ลองอีกครั้งกับ Chevrolet CRUZE 2.0 vcdi : by premsak
คุณเคยรู้สึกว่าอยากจะกลับไปลองอะไรบางอย่างที่มันติดค้างอยู่ในใจบ้างรึเปล่า ไม่ว่าเป็นเรื่องของอาหารการกินที่เขาเล่าเขาลือว่าร้านนี้อร่อยนักอร่อยหนา แต่ไปแล้วไม่อร่อยจนต้องไปลองซ้ำให้รู้แล้วรู้รอดไป หรือแม้แต่การทำอาหารกินเองว่าคราวนี้มันขาดรสชาติบางอย่างหรือลืมเติมเครื่องปรุงลงไปจนต้องลองทำใหม่ให้หายข้องใจไป ผมเองก็เป็นครับไม่ว่าจะเรื่องอาหารหรือเรื่องงานที่ทำอยู่
หลังจากขึ้นไปทดลองขับไกลถึงเชียงใหม่สิ่งหนึ่งที่ยังค้างคาใจอยู่นั้นคือเรื่องการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เมื่อเร็วๆนี้เลยจัดคิวงานต่างๆ แล้วลองติดต่อขอยืมรถมาลองอีกครั้งนัดหมายรับรถกันที่สำนักงานของทางเชพโรเลตในช่วงบ่ายวันศุกร์ย่านรัชโยธิน เมื่อพ้นจากตึกเข้าเส้นพหลโยธินรถก็ติดหนึบเลยครับ ขับแบบไหลไปเรื่อยๆพร้อมเรียกความสนใจให้หลายคนหันมามองถึงรูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยวของเจ้าครูซได้ไม่น้อยเลยทีเดียว พอพ้นช่วงการจราจรที่แออัดเจอถนนโล่งๆเลยกดคันเร่งลงไปเพื่อเรียกอัตราเร่งดูซะหน่อยผลปรากฏว่าการตอบสนองนั้นเหมือนคนขี้เกียจ แบบว่าอยู่ในช่วงกำลังงัวเงียอยู่หลังจากตื่นนอนตอนเช้าๆกว่าจะตอบสนองนั้นต้องรอซักแปปนึงก่อน ค่อยออกไปได้ซึ่งน่าจะเกิดจากการทำงานของคันเร่งไฟฟ้าบวกปีกผีเสื้อไฟฟ้านั้นเอง ซึ่งเมื่อขับไปซักพักผมก็เริ่มเรียนรู้ระบบการทำงานของคันเร่งนี้
ขับไปขับมาฝนก็กระหน่ำเทลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ประจวบเหมาะกับเชพโรเลตครูซนั้นมีระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติโดยที่ดันก้านปัดน้ำฝนลงในล็อคแรก ไฟรูปที่ปัดน้ำฝนพร้อมตัวอักษรภาษาอังกฤษAUTO ขึ้นเป็นอันว่าได้ใช้กัน โดยระบบนี้จะมีเซ็นเซอร์จับอยู่โดยจะเพิ่มความเร็วเองตามปริมาณของน้ำฝนที่ตกลงมา สะดวกดีครับ
การตกแต่งภายในห้องโดยสารนั้นเป็นแบบแยกส่วนหรือ DUAL-COCKPIT ใช้สีทูโทน พวงมาลัยมัลติฟังชั่น ควบคุมเครื่องเสียงได้ แถมคอนโซลกลางยังมีหน้าหน้าจอแสดงข้อมูลในการขับ ซึ่งเราสามารถเข้าไปเซ็ตระบบต่างๆที่มีฟังก์ชั่นอยู่ เช่นการปรับตั้งหน่วงเวลา การดับของไฟหน้าว่าจะให้ค้างอยู่30วินาทีหรือ1นาทีหลังจากเราลงจากรถ และอื่นอีกเยอะเลย ลองไปเล่นกันดูนะครับ ตอนแรกๆอาจจะงงอยู่หน่อยลองปรับดูแล้วกัน เครื่องเสียงนั้นสามารถต่ออุปกรณ์ภายนอกได้โดยมีช่อง usb และช่อง aux มาให้
เบาะนั่งในห้องผู้โดยสารตอนหน้ารวมถึงที่นั่งคนขับที่ออกแบบมาในแนวสปอร์ตนั้นกระชับดี แต่นั่งไปนานๆแล้วเริ่มรู้สึกว่าเบาะมันแข็งเกินไปนั่งไม่สบายเท่าไร ส่วนที่นั่งด้านหลังนั้นยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสอีกตามเคย
ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ ตั้งอุณหภูมิในแบบดิจิตอลโดยปรับหมุน จะมีปัญหาอยู่ที่เวลาตั้งออโตแล้วเข่าจะไปโดนตัวปรับสปีดแรงพัดลมอยู่ในบางครั้ง ลองดูจากรูปแล้วกันครับ
พื้นที่บรรทุกสัมภาระในท้ายรถกว้างเลยทีเดียวครับ แต่ออกจะพิเศษอยู่หน่อยคือใครที่จะใช้เชพโรเลตครูซนั้นในการลักพาตัว แล้วจับยัดเข้าฝากระโปรงหลังนั้นต้องคิดใหม่ เพราะเขาทำตัวดึงเปิดฝากระโปรงท้ายจากด้านในได้ครับ
การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารเข้าขั้นเงียบ เสียงลมปะทะเข้ามาในช่วงความเร็ว140กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ส่วนความเร็วสูงสุดเท่าที่ทางเชพโรเลตนั้นเคลมไว้ที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นเป็นไปตามที่เขาว่าไว้เผลอๆอาจจะเลยไปด้วยซ้ำ
เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบแถวเรียง16 วาล์วพร้อมเทอร์โบแบบแปรผัน 2.0 ลิตร 150 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 320 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ให้อัตราเร่งดีทีเดียว แต่เสียงเครื่องนั้นบางครั้งออกดังไปหน่อยแต่ไม่ว่า เป็นไปตามประสาของรถดีเซลอยู่แล้ว
ส่วนที่สงสัยและค้างคาใจนั้นก็คือเรื่องระบบส่งกำลังที่ใช้เป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด คราวนี้ได้ลองอย่างหนำใจเลย ไม่ว่าจะสั่งเปลี่ยนเองหรือให้มันทำงานไปตามปกติ ผลคือได้เจอเกียร์ 6 ครั้งที่แล้วที่ไปทดสอบที่เชียงใหม่นั้นอาจจะเป็นเพราะเส้นทางที่ขึ้นลงเขา บวกกับความฉลาดของเกียร์ที่ไม่สั่งให้เข้าเกียร์สุดท้ายตามที่สมองกลสั่งการก็เป็นได้
ผมได้เอาเจ้าครูซนี่ไปวิ่งบนทางลอยฟ้าเส้นบางนา-ชลบุรีในช่วงเย็นๆ ลมนั้นค่อนข้างแรงเอาเรื่องอยู่แต่เจ้าครูซนั้นไม่มีออกอาการวูบไปตามแรงลมให้เห็น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการออกแบบและช่วงล่างที่เช็ตมาในแบบEURO-RIDE TUNING ช่วยได้มาก ในช่วงแดดร่มลมตกนั้นรถที่วิ่งอยู่บนทางลอยฟ้ามีไม่เยอะเลยลองกดเจ้าปุ่มควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ cruise control ที่อยู่บนพวงมาลัยแล้วยกเท้าออกจากคันเร่งรถก็วิ่งไปเรื่อยๆโดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง มันก็สบายไปอีกแบบ
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง โช้คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลง
ช่วงล่างด้านหลังเป็นคานทอร์ชั่นบีมและโช้คอัพ ซึ่งเจ้าเชพโรเลตครูซนั้นเขาเซ็ตให้มาในแนวสปอร์ต ออกไปในทางแข็งหรือกระด้างไปหน่อยสำหรับในการขับขี่ในเมืองสำหรับผมระบบความปลอดภัยนั้นเขาจัดเต็มครับทั้ง ABS, EBD, BA รวมไปถึงระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัวหรือ ESP แล้วยังมี TCS หรือระบบป้องกันการหมุนล้อฟรีมาด้วยครับ
ฝากทิ้งท้ายครับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหรืออะไรต่างๆที่ใส่มาให้นั้นเยอะทีเดียว ไม่ว่าจะเปิดประตูกับสตาร์ทแบบไม่ใช้กุญแจหรือ keyless entry กับปุ่มสตาร์ท แต่ขาดอยู่นิดนึงนั่นคือที่พักเท้าในฝั่งคนขับไม่มีมาให้ครับ
กับราคาค่าตัว 1,165,000 บาท อย่ามาถามผมนะครับว่าคุ้มรึเปล่า น่าใช้ไหม บอกได้อย่างเดียวว่าอยากให้คุณผู้อ่านนั้นไปลองขับก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ
เรื่อง&ภาพ premsak@caronline.net