รีวิว ทดลองขับ All New Nissan ALMERA 1.0 Turbo ให้มามากเหมือนกันนะ
ช่วงนี้อยู่ในช่วงทดสอบรถอีโค่คาร์ โดยเมื่อเร็วๆนี้ ก็ได้ไปทดลองขับ All New Nissan Almera 1.0 Turbo กับระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร โดยการขับบนเส้นทางจังหวัดภูเก็ต และพังงา เลียบชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อพิสูจน์สมรรถนะของเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร ใหม่ ในสภาวะการขับขี่ที่หลากหลายรูปแบบในพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตและพังงา
นิสสันอัลเมร่าใหม่มีทั้งหมด 5 รุ่นคือ S, E, EL, V ,VL
คันที่ขับเป็นตัว Top คือตัว VL ก็จะพูดถึงคันนี้ ส่วนคันอื่นๆคันอาจมีออฟชั่นต่างๆแตกต่างกันบ้าง
ภายนอก
-นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ดีไซน์ให้มิติภายนอกดูปราดเปรียวขึ้น กว้างและยาวขึ้น จากตัวเดิม
-กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้าและไฟท้ายทรง บูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (kick-up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (floating roof) ส่งต่ออัตลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความต่อเนื่องในรถยนต์นิสสันทุกรุ่น (กระจังหน้าตัวท็อปจะเป็นโครเมี่ยมรมดำ)
-มีไฟตัดหมอก แต่ไม่มี Day time running light
-ไฟเลี้ยวด้านข้าง กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับด้วยไฟฟ้าและพับด้วยไฟฟ้าได้ด้วย
-เสาอากาศแบบฝังในกระจกหลัง มีที่ไล่ฝ้า และปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาได้
ภายใน
ขณะที่ภายในของนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับหน้าจอแสดงผลใหม่ ระบบอินโฟเทนเมนต์ หน้าจอสัมผัสชนาด 8 นิ้ว
-เบาะนั่งคนขับปรับสูงต่ำ ปรับด้วยมือ
-โทนสีภายในเป็นสีดำ
-วัสดุตกแต่งช่องแอร์ซ้ายตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินและวัสดุสีดำเปียโนแบล็ค
-คอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุสีดำและเปียโนแบล็ค
-ด้านหน้ามีช่องเสียบ USB 2 ตำแหน่ง อยู่ที่ใต้แอร์ 1 ตำแหน่งพร้อมช่องไฟ 12 Volt และช่อง USB อีกหนึ่งตำแหน่งอยู่ในช่องเก็บของที่พนักวางแขนด้านหน้า
-ที่นั่งด้านหลังก็มีช่องเสียบ USB อีก 1 ช่อง
-ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ตั้งความเย็นด้านขวา ด้านซ้ายก็ปรับพัดลม
-วัสดุเบาะเป็นผ้าสีดำตกแต่งด้วยขอบเทา
-รํศมีวงเลี้ยว 5.2
-ยาง 195 /65R15 ล้ออัลลอย
-ยางอะไหล่ไม่มีแต่มีชุดซ่อมฉุกเฉิน
เครื่องยนต์
นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรใหม่ ภายใต้รหัส HRA0 3 สูบ แถวเรียงแบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) ขนาดปริมาตรความจุ 999 ซีซีให้กำลังสูงสุด 100 พีเอส (Ps) มีแรงบิดถึง 152 นิวตันเมตร (Nm) ตั้งแต่รอบเครื่องที่ 2,400 ถึง 4,000 รอบต่อนาที
นอกจากนี้ยังมีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น สามารถเปิด – ปิด ระบบการทำงานได้
ช่วงลองขับจริง
การทดสอบขับระหว่างจังหวัดภูเก็ตและพังงา เริ่มต้นโดยใช้เส้นทางมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือของเกาะภูเก็ตเลียบชายฝั่งอันดามันที่สวยงามสู่เขาหลัก ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นจุดหมายด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ ด้วยเส้นทางทดสอบที่ครอบคลุมระยะทางมากกว่า 250 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ตัวเมืองภูเก็ต เพื่อทดสอบสมรรถนะของนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ทั้งการขับขี่ในเมืองและการขับขี่ทางไกล
เมื่อก้าวขึ้นรถปรับทุกอย่างให้เข้าที่ ที่นั่งปรับมือ และปรับที่นั่งให้สูงต่ำได้ตามต้องการ
ปรับกระจกมองข้าง ซึ่งกระจกมองข้างได้เลื่อนจากเสา A เข้ามาใกล้คนขับยิ่งขึ้น ทำให้ทัศนวิศัยการมองเห็นจากกระจกข้างชัดเจนยิ่งขึ้น
ปุ่มสตาร์ทเป็นแบบ Push Start อยู่ตรงคอนโซลกลาง ด้านซ้ายมือของคนขับ ไม่ได้อยู่ที่หลังพวงมาลัยอย่างที่เราเคยชิน
การออกตัวดี และอัตราเร่งแซงดีเพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งขับที่เขาหลักเป็นทางขึ้นเขา มีรถบรรทุกท่อนซุงอยู่ด้านหน้าแซงยากมากมาก ขับตามก็กลัวท่อนซุงหล่นลงมา พอมีจังหวะเหยียบแซงเลย กำลังมาอย่างต่อเนื่อง สามารถแซงได้ตามต้องการ
การเปลี่ยนเกียร์ก็ถือว่านิ่มนวลและทำงานต่อเนื่องดี ระบบเกียร์เป็นแบบ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic
เกียร์จะมี P R N D L (มีเกียร์ L คือเกียร์ Low ลงเขาชันๆใช้เกียร์ L ช่วยบ้างก็ดีนะ)
พวงมาลัยไม่หนักนักควบคุมง่าย
การเข้าโค้งการเกาะถนนก็เป็นที่พอใจ ด้วยระบบช่วงล่าง ด้านหน้า เป็นแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ขณะที่ด้านหลัง เป็นแบบ ทอร์ชัน บีม พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวล ช่วงล่างแน่นดี ยึดเกาะถนน ดี
เบรกดีนะ แต่อาจจะต้องกดลึกหน่อย เป็น แบบหน้าดิสท์หลังดรัม
ขับครั้งนี้ขับในถนนที่รถค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นทางสายหลัก ขึ้นเขาลงเขาเยอะมากๆ ใช้ความเร็วหลายระดับ
ก็ดูอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 15.6 กิโลเมตร/ลิตร ไม่ได้ลองในแต่ละช่วงความเร็วเพราะรถเยอะ จับเวลาไม่ได้ ก็จะได้อัตราการสิ้นเปล้องน้ำมันโดยรวม วึ่งสำหรับผู้เขียนก็ถือว่าพอใจนะ
ระบบความปลอดภัยที่ได้ใช้ก็คือ
เวลาขับไปถ้ามีรถวิ่งมาในเลนซ้ายก็จะมีไฟเตือนที่กระจกมองข้างด้านซ้าย และถ้าอยู่ในเลนขวา เปิดไฟแซงเพื่อเข้าเลนซ้าย ถ้ามีรถอยู่ใกล้ก็จะมีเสียงสัญญาณเตือน
และเวลาถอยหลัง ก็มีกล้องมองเห็นรอบทิศทางเพื่อความปลอดภัย หรือหากขับในความเร็วสัก 20 กม/ขม เกินกว่านั้นไม่สามารถกดดูได้ อยากจะดูว่าการจราจรรอบข้างเป็นอย่างไร ก็กดที่ Camera ทีเป็นปุ่มอยู่คอนโซลหน้ารถ
ระบบความปลอดภัยที่ให้มา ในรุ่น VL ส่วนรุ่นอื่นจะแตกต่างกันไป
นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี เป็นวิสัยทัศน์ของนิสสัน ในการเปลี่ยนวิธีการขับขี่และเพื่อความปลอดภัย
• เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW)
เทคโนโลยีจะส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนหากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า
• เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB)
เทคโนโลยีจะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า โดยระบบจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็วและหยุดรถให้ความเสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุบรรเทาลง
• เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)
เทคโนโลยีเตือนอัจฉริยะนี้จะทำให้ทุกการขับขี่ของคุณมั่นใจยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ที่ต้องการเปลี่ยนช่องทางการขับขี่ ทันทีที่สัญญาณไฟเลี้ยวถูกเปิดระบบจะส่งเสียงสัญญาณพร้อมไฟกระพริบเตือนให้รู้ล่วงหน้าว่า ขณะนั้นกำลังมีรถคันอื่นอยู่ในช่องทางขับขี่ด้านข้างซึ่งผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็น
• เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
เทคโนโลยีจะเตือนระหว่างเข้าเกียร์ถอยหลัง เมื่อตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกระพริบเตือนในด้านเดียวกันกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามา
• เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM)
เทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุด รอบคัน กล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อยไหวจริงและนำไปประมวลผล จากนั้นแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ และยังทำงานร่วมกับ เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคัน จับการเคลื่อนไหวได้เทคโนโลยีอัจฉริยะนี้จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยและให้ความมั่นใจในการขับขี่อย่างคล่องตัว
• เทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC)
เทคโนโลยีช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถขณะหักหลบกะทันหันหักเลี้ยวอย่างมั่นใจ ตอบสนองทุกการขับขี่อย่างฉับไวทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสถานการณ์คับขัน
• เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
เทคโนโลยีเมื่อขับรถขึ้นบนทางลาดชันระบบจะช่วยป้องกันไม่ไห้ไหลลงขณะออกตัว เมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรก ระบบจะสั่งให้เบรก ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเหยียบคันเร่งและออกตัวอย่างนุ่มนวล
นอกจากเทคโนโลยีนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี แล้ว นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ยังอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มความปลอดภัยทั้งในเชิงการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ (Active Safety) และ ระบบลดความรุนแรง ความเสียหายจากอุบัติเหตุ (Passive Safety) อันได้แก่
• โครงสร้างตัวถังเป็นแบบ Zone Body Concept เพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และกระจายแรงกระแทก เพื่อปกป้องห้องโดยสารและผู้โดยสารกรณีเกิดอุบัติเหตุ
• 6 ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งอยู่ในนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ทุกรุ่น ขณะที่ ด้านข้าง (side airbags) และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง (curtain airbags) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น VL
• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าเป็นแบบ ELR 3 จุด แบบดึงกลับอัตโนมัติ และผ่อนแรงอัตโนมัติ ด้านหลังเป็นแบบ ELR 3 จุด ครบทั้ง 3 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารที่เป็นเด็กด้วยจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX และระบบป้องกันเด็กเปิดประตูจากภายในรถ
• ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ แอลอีดี เห็นได้ชัดเจน
ถังน้ำมันจุ 35 ลิตร เติมน้ำมัน E20 ได้
ราคา นิสสัน อัลเมร่า
1.0 L Turbo S CVT ราคา 499,000 บาท
1.0 L Turbo E CVT ราคา 509,000 บาท
1.0 L Turbo EL CVT ราคา 559,000 บาท
1.0 L Turbo V CVT ราคา 599,000 บาท
1.0 L Turbo VL CVT ราคา 639,000 บาท (คันที่ขับ)
นิสสัน อัลเมร่า 1.0 เทอร์โบคันนี้ ก็เป็นรถอีโค่คาร์ที่ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ อัตราเร่งแซงอยู่ในเกณฑ์ดี ควบคุมรถง่าย
อุปกรณ์ความปลอดภัยให้มาพร้อมทีเดียวสำหรับผู้ใช้รถ
ทั้งนี้อยู่ที่ความพอใจและความชอบในยี่ห้อนั้นๆ โดยที่ท่านเป็นผู้ตัดสิน โดยไปทดลองขับกันก่อนนะคะ