รถไฟฟ้า คาร์แชริ่ง

ระบบคาร์แชริ่ง อาจจะยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับบ้านเรา แต่ในบางประเทศแทบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว อย่างที่มลรัฐอินเดียนาโพลิส ในอเมริกา ระบบคาร์แชริ่ง ซึ่งใช้ชื่อ บลูอินดี้ BlueIndy ให้บริการระบบนี้มาได้ 3 เดือนแล้ว โดยมีสมาชิกราว 1,000 ราย และใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งผลิตจากฝรั่งเศส โบลลอร์ กรุ๊ป Bollore Group 120 คัน ให้บริการ สมาชิกสามารถนำรถจากจุดหมายแห่งหนึ่ง ไปยังอีกจุดหมายหนึ่ง แล้วคืนกุญแจ ไปทำธุระกิจส่วนตัวตามปกติ และหากขากลับ ต้องการจะใช้รถอีก ก็จะสามารถนำรถอีกคันหนึ่งไปจากจุดหมายแห่งหนึ่ง ไปจุดหมายอีกแห่งหนึ่งได้ทันที

อเมริกันชนที่ใช้บริการคาร์แชริ่งนี้ มีครอบครัวซึ่งอยู่ในย่านชานเมือง คุยว่า ทั้งเขาและภรรยา เป็นสมาชิกของ บลูอินดี้ คาร์แชริ่ง และเลิกใช้รถยนต์ส่วนตัว 2 คันไปแล้ว โดยใช้วิธีการเดินทางผสมผสาน ระหว่างไบค์แชริ่ง สำหรับรถจักรยาน, เดิน หรือรถโดยสารสาธารณะ หรือใช้บริการ อูเบอร์ Uber และ ลิฟท์ Lyft คล้ายกับบริการรถแท็กซี่ รวมทั้ง้บลูอินดี้ คาร์แชริ่ง เมื่อต้องไปทำงาน หรือสภาพอากาศไม่ดี หรือไปงานเลี้ยงต่างๆ ให้สัมภาษณ์ว่า คุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้นอย่างมาก เมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะหลากชนิด โดยไม่ต้องกังวลว่าจะขับรถของตัวเองเข้าไปในเมือง และหาที่จอดรถที่ราคาแพงมาก

สมาชิกของ บลูอินดี้ ต้องชำระค่าบริการเดือนละ 9.99 เหรียญ หรือราว 300 บาท และบลูอินดี้ คิดค่าบริการการใช้รถไฟฟ้า 20 นาทีแรก ต่อ 4 เหรียญ หรือ 120 บาท ต่อจากนั้นคิด 20 เซ็นต์ ราว 6 บาท ต่อนาที พร้อมบริการสำหรับผู้ไม่ใช่สมาชิก แต่ต้องการใช้รถเพียงวันเดียว คิดราคาเป็น 2 เท่าของสมาชิกรายเดือน

จากการรวบรวมข้อมูลของ เอเอเอ AAA องค์กรด้านยานยนต์ของอเมริกา พบว่า ค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ที่เดินทางราวปีละ 25,000 กม. ตกประมาณ 260,000 บาท ซึ่งถ้าครอบครัวที่มีรถสองคัน ก็จะใช้จ่ายราว 500,000 บาท ต่อปี แต่หากเป็นสมาชิก บลูอินดี้ จะเสียค่าสมาชิก ปีละ 3,600 บาท รวมค่าใช้บริการรถสาธารณะอื่นๆ ก็ไม่น่าจะมากเท่าใดนัก

บลูอินดี้ ก่อตั้งเมื่อเดือนกันยายน ปีก่อน ด้วยเงินทุน 6 ล้านเหรียญ เป็นค่าซื้อรถและติดตั้งที่ชาร์จไฟฟ้าตามสถานที่ต่างๆ แม้ว่าจะมีเสียงบ่นเรื่อง บลูอินดี้ ไปแย่งที่จอดรถบนถนนหลวง เพื่อจอดรถและเสียบปชั๊กชาร์จไฟ แต่ก็ยังมีผู้สนใจสมัครเป็นสมาชิกกว่าพันราย

ปัจจุบัน ในอเมริกา ระบบการให้เช่า หรือระบบคาร์แชริ่ง ได้ผลต่างๆ กัน อย่าง เดมเลอร์ คาร์ทูโก Daimler’s Car2go ก็เริ่มขยายกิจการทั่วอเมริกา ด้วยรถ สมาร์ท ฟอร์ทู รถไฟฟ้า 2 ที่นั่ง และเพิ่มสาขาเข้าไปในนิวยอร์คแล้ว ส่วนระบบคาร์แชริ่ง บีเอ็มดับบลิว ไดร๊ฟนาว BMW’s DriveNow ที่ใช้รถไฟฟ้า ไอ3 ก็ต้องเลิกกิจการ เนื่องจากไม่สามารถหาที่จอดรถรอบเมืองได้เพียงพอ