Brand: HONDA Model: Civic
Year: 1996 Miles: 100001 – More
From: อนุพงศ์ กำนลมาศ
Honda : ซีวิค 3 ประตู
สวัสดีครับ คุณอาธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
มีสองปัญหานะครับ
1.รถของผมเป็นเกียร์ออโต้นะครับ ผมได้อ่านข้อเขียนของคุณอาเกี่ยวกับการใช้เกียร์ออโต้โดยคุณอาแนะนำว่าในขณะที่จอดรถติดไฟแดงไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ไปมา ผมจึงได้ทำตามคำแนะนำดังกล่าว แต่รถของผมขณะที่จอดรถติดไฟแดง ผมก็ได้เหยีบเบรคไว้โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นเกียร์ N รถของผมจะมีอาการสั่นที่ประตูฝั่งคนขับนะครับ จะสั่นมาก และจะเป็นแบบเดียวกันในกรณีใส่เกียร์ R ครับซึ่งยางรองแท่นเครื่องผมก็เพิ่งได้เปลี่ยนมา น้ำมันเกียร์ก็เพิ่งเปลี่ยนถ่ายมาจากอู่สุลิตตาแล้วนะครับ และถ้าเปลี่ยนเป็นเกียร์ N อาการสั่นดังกล่าวก็จะหายไปครับ
2.รถของผมเป็นรุ่นคาร์บูนะครับเวลาเครื่องร้อนจะสตราจ์ติดยากมาก ๆ เลยครับถามช่าง ช่างก็บอกว่ารถฮอนด้าจะเป็นอย่างนี้เองให้ใช้วิธีเหยียบคันเร่งสองทีก่อนสตราจ์จะสตราจ์ได้ง่ายขึ้นไม่ทราบเป็นวิธีที่ถูกต้องจริงหรือป่าวครับยังไงรบกวนคุณอาช่วยแนะนำด้วยนะครับว่าเป็นอาการที่ปรกติ หรือผิดปรกตินะครับ
ขอบพระคุณอย่างสูง
อนุพงศ์
1-คำแนะนำ ไม่ใช่คำสั่งนะครับ อยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจคุณชอบ ผมแนะนำอย่างนั้นก็เพราะเรียนมา และรู้ด้วยการซ่อมเกียร์ ผ่าเกียร์ ทั้งเล่นและทำจริงมานับร้อยลูกแล้ว ทำให้เข้าใจการทำงานของเกียร์ และรู้จุดอ่อนของเกียร์ รวมถึงรู้ด้วยว่า คนเราหากทำอะไรบ่อยแล้ว ก็จะชิน และทำอยู่อย่างนั้น จนพลาดได้ง่าย สำหรับเกียร์อัตโนมัติ ก็เกิดการพลาดกันให้เห็นหลายรายแล้ว ถึงตายก็มี
ปัญหาของคุณ เครื่องสั่น เกิดจากเครื่องยนต์ ผมถึงได้พูดเสมอว่า อย่าไปลงโทษเกียร์ว่าเป็นต้นเหตุให้สั่นเลย เรื่องเพราะเครื่องยนต์ของคุณไม่สมบูรณ์เอง จึงสั่นมากเมื่อเข้าเกียร์ D แล้วเหยียบเบรกค้างเอาไว้
ดังนั้น จึงต้องมองและซ่อมกันที่เครื่องยนต์
ถามตัวเราเองว่า ทำไมเครื่องสั่น
ดูรอบตัวเรา ว่าเครื่องยนต์เบาลงกว่าตอนไม่ใส่เกียร์หรือไม่
หากเครื่องยนต์ไม่เบาลงเลย อย่างเช่นว่า ตั้งรอบไว้ต่ำสุด 750 ไม่สั่น แต่พอเข้าเกียร์แล้วเหยียบเบรกไว้ สั่น โดยที่รอบไม่ตกเลย อย่างนี้ ก็ต้องดูส่วนประกอบ เช่นยางแท่นเครื่อง แท่นเกียร์ที่เราเปลี่ยนไปหมาดหมาด ว่า ช่างประกอบเข้ากับที่ดีหรือไม่ อาจจะมีการเยื้องศูนย์ของยางแท่นเครื่อง หรือเปลี่ยนเป็นยางแท่นเครื่องเทียม ซึ่งไม่ดี และอาจจะทำให้สั่นได้เร็วถึงเร็วมาก หลายยี่ห้อสั่นเมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึงสามเดือนดี
หากสั่นและรอบตกลงด้วย ต้องดูเครื่องยนต์แล้วครับ ดูตรงไหน
ก็ดูว่า ทำไมรอบเครื่องไม่ได้รับการชดเชยให้เพิ่มขึ้นเมื่อเกียร์อยู่ที่ D อันจะเป็นการรักษาไว้ในระดับเดิม
ตรงนี้ เป็นเพราะอะไร เพราะเกียร์ หรือเครื่องยนต์
คำตอบก็คือ เครื่องยนต์
แล้วเราจะไปโทษเกียร์ทำไม เกียร์ไม่ได้เป็นต้นเหตุนี่นา
ไปหาดูทีรึ ว่าท่อไอดีรั่วตรงไหนหรือไม่ ฟังเสียงเครื่องยนต์ใกล้ใกล้ดูทีหรือว่า มีเสียงลมดังฟี้ฟี้ออกมาแถวท่อไอดีหรือเปล่า หากมีก็แก้ไขเสีย
ไม่มีละเอ้า ก็ต้องดูแล้วว่า ตัวชดเชยรอบทำงานดีจริงหรือไม่ เพราะบางที ตัวชดเชยรอบทำงานดีเฉพาะเมื่อแอร์ทำงาน เนื่องจากลมดูดมีผลมากหน่อย แต่กับเกียร์ ลมดูดมีน้อย ตัวกาเวอรเนอร์ไม่ยอมทำงาน อย่างนี้ก็ต้องแก้ไข ปรับกันหน่อย ก็จบ
ดูอย่างไร ก็ดูจากการจอดอยู่กับที่ แล้วบิดพวงมาลัยซ้าย-ขวา เกือบสุด ไม่จำเป็นให้สุดนะครับ เกียร์ปล่อยไว้ที่ว่างก่อน ติดเครื่อง เดินเบา ไม่ต้องเปิดแอร์ บิดพวงมาลัยแล้วค้างไว้ ฟังเสียงเครื่อง ดูอาการสั่นของเครื่อง หากสั่น และมีเสียงผิดปกติไป ก็แน่แล้วครับ ตัวชดเชยรอบทำงานไม่ดีแน่นอน
ก็แค่นี้เอง เห็นไหม มาโทษเกียร์กัน แล้วทำร้ายตัวเองกับรถยนต์ดีดีของเราไปได้อย่างไร
เชื่อหรือไม่เชื่อผม ไม่สำคัญ ผมทำงานเพื่อพวกคุณ แต่ไม่จำเป็นที่พวกคุณจะต้องเห็น ต้องยอมรับเสมอไป ผมรับได้กับการไม่ยอมรับ แต่ไม่ชอบที่พวกอิจฉาตาร้อนไปนั่งด่าว่าผมใน Web อื่นแบบไม่ต้องเปิดตัว แอบเข้าไปสมัครสมาชิก แล้วก็ทำไป อย่านึกว่าผมไม่รู้ว่าใครเป็นใคร รู้อย่างไรก็ไม่บอกหรอกครับ แต่รู้ก็แล้วกัน
2-ใช่ครับ ถูกต้องแล้ว เพราะเวลาเครื่องเย็น แผ่นโช้คน้ำมันจะปิด เป็นเหตุให้ส่วนผสมหนาขึ้น เครื่องยนต์ติดง่ายขึ้น
เมื่อร้อน แผ่นโช้คไม่ทำงาน รถอายุมากแล้ว ส่วนผสมบาง ติดยากหน่อย หากคุณเหยียบคันเร่งสักครึ่งหนึ่งก็จะติดง่ายขึ้น
หรือเหยียบคันเร่งแบบกดกดสักทีสองที น้ำมันจะฉีดออกไปจากท่อเร่งของคาร์บิวฯโดยการดันของปั๊มเร่งในคาร์บิวฯ น้ำมันนี่จะลงไปค้างอยู่ในท่อไอดี เมื่อคุณสตาร์ทเครื่อง น้ำมันที่ค้างอยู่กับน้ำมันในคาร์บิวฯจะเข้าไปในกระบอกสูบ ทำให้ส่วนผสมหนาขึ้น เครื่องยนต์ก็ติดง่ายขึ้น
แต่อย่างหลังนี่ ไม่ดีนัก เพราะอาจจะเกิดการ”ท่วม”ของน้ำมันขึ้นมาได้ จึงแนะนำวิธีแรก ที่บอกว่าเหยียบคันเร่งลงไปสักครึ่งหนึ่งมากกว่าครับ
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…