ซีอีโอ มาสด้า อะกิระ มารุโมโต้ Akira Marumoto กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงโตเกียวว่า ก่อนจะถึงปี 2564 มาสด้า จะต้องชำระค่าปรับให้กับสหภาพยุโรป เพราะมียอดการจำหน่ายรถเอสยูวี จำนวนมาก โดยตัวเลขการขายของมาสด้า ในทวีปยุโรป ตกราว 1 ใน 5 ของยอดการขายทั้งหมด และหากมาสด้า สามารถเริ่มการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด หรือ ไฮบริด ล้วน ได้เมื่อใด ก็จะไม่ต้องชำระค่าปรับดังกล่าว
ในกระบวนค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นทั้งหมด มาสด้า ได้รับผลกระทบจากข้อบังคับด้านค่าไอเสีย ที่เกินเป้าหมายของสหภาพยุโรปในปีที่แล้ว มากที่สุด
การป้องกันไม่ให้ต้องชำระค่าปรับ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ในการเพิ่มรายได้ อันเนื่องมาจากยอดขายรถยนต์ทั่วโลกที่ตกต่ำ และการเกิดอุบัติภัยในประเทศญี่ปุ่นปีนี้ ทำให้มีปัญหาด้านการผลิตจากโรงงานในประเทศ
ค่ายมาสด้า และค่ายรถยนต์อีกหลายเจ้า ต้องถูกปรับรวมกับเป็นเงินมากกว่า 14 พันล้านยูโร ราว 560 พันล้านบาท เพราะไม่สามารถปฏิบัติตามข้อบังคับด้านค่าไอเสียที่เข้มงวด ที่เริ่มมีข้อกำหนดที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะบังคับใช้จริงในปี 2563 เป็นต้นไป โดยมาสด้า ระบุว่า ได้เตรียมเงินราว 88 ล้านเหรียญ ราว 2,640 ล้านบาท ไว้สำหรับจ่ายค่าปรับในปีนี้แล้ว
ขณะเดียวกัน มาสด้า ก็เตรียมการแนะนำรถยนต์คอมแพค มาสด้า3 ที่ประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น ด้วยโครงสร้างพื้นฐาน สกายแอคทีฟ ในงาน ลอส แอนเจลิส ออโต้ โชว์ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน นี้
และเมื่อเดือนก่อน มาสด้า เพิ่งประกาศแผนงานในอนาคต โดยชี้แจงว่า รถยนต์ทุกรุ่น จะมีรุ่นรถยนต์ไฟฟ้า ครบหมด นับแต่ปี 2563 โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ไฮบริด ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้าจะเป็นตัวช่วยการทำงานของเครื่องยนต์เท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนโดยตรง
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…