บีเอ็มดับเบิลยู เล็งเห็นถึงช่องว่างระหว่างรถยนต์ไฟฟ้า ไอ3 i3 และ ไอ8 i8 และรถรุ่นใหญ่ใน ซีรี่ส์ 3 และ ซีรี่ส์ 5 เลยเตรียมหารถรุ่นขนาดกลาง มาสู่ตลาด เพื่อให้ครบขนาดของรถยนต์ที่จำหน่าย
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ในรุ่น ไอ i ของบีเอ็ม ค่อนข้างแตกต่างกับรถในรุ่นต่างๆ ที่บีเอ็มดับเบิลยู จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน เพราะใช้วัสดุนำ้หนักเบา รวมทั้ง คาร์บอน ไฟเบอร์ ที่จะผลิตเป็นจำนวนมากได้ค่อนข้างยาก แต่กระนั้น บีเอ็มดับเบิลยู ก็เตรียมใช้โครงสร้างพื้นฐาน ซีแอลเออาร์ CLAR ที่พัฒนาให้ใช้ได้กับรถหลายขนาด และเครื่องยนต์หลายประเภท
ผู้บริหารบีเอ็มดับเบลยู บืนยันในงาน ปารีส มอเตอร์ โชว์ ว่า รถรุ่น ไอ4 จะออกสู่ตลาดหลังจากรถไฟฟ้า เอสยูวี ไอเอ็กซ์3 iX3 และรถครอสโอเวอร์ ไอเน็กซ์ iNEXT ออกสู่ตลาดแล้ว
ฮาโรลด์ ครเกอร์ Harald Kruger ซีอีโอ ยืนยันว่า “เรามีรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 300,000 คัน วิ่งอยู่ในท้องถนนแล้ว” เขากล่าว “ในปี 2562 เราจะแนะนำรถไฟฟ้า มินิ จากนั้น 2563 จะเป็น บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์3 iX3 ต่อด้วยปี 2564 เป็น ไอเน็กซ์ iNEXT และตามมาดวย ไอ4 i4 ซึ่งจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 5 รุ่นหลัก เพื่อแสดงว่าเราพร้อมสำหรับอนาคตเรียบร้อยแล้ว”
สำหรับรถรุ่นใหม่ๆ บีเอ็มดับเบิลยู จะแนะนำเทคโนโลยีระบบไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่จะมาต่อสู้กับคู่แข่งอย่าง เทสล่า เดินทางได้ถึง 600 กม. หลังจากที่รถรุ่นปัจจุบัน ระยะการเดินทางแต่ละยี่ห้อ จะทำได้ 300 กม. แล้วก็ตาม แต่คู่ต่อสู้ก็สามารถทำได้ ทั้ง เทสล่า, ออดี้ และเมอร์เซเดส ทำ 400 กม. ได้แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์3 จะทำได้มากกว่า 400 กม. และ ไอ4 ทำได้ราว 600 กม. ส่วน ไอเน็กซ์ จะได้มากกว่านั้น