มาสด้า2 พิสูจน์แล้วขับจริง-ประหยัดจริง ถังเดียวกรุงเทพถึงภูเก็ต


บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำคณะสื่อมวลชนจำนวน 12 คน พร้อมด้วยสักขีพยานที่เป็นสื่อมวลชนของหนังสือพิมพ์อีกจำนวน 8 คน ร่วมพิสูจน์การขับของรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 ใหม่ ที่สมรรถนะความแรงสามารถอยู่คู่กับความประหยัดน้ำมัน ด้วยการขับจากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดภูเก็ต กับโจทย์น้ำมันเพียงถังเดียวจำนวน 43 ลิตรแต่ต้องไปให้ถึงจุดหมาย โดยมีกฏเหล็กคือขับตามเงื่อนไขของการใช้งานจริง ห้ามปิดแอร์ ความดันลมยางตามมาตรฐานใช้งานปกติ โดยที่ความเร็วเฉลี่ยต้องไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง และต้องใช้เวลาขับถึงภูเก็ตไม่เกิน 14 ชั่วโมง ทีมสื่อมวลชนออกเดินทางจากโชว์รูมมาสด้า สตราดิวารี่ สาขาพระราม 2 ด้วยวิ่งบนถนนในสภาพการจราจรใช้งานจริง ทั้งพายุฝนที่เทกระหน่ำตลอดเส้นทาง การจราจรที่หนาแน่น ที่สำคัญการทดสอบในครั้งนี้ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นผู้กำหนดกติกาเงื่อนไขและกฏเหล็กของการทดสอบ ผลปรากฏว่ารถยนต์มาสด้า2 ทุกคัน สามารถขับผ่านสะพานสารสิน ผ่านวงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตริย์ตรี ท้าวศรีสุนทร เข้าสู่จังหวัดภูเก็ต ด้วยความเร็วเฉลี่ยตลอดการเดินทางไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำสถิติใหม่ที่น่าทึ่งให้แก่มาสด้า2 เพราะน้ำมันถังเดียวสามารถขับได้ไกลถึง 919 กิโลเมตร

สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งครั้งกับกิจกรรมเพื่อความ ซูม-ซูม อย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Zoom-Zoom และเพื่อเป็นการร่วมส่งเสริมนโยบายของภาครัฐ รวมทั้งเป็นการร่วมอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม การที่มาสด้าได้เปิดบันทึกประวัติศาสตร์ในการเดินทางครั้งสำคัญ โดยการเชิญสู่มวลชนเข้าร่วมทดสอบ เพื่อพิสูจน์ความสมบูรณ์แบบของรถมาสด้า2 ในเรื่องของจุดแข็งที่สมดุลย์ระหว่างสมรรถนะความแรงกับการประหยัดน้ำมัน เป็นกลยุทธ์ของการสร้างจุดแข็งของรถที่หลากหลายมากขึ้น MULTI-STRENGTHS ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคเฟสบุ๊คได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังเป็นการยกระดับความ ซูม-ซูม ของรถมาสด้า2 ว่าด้วยเทคโนโลยีการออกแบบของมาสด้า ทำให้รถมาสด้า2 เป็นรถที่ให้ทั้งการประหยัดน้ำมันโดยไม่ทิ้งสมรรถนะที่แรงดีขับสนุกของรถสปอร์ตซิตี้คาร์


นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับการร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ทางมาสด้าได้นำเอารถยนต์นั่งสปอร์ตซิตี้มาสด้า2 ใหม่ รุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู และรุ่นซีดาน 4 ประตู เครื่องยนต์ 1500 ซีซี ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 103 แรงม้า ซึ่งการทดสอบครั้งนี้ เพื่อเป็นบทพิสูจน์ว่ารถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันสามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 โดยไม่มีผลต่อสมรรถนะเครื่องยนต์และการสึกหรอ แต่จะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ ทั้งนี้เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้รถมีความมั่นใจในการใช้มากขึ้น รวมทั้งเป็นการสนับสนุนนโยบายการใช้พลังงานทางเลือกของรัฐบาล

สำหรับการทดสอบในครั้งนี้มาสด้านำเอารถยนต์มาสด้า2 จำนวน 6 คัน ซึ่งขับขี่ทดสอบโดยผู้สื่อข่าวสายรถยนต์จำนวน 12 ท่าน พร้อมสักขีพยานซึ่งเป็นสื่อมวลชนที่เข้าร่วมสังเกตการณ์อีก 8 คน พร้อมกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นผู้รับรองผลการทดสอบในครั้งนี้ โดยออกเดินทางจากโชว์รูมมาสด้า สตราดิวารี่ สาขาพระราม 2 ซึ่งอยู่ในเขตกรุงเทพ ตั้งแต่เวลา 08.05 น. มุ่งหน้าลงทางภาคใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรปกติ ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี พังงา และสิ้นสุดที่จังหวัดภูเก็ต ด้วยการเติมน้ำมันเพียงครั้งเดียวเต็มถังในปริมาตรความจุ 43 ลิตร รวมระยะทาง 798 กิโลเมตร ด้วยความเร็วเฉลี่ยต้องไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาวิ่งทั้งสิ้นไม่เกิน 14 ชั่วโมง ซึ่งรถมาสด้า2 ทุกคันสามารถวิ่งถึงภูเก็ตด้วยน้ำมันเพียงถังเดียวและยังมีน้ำมันเหลือในอยู่ในถังอีกจำนวนหนึ่ง และคันที่ชนะเลิศสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 919 กิโลเมตร


นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า การบันทึกการขับประวัติศาสตร์ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มาสด้าต้องการสื่อสารกับลูกค้าในยุคดิจิตัล ผู้มีความคาดหวังสูงจากการเลือกซื้อสินค้ามาใช้สอย ความหมายของคำว่าคุณภาพของกลุ่มลูกค้ายุคนี้ หมายถึงคุณภาพที่มีคุณค่า (VALUED QUALITY) ต้องการสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้ในเวลาเดียวกัน หรือ MULTI-STRENGTH PRODUCT นอกจากสมรรถนะความแรงของรถแล้ว มาสด้า2 ยังสามารถพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นรถซิตี้คาร์ที่มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ หรือเป็นรถประหยัดน้ำมันนั่นเอง ซึ่งมาสด้าต้องการนำเสนอข้อเท็จจริงด้านนี้ให้เป็นรูปธรรมและจับต้องได้ โดยเน้นว่าผลที่ได้ต้องอยู่บนพื้นฐานการขับแบบใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เพื่อที่ลูกค้าสามารถนำไปปฏิบัติในการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
“ปัจจัยหลักนอกจากความสามารถของผู้ขับขี่แล้ว การออกแบบรถสปอร์ตซิตี้คาร์มาสด้า2 มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนารถสปอร์ต เรียกว่า “เทคโนโลยีไลท์เวท (Lightweight Technology) คือ ทำให้รถมีน้ำหนักที่เหมาะสม ไม่มีภาวะการแบกน้ำหนัก โดยการตัดทอนน้ำหนักส่วนเกินที่ไม่จำเป็นของรถออก ซึ่งส่งผลให้สมรรถนะของรถดีขึ้น การหยุดรถขณะใช้ความเร็วทำได้แม่นยำขึ้น ที่สำคัญช่วยให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น ซึ่งรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ สามารถลดน้ำหนักส่วนเกินลงถึง 100 กิโลกรัม หรือ 30% (เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน) ประกอบกับการออกแบบเครื่องยนต์ MZR ขนาด 1500 ซีซี ที่ให้แรงบิดต่อเนื่องสำหรับการวิ่งในเมือง และกำลังแรงเกินตัวเมื่อวิ่งบนทางหลวงไฮเวย์ ควบคู่กับระบบช่วงล่างอันเลื่องชื่อของมาสด้า องค์ประกอบสำคัญบนรถมาสด้า2 ใหม่นี้จึงตอบสนองการขับขี่ที่สนุกตามแบบฉบับ “ซูม-ซูม” อย่างแท้จริง แต่ไม่ทิ้งประโยชน์เรื่องการประหยัดน้ำมัน การชนะความท้าทายทางยนตรกรรมนี้ทำให้รถมาสด้า2 โดดเด่นจนสามารถพิชิตรางวัลรถยอดเยี่ยมของโลกตั้งแต่ปี 2008 WORLD CAR OF THE YEAR AWAD WINNER” สุรีทิพย์ กล่าวเพิ่มเติม


โดยสรุปในครั้งนี้ผลปรากฏว่ารถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 สามารถวิ่งด้วยน้ำมันเพียงถังเดียว 43 ลิตร ถึงภูเก็ตทุกคัน แม้ว่าสภาพภูมิอากาศจะมีฝนและลมพายุกระหน่ำตลอดเส้นทาง รวมทั้งการจราจรที่หนาแน่น ซึ่งเป็นถนนที่ประชาชนทั่วไปใช้สัญจร รวมระยะเวลาที่เดินทางในครั้งนี้ประมาณ 14 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาแวะพักระหว่างทาง และที่สำคัญรถทุกคันยังสามารถวิ่งต่อไปได้อีกจนกว่าน้ำมันจะหมดถัง ซึ่งผลที่ออกมาปรากฏว่ารถมาสด้า2 ทุกคันวิ่งได้ระยะทางดังรายละเอียดดังต่อไปนี้

อันดับที่1 ระยะทางที่วิ่งได้ 919 กิโลเมตร
ระยะเวลาที่เดินทาง 13.078 ชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ยตลอดการเดินทาง 60.328 กม./ชม.
อันดับที่2 ระยะทางที่วิ่งได้ 905 กิโลเมตร
ระยะเวลาที่เดินทาง 12.162 ชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ยตลอดการเดินทาง 64.875 กม./ชม.
อันดับที่3 ระยะทางที่วิ่งได้ 879 กิโลเมตร
ระยะเวลาที่เดินทาง 13.090 ชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ยตลอดการเดินทาง 60.274 กม./ชม.

กติกาและเงื่อนไขซึ่งเป็นกฏเหล็กของการทดสอบแบบใช้งานจริงในครั้งนี้

 เดินทางจากกรุงเทพและต้องไปให้ถึงภูเก็ต
 เวลาในการเดินทางถูกจำกัดเพียง 14 ชม. โดยไม่รวมเวลาหยุดพัก
 ความเร็วเฉลี่ยตลอดการเดินทางต้องไม่ต่ำกว่า 60 กม./ชม.
 เปิดแอร์ที่อุณหภูมิความเย็นระดับ 3 ใน 4 และความแรงพัดลมเบอร์ 2
 ความดันลมยางที่ระดับปกติตามมาตรฐานที่ระบุในคู่มือรถ คู่หน้า 32 psi และ คู่หลัง 29 psi
 ห้ามพับกระจกมองข้าง และห้ามเปิดกระจกทุกบาน
 ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวมกับสัมภาระในการเดินทาง
 ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอร์ 95 E10 ทุกคัน

ดังนั้นลูกค้ามาสด้าทุกท่านไม่ควรพลาดโอกาสการในการทดลองขับและตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งซิตี้คาร์มาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ปี 2011 ยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้า ที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ที่เร้าใจ สมรรถนะเป็นเยี่ยม ให้ความมั่นใจในความปลอดภัย อบอุ่นใจตลอดการเดินทาง พร้อมรับข้อเสนอและเงื่อนไขสุดพิเศษจากมาสด้า ทั้งนี้รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นรับประกันคุณภาพนานถึง 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สามารถทดลองขับก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของและรับข้อเสนอสุดพิเศษที่โชว์รูมมาสด้าทั้ง 129 แห่งทั่วประเทศ

thunyaluk@caronline.net

Facebook Comments
CarOnline Team

Recent Posts