เพิ่งจะเมื่อไม่นานมานี้เอง ที่ค่ายวอลโว่ ประกาศย้ายฐานการผลิตรถซีดานขนาดกลางรุ่น เอส90 ไปขึ้นสายประกอบในประเทศจีน ในปี 2560 สำหรับรถรุ่น 2561 และปัจจุบัน ศูนย์รับรถใหม่วอลโว่ ที่ ซีบรู๊ค Zeebrugge เบลเยี่ยม กำลังเตรียมรับรถยนต์ วอลโว่ เอส90 คันแรกที่ประกอบจากประเทศจีน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ศูนย์การผลิตวอลโว่ ในเมือง ดากิง Daqing เริ่มการผลิตรถรุ่นท้อปของ เอส90 ตั้งแต่ปลายปี 2559 แต่ในไม่ช้านี้ โรงงานแห่งนี้จะรับผิดชอบการผลิตรถวอลโว่ทุกรุ่น ในทุกระดับสำหรับเพื่อการส่งออก นับแต่รถรุ่นปี 2561 ไม่ว่าจะเป็นรถที่ส่งออกไปยังตลาดอเมริกา หรือยุโรป
“ทำไมถึงต้องส่งรถไปยังท่าเรือของเบลเยี่ยมน่ะหรือ” นั่นเป็นคำถามที่ดี และคำตอบก็คือ One Belt, One Road. ที่หน่วยราชการของเรามักใช้คำว่า หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง เพราะเพิ่งจะเมื่อเร็วๆ นี้เอง ที่เพิ่งเปิดทางรถไฟเชื่อมระหว่างประเทศจีนและทวีปยุโรป ซึ่งจะเป็นเส้นทางเชื่อมทางการค้า ในการขนส่งสินค้าเข้าและออก มูลค่านับหมื่นล้านยูโร ที่จะเปลี่ยนเส้นทางสายไหมในอดีต ที่เดินทางด้วยความยากลำบาก ให้กลายเป็นสิ่งสะดวกและรวดเร็วทันยุคทันสมัย
วอลโว่ เอง ก็เตรียมการสำหรับการขนส่งรถยนต์ทางรถไฟเอาไว้ ด้วยการดัดแปลงรถขนส่ง ให้สามารถบรรทุกรถยนต์ได้ครั้งละ 225 คัน
“แล้วทำไมต้องเป็นการขนส่งทางรถไฟ” สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการขนส่งรถยนต์ โดยเฉพาะการขนส่งข้ามทวีปลักษณะนี้ หากเป็นการขนส่งทางรถไฟ จะสามารถลดมลภาวะที่เกิดจากค่าไอเสีย หรือค่าคาร์บอนไดออกไซด์ ปริมาณเป็น ตัน/กิโลเมตร ได้ปริมาณถึงสามส่วน ต่างจากค่ามลภาวะจากเรือขนส่งสินค้า รวมทั้งค่าระวางขนส่งยังถูกกว่า และไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจสภาพของศุลกากรแต่ละประเทศ
ในห้วงเวลาปัจจุบัน รถไฟจะเดินทางจาก ดากิง ไป เบลเยี่ยม สัปดาห์ละครั้ง แต่จะเพิ่มความถี่ในเร็ววันนี้ เพราะวอลโว่ คาดหวังยอดการขายสำหรับตลาดยุโรป ที่ค่อนข้างใหญ่ แม้ว่าตลาดประเทศจีนจะเป็นตลาดค่อนข้างใหญ่แล้วก็ตาม รวมทั้งโรงงานแห่งนี้จะเป็นแหล่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้า วอลโว่ รุ่นแรก นับแต่ปี 2562 เป็นต้นไป
วอลโว่ ผลิต เอส90 จากโครงสร้างพื้นฐาน พีเอสเอ และแนะนำตัวครั้งแรกในงาน ดีทรอยต์ ออโต้ โชว์ เมื่อปี 2559 มีเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล โดยในอนาคตจะมีรุ่นไฮบริด-ไฟฟ้า เช่นกัน