19 กรกฎาคม 2560 บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด – เปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2560 ร้อนแรงเกินความคาดหมาย หลังจากเปิดเกมรุกส่งเทคโนโลยีใหม่เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ลุยปล่อยรถรุ่นใหม่ลงตลาดถึง 4 รุ่น ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด โกยยอดขายรวมทุกรุ่นกว่า 24,000 คัน ยอดขายโต 13% ย้ำชัดลูกค้าเชื่อมั่นในเทคโนโลยีใหม่ SKYACTIV-Vehicle Dynamics ประกาศเดินหน้าปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ พร้อมก้าวขึ้นสู่พรีเมียมแบรนด์อย่างเต็มตัว เตรียมอุดช่องว่าง เสริมจุดแข็งด้วยการบริการหลังการขาย MAZDA ACTIV SERVICE รองรับการขยายตัวทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว พร้อมปรับเป้าการขายเพิ่มขึ้น คาดปีนี้เติบโตอีก 20% ด้วยยอดขายทะลุ 51,000 คัน
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมของตลาดรถยนต์ว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ตลาดรถยนต์กลับคึกคักมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา หลายๆ ค่ายต่างขยับขับเคลื่อนทั้งเปิดตัวรถรุ่นใหม่ จัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นความต้องการ และเพื่อให้ลูกค้าได้จับจองเป็นเจ้าของรถได้ง่ายไม่ว่าจะเป็น ดาวน์น้อย ดอกเบี้ยต่ำ บำรุงรักษาให้ฟรี เพิ่มทางเลือกและโอกาสในการเป็นเจ้าของรถที่ชอบให้กับลูกค้ามากขึ้นจนเกิดการแข่งขันที่ดุเดือด เข้มข้น ส่งผลให้ตลาดรถยนต์คึกคักต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงไตรมาสที่สองของปีนี้ อีกทั้งยังมองเห็นแนวโน้มของการขยับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะตลาดรถยนต์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมกราคม คาดว่ายอดขายรวมของตลาดจะเพิ่มขึ้นถึง 820,000 คัน สำหรับมาสด้าได้มีการปรับเป้าการขายเพิ่มอีก 1,000 คัน จาก 50,000 คัน เพิ่มเป็น 51,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 20%
จากกระแสตอบรับรถยนต์มาสด้าในเจนเนอเรชั่นใหม่ที่กำลังฮ็อตฮิตติดลมบน หลังจากผ่าน 6 เดือนแรก ส่งรถใหม่ลงตลาดถึง 4 รุ่น เพิ่มความร้อนระอุให้ตลาดรถยนต์ของไทย ส่งผลให้ยอดขายครึ่งปีแรกแรงไม่หยุดทะลุถึง 23,893 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 13% นำโดยรถยนต์นั่งซิตี้คาร์ขวัญใจคนรุ่นใหม่ มาสด้า2 ที่ขับเคลื่อนยอดขายสูงสุดถึง 14,284 คัน ตามมาด้วยรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 3,099 คัน, มาสด้า3 จำนวน 2,677 คัน, มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 จำนวน 2,219 คัน, มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 จำนวน 1,604 คัน และสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 จำนวน 10 คัน ยึดบัลลังก์อันดับ 3 ตลาดรถยนต์นั่งไว้อย่างเหนียวแน่น เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยผ่านช่วงที่ยากลำบากมาแล้ว ตอนนี้เครื่องยนต์ทุกตัวเริ่มติดแล้วและกำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้า คาดการณ์ปีนี้ยอดรวมของตลาดรถยนต์ไทยทะลุเกิน 820,000 คัน
นายชาญชัย แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยที่เริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่ามาจากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกของประเทศไทยไปยังภูมิภาคต่างๆ ที่มีทิศทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกข้าว และสินค้าทางการเกษตรอื่นๆ การเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ราคาสินค้าการเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น มาตรการของภาครัฐที่ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร อาทิ การส่งเสริมให้ใช้นวัตกรรมแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า มาตรการส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม หรือ SME การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผนวกกับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ อีกทั้งประชาชนภายในประเทศยังคงมีความต้องการสินค้าอุปโภค – บริโภค โดยเฉพาะรถยนต์ที่กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินชีวิตไปแล้ว โดย 6 เดือนแรกของปีนี้ ภาพรวมของตลาดรถยนต์เป็นไปตามที่คาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 410,00 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 11% เมื่อเทียบกับตัวเลขยอดรวมเมื่อปีที่ผ่านมา 368,630 คัน
มาสด้าประสบความสำเร็จอย่างงดงามในครึ่งปีแรกเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 23,893 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 13% และครองส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 6% มียอดจำหน่ายของแต่ละรุ่น ดังนี้
มาสด้า2 จำนวน 14,284 คัน เติบโต 26% ครองอันดับ 3 ของตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก
มาสด้า3 จำนวน 2,677 คัน เติบโต 24% ครองอันดับ 3 ของตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง
มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 จำนวน 2,219 คัน ลดลง 23% แต่หลังการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมยอดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 จำนวน 1,604 คัน รักษาการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
มาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 3,099 คัน รักษาการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 จำนวน 10 คัน
นอกจากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว มาสด้ายังมุ่งมั่นในการปรับภาพลักษณ์และการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ของมาสด้า นั่นคือ Mazda Corporate Identity เพื่อยกระดับแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าเมื่อได้สัมผัสความเป็นมาสด้า จากทั้งหมด 147 แห่ง จะถูกปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 และเตรียมขยายเพิ่มอีก 20 แห่ง ทั่วประเทศ เตรียมพบกับมาตรฐานใหม่ของการให้บริการทั้งก่อนและหลัง ที่มาสด้าเน้นสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั้งด้านการขายและการบริการ ติดตามผลการประเมินความพึงพอใจอย่างใกล้ชิด พัฒนาคุณภาพฝีมือช่างซ่อมให้ก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งมาสด้าได้มีการจัดแข่งขันทักษะช่างเทคนิคและการบริการ เพื่อพัฒนามาตรฐานคุณภาพของบริการหลังการขาย
นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า มาสด้าเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทย มีแนวโน้มและทิศทางที่สดใสมากกว่าปีที่ผ่านมา และคาดว่ายอดขายของตลาดรถยนต์จะเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา ปีนี้คงจะได้เห็นยอดจำหน่ายมากกว่า 820,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 7-10% ในส่วนของมาสด้าเราตั้งเป้ายอดขายปีนี้ เติบโตสูงสุด 20% หรือประมาณ 51,000 คัน (จากปี 2559 = 42,537) และครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 6% (จากปี 2559 = 5.5%) โดยมาสด้าได้มีการปรับเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ได้ประกาศไว้ ทั้งในส่วนของตลาดรวมและในส่วนของมาสด้า
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของครึ่งปีหลังว่า ด้วยการส่งออกที่มีการขยายตัวตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2560 เช่นเดียวกับการลงทุนของทั้งภาครัฐ และเอกชนที่เริ่มฟื้นตัวตามสภาวะการส่งออก ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรขยับขึ้น ผู้บริโภคจึงมีรายได้ในการจับจ่ายใช้สอยในครัวเรือนมากขึ้น มีส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจไทยตลอดปี 2560 ขยายตัวได้ประมาณ 3.5% ซึ่งจะสูงที่สุดในรอบ 5 ปี โดยตลาดรถยนต์คือหนึ่งในปัจจัยหลักสำคัญชี้วัดตัวเลขทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี รวมทั้งกลยุทธ์หลักสำคัญที่จะนำพามาสด้าก้าวสู่ความสำเร็จในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 นี้
กลยุทธ์หลักสำคัญที่จะผลักดันให้มาสด้าก้าวสู่ความสำเร็จ สามารถบรรลุเป้าหมายในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ประกอบด้วย
1. การนำเสนอรถรุ่นใหม่เพิ่มอีก 2 รุ่น ในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่ครึ่งปีแรกเปิดตัวไปแล้ว 4 รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพิ่มทางเลือกและความหลากหลายให้กับลูกค้า
2. อีกหนึ่งแผนพัฒนาธุรกิจที่มาสด้าได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับการขยายเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการ เพื่อให้มาสด้าเป็นแบรนด์ที่ลูกค้านึกถึงอยู่เสมอ โดยเริ่มตั้งหน้าบ้าน นั่นคือ การปรับโชว์รูมใหม่ของมาสด้า ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Mazda Corporate Identity ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งตั้งอยู่บนแนวคิดหลัก 3 ประการ คือ สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ สร้างคุณค่าทางอารมณ์ให้แก่รถยนต์มาสด้า และสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรก การเปลี่ยนแปลงที่ลูกค้าสัมผัสได้ รวมไปถึงการวางระบบบริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพกับ MAZDA ACTIV SERVICE
การสร้างความพึงพอใจสูงสุดด้วยความสะดวกสบาย (Convenience) ได้แก่ ศูนย์ซ่อมสี และตัวถังแบบครบวงจร ห้องรับรองลูกค้าที่อบอุ่น หรูหรา และช่องพิเศษในการให้บริการแบบเร่งด่วนไม่เกิน 2 ชั่วโมง
สัมผัสกับความรวดเร็ว (Fast) กับช่องซ่อมแบบเร่งด่วน จัดเตรียมสำรองอะไหล่ที่จำเป็น การอนุมัติงานซ่อมแบบเร่งด่วนกรณีเกิดอุบัติเหตุ การจัดส่งอะไหล่ที่รวดเร็ว และตลอด 24 ชั่วโมง
สร้างมาตรฐานและประสิทธิภาพเดียวกันทุกโชว์รูม (Standardize & Efficiency)
ราคาที่สบายกระเป๋า โปร่งใส (Price) ทั้งราคาอะไหล่แต่ละชิ้นต้องมีการประกาศให้ลูกค้ารับทราบ ราคาค่าแรงในการให้บริการ ราคาค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง ราคาที่สามารถเปรียบเทียบกับตลาด
3. หลังจากการปรับภาพลักษณ์ใหม่ ยกระดับมาตรฐานใหม่ของการให้บริการ สิ่งที่มาสด้าเดินหน้าเต็มกำลังต่อจากนี้ คือ การสื่อสารทางการตลาด สร้างการรับรู้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์ พร้อมแสดงศักยภาพในด้านการบริการหลังการขาย นำเสนอการบริการที่ดีที่สุดเกินความคาดหมาย ทั้งด้านคุณภาพและประสิทธิภาพ
4. เพิ่มช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าให้มากขึ้นด้วยโปรแกรม Customer Care Menu ผ่านทางเว็บไซต์ www.mazda.co.th เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลกับลูกค้าในทุกเรื่องราวที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า
5. อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่มาสด้านำเสนอให้กับลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของรถได้ง่ายยิ่งขึ้น นั่นคือ การจัดแคมเปญโปรโมชั่น และในเดือนกรกฎาคมนี้มาสด้าจัดแคมเปญขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่นในเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และเลือกใช้รถมาสด้ามากกว่า 100,000 คัน ทั่วประเทศ และด้วยกระแสตอบรับที่ดีของผู้ใช้จริงจนครบ 100,000 คัน อย่างรวดเร็ว จึงมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษ “Mazda SKYACTIV Celebration 100,000+” ด้วยดอกเบี้ย 0% ในรุ่นมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 สำหรับมาสด้า2, มาสด้า3 และมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 รับดอกเบี้ยพิเศษ 2.22% พร้อมกับ Mazda Care 3 ปี กระบะสายพันธุ์แกร่งมาสด้า บีที-50 โปร ดาวน์เริ่มต้นเพียง 35,000 บาท และมอบความอุ่นใจตลอดการเดินทางด้วย Mazda Care ฟรี 5 ปี และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท ที่สำคัญเมื่อจองรถมาสด้าทุกรุ่น รับ Mazda Premium Insurance ปกป้องคุ้มครองคนที่เรารักด้วยประกันภัยชั้น 1 จากมาสด้า นอกจากนี้ รับสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดี รับบัตรกำนัลมูลค่า 100,000 บาท ทุกวันตลอดแคมเปญ รวม 20 รางวัล 20 วันเท่านั้น ระหว่างวันที่ 8 – 27 กรกฎาคม นี้
6. พิเศษที่สุดสำหรับลูกค้ามาสด้าผู้ใช้รถมาสด้าทุกรุ่น มาสด้าขอมอบความปลอดภัยในการขับขี่แด่คุณและคนที่คุณรัก เข้ารับบริการตรวจเช็ครถฟรี 20 รายการ และตรวจเช็คสุขภาพรถด้วยระบบคอมพิวเตอร์ Mazda Modular Diagnostic System (M-MDS) ที่ละเอียดแม่นยำ พร้อมรับส่วนลดค่าอะไหล่ ผ้าเบรก โช๊คอัพ ยางหุ้มเพลาขับ สายพานขับ สูงสุด 40% เปลี่ยนยางราคาเริ่มต้นเพียง 2,300 บาท ต่อเส้น แถมฟรี ยางปัดน้ำฝน 1 คู่ แบตเตอรี่ราคาเริ่มต้น 1,700 บาท ระยะเวลานานถึง 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2560 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โชว์รูมมาสด้า หรือมาสด้าสปีดไลน์ 0-2030-5666
7. ปัจจุบันการตลาดแบบ Words of Mouth หรือการบอกต่อปากต่อปากโดยผู้มีประสบการณ์จริง มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในยุคของการสื่อสารในปัจจุบัน ถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้สึก ผ่านการเขียนรีวิว หรือแชร์ประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะโลกการสื่อสารของผู้คนในสังคมเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาโดยผ่านช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย ดังนั้นมาสด้าเตรียมจัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุดพิเศษ ที่จะถ่ายทอดและแบ่งปันเรื่องราวความประทับใจ และประการณ์จริงจากลูกค้าที่ใช้งานจริง
8. อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้สัมผัสกับตัวตนของแบรนด์มาสด้าคือการออกบูธจัดแสดงรถยนต์ในพื้นที่ต่างๆ หรือ Road Show เสมือนการเดินเข้าไปหาลูกค้าถึงหน้าบ้าน เจาะกลุ่มลูกค้าแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะมีความแตกต่างด้วยวิถีชีวิต รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อนำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า มาสด้าจะเดินหน้าจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีรูปแบบของกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสม
มาสด้าพร้อมที่จะเดินหน้าเต็มกำลังด้วยกลยุทธ์รอบด้านบนเส้นทางการดำเนินธุรกิจที่แตกต่าง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ มอบคุณค่าและเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ตอบสนองต่อความต้องการให้ครบทุกข้อ ดูแลและสานสัมพันธ์ให้แนบแน่นและยืนยาว เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้มาสด้ากลายเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่ลูกค้ารักและจะรักตลอดไป
Bangkok, Thailand, July 19, 2017 – Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd. has announced business results for the first half of 2017. With 4 new models launched since the start of the year, Mazda sold a total of 24,000 vehicles during the first 6 months, registering a 13% growth. With extremely high customer confidence in the new SKYACTIV-Vehicle Dynamics technology, Mazda is moving ahead in upgrading its showroom and service center countrywide with the new Mazda Corporate Identity (MCI) and MAZDA ACTIV SERVICE (MAS) in order to prepare for expected growth. The company will launch two more new models during the end of the year, and raised its sales projection to 51,000 units, equivalent to 20% growth compared to 2016.
Mr. Chanchai Trakarnudomsuk, President of Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd., said the automobile market rebounded during the first half of 2017, with many auto makers introducing new models and offering special sales promotions to stimulate demand. “It is easier to own a vehicle thanks to low down payment and interest rates, as well as free insurance and maintenance. Customers have more choices, and the competition in the market is extreme. The market has been high active since the end of last year to the second quarter of 2017, and we can see and trend of gradual growth. The automobile market has been growing since January and it is expected that the total market would reach 820,000 units this year. Mazda has raised its annual sales target from the original 50,000 units to 51,000 Units, with growth increasing from 18% to20%,” he said.
According to Mr. Chanchai, Mazda enjoyed increased market popularity after launching 4 new models during the first half of the year, and achieved sales of 23,893 units, equivalent to a growth of 13% compared to the corresponding period last year. The Mazda2 was the top-selling model with 14,284 units, followed by the BT-50 PRO pickup with 3,099 units, Mazda3 with 2,677 units, Mazda CX-3 with 2,219 units, Mazda CX-5 with 1,604 units, and 10 units of the Mazda MX-5 roadster. “Mazda has firmly secured the No.3 position in the passenger car market, and we believe that the Thai economy has passed its most difficult point. All engines are running now and we are moving ahead. We expect that the total automobile market will reach 820,000 units this year.
Mr. Chanchai added that Thailand’s economic recovery stems from several factors. “They include the growth in rice exports and other agricultural products. The tourism and services sector is also growing continuously. And while agricultural products are fetching higher prices, other contributing factors include government economic stimulus measures for those with low income, such as promoting innovative processing to increase product value, support for SMEs, government investment in mega infrastructure projects, increased foreign investment and domestic demand for consumer products. Automobiles have become a necessity and during the first 6 months of this year, total auto sales grew as expected, with 410,000 units posing 11% increase.”
Mazda sales went according to plan, with 23,893 units and 13% growth during the first 6 months of 2017, while market share was 6%.
Apart from growing sales, Mazda is also determined in adjusting its image and expanding its sales and service network all across the country under the new Mazda Corporate Identity (MCI) concept, in order to prepare for expected growth. It will also create a good experience for customers when they experience the new Mazda. A total of 147 Mazda outlets will go through MCI improvement within 2019 while the network will be increased to 20 showrooms.
“Prepare for the new standard in pre- and after-sales servicing, as Mazda aims to crate maximum customer satisfaction in both sales and after sales, with effective follow ups on customer satisfaction results,” he said. “We also keep our technicians up to date with new technology, and Mazda organizes regular skills contests for technicians and servicing, in order to raise the quality of our after sales service.”
Mr. Chanchai added that Mazda is confident in the Thai economy, which has a better trend and direction than last year. “We hope that the automobile market will perform better than last year, and this year we will see total sales of more than 820,000 units, equal to a growth of 7-10%. For 2017, Mazda plans to grow by 20% to 51,000 units (compared to 42,537 units in 2016) and capture a 6% market share (up from 5.5% in 2016),” he said, adding that Mazda has raised the year-end sales targets from those announced earlier this year, for both the total market and for the company.
Mr. Thee Permpongpanth, Senior Marketing Director commented on the second-half scenario that there are many positive factors. “With growth in exports from the end of 2016 to 2017 and the recovery of investment from government and private sectors accordingly, as well as increase in agricultural prices, consumers are enjoying more spending power and the economy is expected to grow by 3.5%, the highest in 5 years. The automobile market is one of the markets that can measure the economy, and we have several strategies to ensure our success towards the end of 2017,” he said.
Major strategies that will help Mazda achieve its targets during the second half of 2017.
Mazda is ready to move forward with a different business strategy in order to strengthen the brand and offer the best products that answer to every customer’s requirement. We aim to establish a long-term relationship with our customers and be a brand that forever remains in their hearts.
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…