ใกล้ถึงงานโตเกียวมอเตอร์โชว์แล้ว ตอนนี้บริษัทรถยนต์ก็ทยอยเปิดตัวรถยนต์ที่จะนำไปโชว์ในงาน มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นก็เช่นกัน เตรียมเผยโฉมเครื่องยนต์และระบบเกียร์อัตโนมัติเจเนอเรชั่นใหม่ครั้งแรกของโลก ในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 41 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่าง 24 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2552 โดยจะนำเครื่องยนต์เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่น “มาสด้า สกาย-จี (Mazda SKY-G) ” และเครื่องยนต์ดีเซลพลังสะอาด “มาสด้า สกาย-ดี (Mazda SKY-D)” และระบบเกียร์อัตโนมัติประสิทธิภาพสูง “มาสด้า สกายไดรฟ์ (Mazda SKY Drive)” ออกจัดแสดง พร้อมเปิดตัวยานยนต์ต้นแบบ “กิโยระ (Kiyora)” อันสะท้อนให้เห็นถึงเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยอันล้ำสมัยของมาสด้า (Mazda’s next-generation environmental and safety technologies) ในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์แสดงสินค้า มากูฮาริ เมสเซ่ เมืองชิบะ
แนวคิดของมาสด้าในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2009 คือ “มาสด้า สกาย (Mazda SKY) – ความสนุกสนานในการขับขี่ ความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับทุกคนภายใต้หัวข้อ “วันนี้” “พรุ่งนี้” และ “อนาคต” โดยมาสด้าจะจัดแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้ยานยนต์มาสด้าที่จำหน่ายทั่วโลก มีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยที่ดีขึ้นถึง 30% ภายในปี 2558 เมื่อเทียบกับปี 2551 ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักอันหนึ่งของวิสัยทัศน์อันยาวไกลในการพัฒนาเทคโนโลยีภายใต้แนวคิด “ซูม-ซูม อย่างยั่งยืน” หรือ Sustainable Zoom-Zoom
มาสด้ามีความมุ่งมั่นในการปรับปรุงองค์ประกอบหลักของยานยนต์มาสด้าซึ่งส่งผลต่อสมรรถนะการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ การลดน้ำหนักส่วนเกินของรถยนต์ เพื่อความสนุกสนานเร้าใจในการขับขี่ที่เหนือชั้นกว่าเดิม ควบคู่กับความปลอดภัยและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แนวคิด “มาสด้า สกาย” ชี้ให้เห็นแนวทางของมาสด้าในการพัฒนาระบบส่งกำลังอันล้ำสมัย ซึ่งส่งผลให้ยานยนต์มาสด้ามีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือกว่าเดิมอย่างชัดเจน แนวคิดสกาย นับเป็นความปรารถนาของมาสด้าในการมอบความสนุกสนานในการขับขี่ให้กับเจ้าของยานยนต์มาสด้าทุกคันเสมือนกับอยู่ภายใต้ “ท้องฟ้าที่สดใสตลอดกาล” แนวคิดดังกล่าวยังสะท้อนถึงแรงบันดาลใจแบบ “ไร้ขีดจำกัด” ของทีมวิศวกรมาสด้าในการใช้ความคิดที่แปลกใหม่นอกกรอบเพื่อสรรสร้างสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีที่สุดให้กับรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตของมาสด้าทุกคัน
ภายใต้แนวคิดสกาย “เทคโนโลยีเพื่อวันพรุ่งนี้” ของมาสด้าซึ่งจัดแสดงในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ประกอบด้วยเครื่องยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้า คือเครื่องเบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่น “มาสด้า สกาย-จี” และเครื่องดีเซลพลังสะอาด “มาสด้า สกาย-ดี” ซึ่งให้ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและแรงบิดที่เหนือกว่าเดิม ด้วยประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น มาสด้ายังเตรียมเผยโฉมระบบเกียร์อัตโนมัติเจอเนอเรชั่นใหม่ มาสด้า สกายไดรฟ์ ซึ่งให้อัตราความประหยัดพลังงานที่เหนือชั้นพร้อมสมรรถนะในการขับขี่ที่ควบคุมได้ดั่งใจ
มาสด้ากิโยระ ต้นแบบยานยนต์ขนาดกลางแห่งอนาคตซึ่งเต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งความสนุกสนาน เร้าใจในการขับขี่แบบมาสด้า จะเผยโฉมเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นในงานนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยเทคโนโลยีระบบส่งกำลังภายใต้แนวคิดสกายอันล้ำยุคของมาสด้า และเทคนิคอันล้ำสมัยในการลดน้ำหนักส่วนเกิน ทำให้รถมีน้ำหนักน้อยลง กิโยระจึงให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมในระดับ 32 กิโลเมตรต่อลิตร (ภายใต้การทดสอบตามโหมด 10-15 ของญี่ปุ่น)
ไฮไลต์ของมาสด้า
ยานยนต์/เครื่องยนต์ต้นแบบ มาสด้ากิโยระ (ครั้งแรกในญี่ปุ่น)
เครื่องยนต์มาสด้าพรีมาซี ไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริด
เทคโนโลยีเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่นแห่งอนาคต “มาสด้า สกาย-จี” * (ครั้งแรกของโลก)
เครื่องยนต์ดีเซลพลังสะอาดแห่งอนาคต “มาสด้า สกาย-ดี” * (ครั้งแรกของโลก)
ระบบเกียร์อัตโนมัติแห่งอนาคต “มาสด้า สกายไดรฟ์” * (ครั้งแรกของโลก)
เครื่องยนต์ MZR ขนาด 1.3 ลิตร พร้อมระบบ CVT แบบผ่าให้มองเห็นข้างใน
เครื่องยนต์ MZR DISI ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบ i-stop แบบผ่ามองให้เห็นข้างใน
รถยนต์ที่จำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบัน All-new Mazda Axela (i-stop), Mazda Biante (i-stop), Mazda Axela, Mazda Demio, Mazda Premacy, Mazda MPV, Mazda CX-7, Mazda Roadster, Mazda RX-8 และอื่น ๆ
ยานยนต์มาสด้าทั้งหมด 19 รุ่นจะจัดแสดงในวันที่เปิดสำหรับบุคคลทั่วไป (12 รุ่น จัดแสดงในวันสำหรับสื่อมวลชน)
* ชื่ออย่างไม่เป็นทางการของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ซึ่งเตรียมเผยโฉมในปี 2554 เป็นต้นไป
มาสด้ากิโยระ
มาสด้า กิโยระ คือต้นแบบรถยนต์นั่งขนาดกลาง ซึ่งให้ทั้งความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอารมณ์สนุกสนาน เร้าใจในการขับขี่ที่เหนือชั้น ด้วยการผสมผสานเครื่องยนต์ไดเร็คอินเจ็คชั่น มาสด้า สกาย-จี ขนาด 1.3 ลิตร และระบบเกียร์อัตโนมัติ 6-สปีด สกายไดรฟ์ ที่น้ำหนักเบา กิโยระ ยังให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมได้ถึง 32 กิโลเมตรต่อลิตร (ภายใต้การทดสอบตามโหมด 10-15 ของญี่ปุ่น) ด้วย ระบบ “ไอ-สต็อป” ซึ่งเป็นระบบเดินเบาของเครื่องยนต์ที่เหนือชั้น ระบบเบรคแบบจ่ายพลังงานคืน และคุณสมบัติด้านแอโรไดนามิคที่ล้ำสมัยรอบคัน พร้อมกับน้ำหนักที่เบากว่ารถยนต์มาสด้าในระดับเดียวกันที่ผลิตจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันถึง 100 กิโลกรัม
มาสด้าพรีมาซี ไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริด
ในเดือนมีนาคม 2552 มาสด้าเริ่มการผลิตมาสด้าพรีมาซี ไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริด ในเชิงพาณิชย์สำหรับหน่วยงานราชการและองค์กรด้านพลังงานของญี่ปุ่น รถยนต์รุ่นนี้ใช้ระบบไฮบริด อันประกอบด้วยเครื่องยนต์ไฮโดรเจนโรตารี่เชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าซึ่งจ่ายพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า ด้วยระบบส่งกำลังอันล้ำสมัย มาสด้าพรีมาซีไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริดสามารถวิ่งด้วยพลังงานไฮโดรเจนได้ในระยะถึง 200 กม. นอกจากนั้น รถรุ่นนี้ยังใช้วัสดุไบโอเทค * ซึ่งได้มาจากโรงงานของมาสด้า สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการใช้ทรัพยากรที่ไม่ได้มาจากอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
*วัสดุไบโอเทคคือวัสดุที่ได้มาจากพืช ซึ่งมาสด้าเป็นผู้พัฒนาขึ้น รวมทั้ง พลาสติกชีวภาพ และเส้นใยธรรมชาติ
เครื่องยนต์เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่นแห่งอนาคต “มาสด้า สกาย-จี”
“มาสด้า สกาย-จี” คือเครื่องยนต์เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่นแห่งอนาคต ซึ่งให้อัตราการประหยัดพลังงานที่ดีเยี่ยม พร้อมสมรรถนะที่เหนือชั้น เนื่องจากประสิทธิภาพในการทนความร้อนสูง บล็อคเครื่องยนต์ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อลดแรงเสียดทาน และให้อัตราการผสมผสานระหว่างอากาศและน้ำมันในระดับที่เหมาะสม มีการใช้ระบบไดเร็คอินเจ็คชั่นเพื่อรองรับการฉีดเชื้อเพลิงในระดับต่างๆ เพื่อให้เกิดอัตราการกระจายเชื้อเพลิงที่สูงสุด ให้อัตราประหยัดเชื้อเพลิงและแรงบิดที่ดีกว่าเครื่องยนต์มาสด้าขนาด 2.0 ลิตรรุ่นปัจจุบันประมาณ 15% เนื่องจากการใช้หัวฉีดที่ล้ำสมัย และระบบวาล์วแปรผัน VVT ประสิทธิภาพสูง เครื่องยนต์จึงให้อัตราการประหยัดพลังงานเทียบเท่ากับ Mazda Demio (หรือ มาสด้า2 ในตลาดนอกประเทศญี่ปุ่น) ด้วยขนาดรถยนต์ของ Mazda Axela หรือมาสด้า3
เครื่องยนต์ดีเซลพลังสะอาดแห่งอนาคต “มาสด้า สกาย-ดี”
เครื่องยนต์ดีเซลพลังสะอาดแห่งอนาคต “มาสด้า สกาย-ดี” ให้อัตราการประหยัดพลังงานและสมรรถนะสูง พร้อมระดับไอเสียต่ำ บล็อคเครื่องยนต์ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อลดแรงเสียดทานลงให้อยู่ในระดับเดียวกับเครื่องยนต์เบนซิน ด้วยการปรับระดับแรงดันและอุณหภูมิในลูกสูบ รูปทรงของห้องเผาไหม้ และระดับการฉีดเชื้อเพลิงให้เหมาะสม การเผาไหม้จึงเริ่มขึ้นในช่วงจังหวะที่ดีที่สุดเพื่อให้ประสิทธิภาพในการทนความร้อนที่ดี มีการใช้ระบบหัวฉีดเพียโซ เทอร์โบชาร์เจอร์สองช่วง และเทคโนโลยีอื่นๆ จึงให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงดีกว่าเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นปัจจุบันขนาด 2.2 ลิตร ประมาณ 20% โดยมีอัตราการประหยัดพลังงานเทียบเท่ากับ Mazda Demio (หรือ มาสด้า2 ในตลาดนอกประเทศญี่ปุ่น) ด้วยขนาดรถยนต์ของ Mazda Atenza หรือมาสด้า6
ระบบเกียร์อัตโนมัติแห่งอนาคต มาสด้า สกายไดรฟ์
ระบบเกียร์อัตโนมัติแห่งอนาคต มาสด้า สกายไดรฟ์ ให้ประสิทธิภาพการทำงานสูง พร้อมอัตราการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่าเดิมอย่างชัดเจน พร้อมความรู้สึกที่ควบคุมได้อย่างใจ ให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีกว่าเดิม 5% เนื่องจากการปรับรูปโฉมการออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อลดแรงเสียดทาน ปรับเปลี่ยนทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ระยะคลัตช์ที่สั้น และกลไก lock-up ที่มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมที่สุด คลัตช์จึงทำงานได้อย่างรวดเร็วโดยการกำหนดปริมาณของของเหลวที่น้อยที่สุด นอกจากนั้น ยังให้ความรู้สึกถึงการควบคุมได้ดังใจเหมือนกับระบบเกียร์แบบคลัตช์คู่
Mazda Motor Corporation will showcase the world premiere of its next-generation engine lineup and automatic transmissions at the 41st Tokyo Motor Show, to be held from Saturday, October 24 through Wednesday, November 4, 2009. Mazda will exhibit the ‘Mazda SKY-G’ direct injection gasoline engine, the ‘Mazda SKY-D’ clean diesel engine and the ‘Mazda SKY Drive’ high-efficiency automatic transmission. The Tokyo Motor Show, to be held at Makuhari Messe in Chiba Prefecture, will also mark the Japan debut of the Kiyora concept car as an exhibit of Mazda’s next-generation environmental and safety technologies.
Mazda’s theme for the 2009 Tokyo Motor Show is “The Mazda SKY concept—Providing driving pleasure and environmental and safety features for all customers!” Under the headings of “Today,” “Tomorrow” and “The Future,” Mazda will display advanced technologies designed to improve the average fuel economy of Mazda vehicles sold globally 30 percent by 2015 compared to 2008 levels. This is one of the goals of Mazda’s long-term vision for technology development, Sustainable Zoom-Zoom.
Mazda is committed to significantly improving the core aspects of its vehicles that affect performance – engines, transmissions, and lighter vehicle weight – in order to achieve elevated driving pleasure together with outstanding environmental and safety features. The Mazda SKY concept defines Mazda’s approach to developing next-generation powertrains that will significantly improve the eco-friendliness and dynamic performance of all Mazda vehicles. The SKY concept embodies Mazda’s desire to ensure an “everlasting blue sky” under which drivers will always be able to enjoy the fun-to-drive pleasure afforded by owning a Mazda. The concept also reflects the “sky’s the limit” aspirations of Mazda’s engineers as they employ unconventional thinking to achieve optimal performance in every vehicle that bears the Mazda nameplate.
Based on the SKY concept, Mazda’s “Technologies for Tomorrow” display at this year’s Tokyo Motor Show will include the next-generation direct injection gasoline Mazda SKY-G engine and the Mazda SKY-D clean diesel engine. Both offer improved eco-friendliness and torque thanks to optimized combustion efficiency. Mazda will also reveal the first next-generation automatic transmission, the Mazda SKY-Drive, which offers first-rate fuel economy and a direct driving performance feel.
The Mazda Kiyora, a next-generation compact concept car imbued with Mazda’s fun-to-drive character, will make its Japanese debut at the Tokyo show. Featuring the next-generation Mazda SKY concept powertrain technologies and comprehensive advancements in weight reduction, the Kiyora achieves outstanding fuel economy of 32 kilometers per liter (under Japan’s 10-15 mode test cycle).
List of major exhibits
Reference exhibits Mazda Kiyora (Japan premiere)
Mazda Premacy Hydrogen RE Hybrid
Technical exhibits Next-generation Mazda SKY-G* direct injection gasoline engine (World premiere)
Next-generation Mazda SKY-D* clean diesel engine (World premiere)
Next-generation Mazda SKY-Drive* automatic transmission (World premiere)
Cutaway model of MZR 1.3L engine with CVT
Cutaway model of MZR 2.0L DISI engine with i-stop
Models currently on the market All-new Mazda Axela (i-stop), Mazda Biante (i-stop), Mazda Axela, Mazda Demio, Mazda Premacy, Mazda MPV, Mazda CX-7, Mazda Roadster, Mazda RX-8 and others
A total of 19 vehicles will be displayed for the public days (12 vehicles will be displayed during the press day on October 21, 2009).
– These are concept names for engines and transmissions that are scheduled to be introduced from 2011 onward.
Summary of major exhibits
Mazda Kiyora
The Mazda Kiyora is a compact concept car that is both extremely eco-friendly and fun-to-drive due to the combination of Mazda’s next-generation direct injection Mazda SKY-G 1.3 engine and new compact and lightweight six-speed Mazda SKY-Drive automatic transmission. The Kiyora achieves excellent fuel economy figures of 32 kilometers per liter (under Japan’s 10-15 mode test cycle) aided by Mazda’s unique i-stop idling stop system, regenerative braking, and advanced aerodynamics around a compact body that is 100 kilograms lighter than Mazda’s current mass production model in the same segment.
Mazda Premacy Hydrogen RE Hybrid
In March 2009, Mazda began leasing the Mazda Premacy Hydrogen RE Hybrid to Japanese government authorities and energy-related organizations. It features a unique series hybrid system, consisting of a hydrogen rotary engine connected to a generator that powers an electric motor. This advanced powertrain enables the Premacy Hydrogen RE Hybrid to achieve a hydrogen-fueled driving range of 200 kilometers. The vehicle also employs Mazda’s plant-derived Biotechmaterials*, reflecting initiatives to realize use of non-petroleum-based resources and reduce CO2 emissions.
– Biotechmaterials is the collective name for plant-based materials that Mazda is developing, including bioplastic and biofabric.
Next-generation direct injection Mazda SKY-G gasoline engine
Mazda SKY-G is a next-generation direct injection gasoline engine with significantly improved fuel economy and output performance due to enhanced thermal efficiency. The engine block is newly designed to reduce mechanical friction and achieve an optimal air-fuel mix, and a direct fuel injection system is employed due to the wide variety of spray profiles that are possible, enabling the maximum expansion ratio to be achieved. Specifically, fuel economy and torque are improved by approximately 15 percent compared to Mazda’s current 2.0-liter engine. This was achieved by adopting next-generation fuel injectors and a highly functional variable valve timing mechanism. The engine enables fuel economy equivalent to the current Mazda Demio (known as the Mazda2 overseas) to be achieved in a vehicle the size of a Mazda Axela (Mazda3).
Next-generation clean diesel Mazda SKY-D engine
Mazda’s new SKY-D clean diesel engine boasts high fuel economy and output performance as well as low exhaust emissions. The newly designed engine block reduces mechanical friction to the level of a gasoline engine. By optimizing the pressure and temperature in the cylinders, the shape of combustion chambers, and the fuel injection rate, combustion begins at the best timing in terms of thermal efficiency. Specifically, by employing piezo injectors, a two-stage turbocharger and other technologies, fuel economy becomes approximately 20 percent better than the current 2.2-liter diesel engine. Mazda has achieved fuel economy equivalent to the current Mazda Demio (known overseas as the Mazda2) in a vehicle the size of a Mazda Atenza (Mazda6).
Next-generation Mazda SKY-Drive automatic transmission
Mazda’s next-generation SKY-Drive automatic transmission is highly efficient, contributing to substantially improved fuel economy and a more direct feel compared with the current unit. It improves fuel economy by approximately five percent, due to a complete redesign that significantly reduces mechanical friction, a revised torque converter and clutch with minimized slip, and an optimized lock-up mechanism. A rapid clutch action was achieved by identifying the minimum amount of fluid necessary. This also helped to realize a direct feel similar to a dual clutch transmission.
By;Thunyaluk Seniwongs
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…