‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 เอส*’ ได้รับเลือกให้เป็นยางมาตรฐาน สำหรับติดตั้งในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ‘เอ็กซ์ 3 เอ็ม’ และ ‘เอ็กซ์ 4 เอ็ม’

บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) วางใจเลือกติดตั้งยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 เอส*’ (MICHELIN Pilot Sport 4S*: PS4S*) ยางฤดูร้อนขนาด 21 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์สมรรถนะสูง 2 รุ่นล่าสุด ได้แก่ ‘เอ็กซ์ 3 เอ็ม คอมเพทิชั่น’ (X3 M Competition) และ ‘เอ็กซ์ 4 เอ็ม คอมเพทิชั่น’ (X4 M Competition) โดยเป็นยางมาตรฐานเพียงหนึ่งเดียวที่ใช้ในการแถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์รุ่นล่าสุดดังกล่าวบนเวทีโลก

‘บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 3 เอ็ม’ และ ‘เอ็กซ์ 4 เอ็ม’ ซึ่งใช้ล้ออลูมิเนียมอัลลอยน้ำหนักเบาขอบ 21 นิ้ว จะติดตั้งยางสมรรถนะสูงพิเศษ ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 เอส*’ ขนาด 255/40ZR21 102Y ที่ล้อคู่หน้า และขนาด 265/40ZR21 105Y ที่ล้อคู่หลัง โดยยางดังกล่าวผสานหลากหลายเทคโนโลยีของมิชลินเข้าไว้ด้วยกัน อาทิ ดอกยางที่ใช้เนื้อยางต่างสูตรในหนึ่งเดียว (Multi-Compound) และโครงยางที่เสริมความแข็งแกร่งด้วยเส้นใยอะรามิด (Aramid) นอกจากนี้ ยางที่ใช้ยังมีเครื่องหมายดอกจัน (*) กำกับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายางที่ติดตั้งมาในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูนี้ผ่านการรับรองตามกฎระเบียบและสภาพการใช้งานในท้องถิ่นอย่างปลอดภัย

มิชลินมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและประสบความสำเร็จกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล M โดยได้ออกแบบยางให้กับรถบีเอ็มดับเบิลยูหลายรุ่นในตระกูลนี้1 ยางดังกล่าวล้วนเกิดจากความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล M และมิชลิน เป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปีเต็ม ทั้งนี้ ระหว่างการพัฒนา ได้มีการผลิตและทดสอบยางต้นแบบราว 800 เส้น รวมทั้งยางที่อยู่ในขั้นเตรียมผลิตอีก 1,400 เส้น ณ สนามเนือร์บูร์ก-ริง(Nurburgring) ในประเทศเยอรมนี, สนามมิรามาส์ (Miramas) และสนามลาดูซ์ (Ladoux) ในประเทศฝรั่งเศส เพื่อให้มั่นใจว่ามีคุณสมบัติและสมรรถนะตามที่วิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล M ต้องการ

ทั้งนี้ ยางคู่หน้าใช้เทคโนโลยีเนื้อยาง 3 สูตร (Tri-Compound) ขณะที่ยางคู่หลังใช้เทคโนโลยีเนื้อยาง 2 สูตร (Bi-Compound) เทคโนโลยีเนื้อยางต่างสูตร (Multi-Compound) ได้รับการพัฒนาขึ้นในเบื้องต้นเพื่อการแข่งขันระยะยาว หรือ ‘เอ็นดูรานซ์ เรซ’ (Endurance Race) โดยใช้เนื้อยางต่างสูตรบริเวณส่วนต่างๆ ของหน้ายางเพื่อสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น บริเวณไหล่ยางด้านนอกเพื่อให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมและต้านทานการสึกหรอระหว่างเข้าโค้ง, บริเวณดอกยางบั้งขนาบแกนกลาง (Intermediate Rib) เพื่อการบังคับเลี้ยวและควบคุมรถที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งบริเวณไหล่ยางด้านในเพื่อให้มีศักยภาพในการรีดน้ำและยึดเกาะพื้นถนนเปียกได้ดียิ่งขึ้น

วิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล M ได้ขอให้มิชลินพัฒนายางโดยให้ความสำคัญกับสมรรถนะการขับขี่บนพื้นถนนแห้ง ความสามารถในการยึดเกาะถนนระดับสูง ศักยภาพการขับขี่บนสนามแข่งระยะยาว และการทรงตัวที่ดีบนพื้นถนนเปียก ควบคู่ไปกับการให้อารมณ์ของการขับขี่รถสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล M ทั้งนี้ การที่ขนาดของล้อคู่หน้าและคู่หลังเท่ากันหมายความว่ามิชลินจะต้องออกแบบโครงสร้างที่ให้คุณสมบัติพิเศษแตกต่างกันโดยอาศัยเพียงดอกยางและสูตรเนื้อยางเท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการด้านการออกแบบและรูปลักษณ์ที่กำหนด

การบูรณาการเทคโนโลยีต่างๆ ข้างต้นเข้าด้วยกันส่งผลให้ ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 เอส*’ ประสบความสำเร็จในการผสานคุณสมบัติการยึดเกาะถนน ความปลอดภัย ความสบาย และความรื่นรมย์ขณะขับขี่ เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ยางรุ่นนี้จึงไม่เพียงตอบโจทย์มาตรฐานและข้อกำหนดของบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล M แต่ยังเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วย

 

ขณะดำเนินการพัฒนายาง วิศวกรของมิชลินได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับสมรรถนะในด้านต่างๆ ที่กำหนด ควบคู่ไปกับการรักษาสมรรถนะในด้านอื่นนอกเหนือจากนั้น ผู้ขับขี่ ‘บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 3 เอ็ม’ และ ‘เอ็กซ์ 4 เอ็ม’ ซึ่งติดตั้งมาพร้อมยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 เอส*’ สามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เยี่ยมยอด ซึ่งตอกย้ำให้ตระหนักถึงความปลอดภัยสูงสุดและอายุใช้งานที่ยาวนานแม้ต้องเผชิญกับสภาพการใช้งานสุดหฤโหดก็ตาม

1 ที่ผ่านมา ยางมิชลินสมรรถนะสูงได้รับเลือกให้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู รุ่น M2, M3, M4, M5, M6, X5 M และ X6 M

Facebook Comments