ แต่เมื่อไหร่ ที่ผมอยากให้รถได้กินน้ำมันเวลาวิ่งบ้าง ผมก็จะสลับมาใช้น้ำมันขณะวิ่งอยู่ และเมื่อทำอย่างนี้เมื่อไหร่ อาการที่กล่าวจะเกิดขึ้นครับ คือ หลังเครื่องเย็นแล้ว จะสตาร์ทไม่ติด คือเครื่องหมุน แต่ กำลังอัดฟรีทิ้งครับ ต้องสตาร์ทยาวๆ หลายๆครั้ง กำลังอัดจะค่อยๆมา และเมื่อติดแล้วต้องเลี้ยงรอบไว้ ไม่งั้นดับครับ เพราะเครื่องเดินไม่สมบูรณ์ ประมาณ 1 นาทีครับ เครื่องถึงจะติดแบบสมบูรณ์
รบกวนอาจาร์ยด้วยครับ 🙂
ก็เป็นเรื่องแปลกนะครับ ผมคิดว่า คงไม่ใช่การที่คุณเรียกเอาเองว่า “กำลังอัดฟรีทิ้ง” หรือเครื่องยนต์ไม่มีการอัดกระบอกสูบเลยทีเดียวเอาเสียหรอกน่า
เพราะการทำงานด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงปกติ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับแหวนลูกสูบ และไม่ได้เกี่ยวกับระบบบริหารวาล์ว ยิ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับลูกสูบเลยแม้แต่น้อย
การที่กำลังอัดไม่มีนั้น เกิดได้จากแหวนลูกสูบติดตายในร่องแหวน กระบอกสูบหลวมสำหรับลูกสูบ ลูกสูบทะลุ วาล์วค้าง ระบบบริหารวาล์วบกพร่องเสียหาย ปะเก็นฝาสูบแตก สูบโก่ง ซึ่ง ไม่ว่าจะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง คุณก็ต้องยกเครื่องซ่อมใหญ่ ไม่มีโอกาสจะเป็นขึ้นมาเพียงเพราะเปลี่ยนจากแก๊สเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง และยิ่งไม่มีโอกาสจะหายเอง หลังเพียงแค่ติดเครื่องยนต์ไว้สักพักอยู่แล้ว
ผมอาจจะไม่เข้าใจ ที่คุณบอกว่า “กำลังอัดฟรีทิ้ง” เพราะตามความหมายของผม ก็คือลูกสูบทำงานแต่ไม่มีกำลังอัด แบบสตาร์ทเตอร์หมุนเกือบฟรี เสียงเครื่องยนต์ดังหวือหวือเฉยเฉย แต่อาการนี้ ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นหากไม่มีเหตอย่างที่ผมบอกไว้ข้างบนนั่น
เมื่อคุณยืนยันว่า เครื่องหมุน แต่ลูกสูบไม่อัด ก็น่าจะเกิดจากการค้างของวาล์ว ได้แก่การเปิดค้างอยู่ สำหรับกรณีนี้
หรือ เกิดจากการติดตายของแหวนลูกสูบ อันเกิดจากเขม่าในร่องแหวน
ทั้งสองกรณี ต้องรื้อเครื่องยนต์ออกมาเพื่อตรวจสอบ และแก้ไขทั้งนั้นนะครับ
เพียงแต่ว่า อาการเกิดขึ้นหลังจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้นนี่ ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการค้างของวาล์ว รวมถึงการติดตายของแหวนลูกสูบ ยิ่งกรณีของคุณ เหมือนกับว่า เป็นกับทุกกระบอกสูบเสียด้วย
ดังนั้น มีอยู่หนทางเดียวที่จะรู้ได้ว่า อะไรเกิดขึ้น ก็คือรื้อเครื่องยนต์ออกมาตรวจสอบสองจุด ที่ผมบอกไว้นั่นแหละครับ
ว่า มีอะไรทำให้วาล์วค้าง หรือมีอะไรทำให้แหวนลูกสูบตาย และเลือกค้าง หรือเลือกตาย เฉพาะเวลาเท่านั้นอีกด้วย
เพราะเหตอย่างนี้ เกิดขึ้นได้กับเครื่องยนต์ทุกเครื่องยนต์ ที่มีเขม่ามากจากการเผาน้ำมันเครื่อง และจากความสึกของปลอกวาล์วอย่างใดอย่างหนึ่ง
คำตอบสุดท้าย คือให้ช่างรื้อเครื่อง ออกมาทำการตรวจสอบและแก้ไขครับ-ธเนศร์