มาสด้าสร้างกระแสตลาดเติบโตสวนวิกฤตเศรษฐกิจ
ส่งรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตสู้ศึกพร้อมกัน 3 รุ่นรวด
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 10 มีนาคม 2552 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความพร้อมลุยตลาดรถยนต์เมืองไทยสู้วิกฤตเศรษฐกิจ ส่งจ้าวตำนานรถสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดประทุนด้วยระบบไฟฟ้าเร็วที่สุดในโลก New Mazda MX-5 RHT รุ่นใหม่ เอาใจคนรักรถสปอร์ต พร้อมจับเอามาสด้า3 ใหม่ แฮ็ทช์แบ็ค 5 ประตู มาตกแต่งสไตล์ MPS ภายใต้ชื่อ “MOVE Series” เสริมรูปลักษณ์แบบสปอร์ตแบบคุ้มค่าให้รุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เพิ่มความโดดเด่นทั้งหน้าและท้าย และเสริมความสปอร์ตสไตล์ MPS รอบคันให้รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร พร้อมติดตั้งเครื่องเล่น DVD ทัชสกรีนพร้อมระบบนำทาง GPS หรือเนวิเกเตอร์จากโรงงาน มาสด้า3 MOVE Series รุ่นพิเศษนี้ผลิตจำกัดจำนวน โดยยังคงเอกลักษณ์สายพันธุ์สปอร์ตแบบ “ซูม ซูม” ด้วยราคาเริ่มเพียง 897,000 บาทเท่านั้น เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าผู้หลงใหลความความสปอร์ตที่เปี่ยมเอกลักษณ์
จอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับการเปิดตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์ Mazda MX-5 RHT ใหม่ และมาสด้า3 ใหม่ รุ่นพิเศษ MOVE Series ในครั้งนี้ นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากตลาดรถยนต์นั่งของมาสด้ามีทิศทางการเติบโตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายรถมาสด้า3 เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถก้าวขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตลาด C เซ็กเมนต์ ผมคาดหมายว่า นับจากนี้ไป ยอดขายมาสด้า3 จะอยู่ที่ประมาณเดือนละ 400 คัน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เติบโตขึ้นจากในปี 2551 สำหรับในปี 2552 นี้คาดว่า ยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าจะอยู่ที่ 12,000 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งจำนวน 5,600 คัน สปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 จำนวน 6,400 คัน
สำหรับในปีนี้ นอกจากการเปิดตัวแนะนำ Mazda MX-5 ใหม่ และมาสด้า3 รุ่นพิเศษ MOVE Series แล้ว มาสด้ายังเตรียมตัวแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่อีกหลายรุ่น เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้า โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง มาสด้าเตรียมเปิดตัวรถสปอร์ตอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ Mazda CX-9 และรถยนต์นั่งขนาดเล็ก มาสด้า2 นอกจากนี้ มาสด้าพร้อมขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยปัจจุบันมาสด้ามีผู้จำหน่ายทั้งสิ้น 94 แห่ง และภายในปี 2553 ตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 110 แห่งทั่วประเทศ
จอห์น กล่าวเพิ่มเติมว่า “รถสปอร์ตโรดสเตอร์ Mazda MX-5 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1989 และได้รับความนิยมมาตลอด 20 ปี ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความเป็นสุดยอดในงานดีไซน์ทางยนตรกรรมได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าจะผ่านเข้าสู่รุ่นที่ 3 แล้ว มาสด้ายังคงยึดมั่นในอุดมการณ์เดิมที่ไม่ต้องการผลิตรถออกมาให้ได้รับความนิยมอยู่เพียงชั่วคราว แต่ต้องการความเป็นอมตะ ซึ่งทีมงานวิศวกรของมาสด้าต้องทุ่มเทอย่างหนักเพื่อจะรักษาความเป็นหนึ่งของ MX-5 หากสังเกตจะพบว่า มีรถยนต์เพียงไม่กี่รุ่นที่ดึงดูดใจได้ทุกครั้งที่พบเห็น แต่สำหรับ MX-5 คุณจะรู้สึกเช่นนี้ได้ และยังตกหลุมรักได้ในทันที เพราะสปอร์ตโรดสเตอร์คันนี้ไม่เคยสร้างความรู้สึกเป็นอื่นใดให้กับผู้พบเห็น”
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Mazda MX-5 ใหม่นี้ ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ ซูม-ซูม ซึ่งถือเป็นบุคลิกภาพเฉพาะตัวของมาสด้าที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ด้วยความเป็นรถยนต์ที่ขับสนุก และเป็นต้นแบบของการพัฒนารถยนต์มาสด้าหลายๆ รุ่น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของมาสด้าทั่วโลกที่สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางใหม่ และวิวัฒนาการที่ต่อเนื่อง นั่นคือ ซูม-ซูม แบบยั่งยืน หรือ Sustainable Zoom-Zoom เพื่อเตรียมพร้อมรับนวัตกรรมใหม่ๆ ของมาสด้า ซึ่งภาพลักษณ์นี้แสดงออกถึงความสดใหม่ โดยจะสอดประสานเข้าไปในทุกๆ รายละเอียดของการสื่อสารสำหรับแบรนด์มาสด้าในอนาคต
รถสปอร์ตโรดสเตอร์ New Mazda MX-5 RHT คือรถยนต์เปิดประทุนขนาดกะทัดรัดที่มีน้ำหนักเบา แต่ให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยม มาสด้า MX-5 เจนเนอเรชั่นที่ 3 นี้ ได้รับการปรับรูปโฉมให้สปอร์ตดูดุดันยิ่งขึ้น ภายในพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางสะดวกสบาย เครื่องยนต์อันทรงพลังยิ่งขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมหลังคาไฟฟ้า Retractable Hard Top ที่เปิด-ปิดเร็วที่สุดในโลกแค่ 12 วินาที เพียงปลายนิ้วสัมผัส ภายใต้เครื่องยนต์ 2000 ซีซี. 4 สูบ ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 160 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยระบบควบคุมจังหวะเปิด-ปิดของวาล์วแบบผันแปร (Variable intake-valve timing) และ VIS (Variable Intake System) มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 6 สปีด แบบ Activematic สามารถเปลี่ยนเป็นระบบเกียร์ธรรมดาได้ทันทีเพียงปรับก้านที่พวงมาลัย ระบบทรงตัวที่แม่นยำคือจุดเด่นเฉพาะตัวของ MX-5 และในรุ่นล่าสุดนี้ก็คงคุณสมบัติดังกล่าวได้อย่างยอดเยี่ยม
ด้วยฐานล้อที่กว้าง ระบบการกระจายน้ำหนักจากหน้ารถถึงท้ายรถที่ได้สมดุลแบบ 50:50 และช่วงล่างด้านหน้าอิสระดับเบิ้ลวิชโบนที่ล้ำสมัยและหลังมัลติลิงค์ ระบบเบรก ABS สี่ล้อ ที่มาพร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD สามารถหยุดรถได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ ระบบควบคุมการทรงตัว DSC (Dynamic Stability Control) และระบบควบคุมเกียร์ให้เหมาะสมในการเข้าโค้ง AAS (Active Adaptive Shift) ขนาดและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นช่วยเสริมความสนุกสนานในการขับขี่ในแบบฉบับของ MX-5 ให้คงอยู่อย่างครบครัน
เบาะนั่งทรงสปอร์ต โครงสร้างหลังเบาะสีเงิน พร้อมระบบป้องกันลมย้อนกลับ Aero Board มาตรวัดดีไซต์สปอร์ตตกแต่งด้วยกรอบสีเงิน มาตรวัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบเครื่องเสียงแบบ Premium Sound จาก BOSE พร้อมเครื่องเล่นซีดี MP3- 6 แผ่นและลำโพง 7 ตัว มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันกว่าเดิม กุญแจนิรภัย Immobilizer ปลอดภัยด้วยระบบถุงลมนิรภัยที่ด้านหน้าและด้านข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
สำหรับรถมาสด้า3 ใหม่ “MOVE Series” คือรุ่นสปอร์ตพิเศษที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยใช้คอนเซ็ปต์ของ Mazda MPS และเน้นตลาดที่กลุ่มแฮ็ทช์แบ็ค 5 ประตู ซึ่งประกอบด้วย รุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ความสปอร์ตแบบคุ้มค่า ซึ่ง “I” มาจาก “Intelligent” นั่นเอง รุ่น “i-MOVE” นี้ถูกตกแต่งด้วยอุปกรณ์เสริมสไตล์สปอร์ตรอบคัน เพิ่มเติมด้วยอุปกรณ์เสริมความคุ้มค่าอีกมากมาย และรุ่น “S-MOVE” เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ซึ่ง “S” มาจาก “Sport” นั่นเอง รุ่นนี้โดดเด่นด้วย DVD Touch Screen พร้อมระบบนำทาง GPS Navigator กันชนหน้าดุดันขึ้นด้วยสเกิร์ตสไตล์สปอร์ตแบบ MPS ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาสด้าอันมีชื่อเสียงยอมรับทั่วโลก
สำหรับรถยนต์นั่งมาสด้า3 ใหม่ รุ่นพิเศษ i-MOVE แฮ็ทซ์แบ็ค 5 ประตู เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร นำมาตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันมากด้วยความคุ้มค่า ด้วยสปอยเลอร์หน้าดีไซน์สปอร์ต พร้อมไฟตัดหมอกทรง Angola Shape สเกิร์ตข้างและสปอยเลอร์หลังสปอร์ต เซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุดและปลายท่อไอเสียสเตนเลสทรงรีเสริมมุมมองสปอร์ตจากด้านท้าย พร้อมโลโก้ i-Move บอกเอกลักษณ์ของความเป็นรุ่นพิเศษ มีให้เลือก 3 สีล้วนเป็นสีที่ตรงคอนเซ็ปต์สปอร์ต ได้แก่ สีขาวไดมอนด์ไวท์ สีดำแพนเธอร์แบล็กเมทัลลิก และสีเงินมูนดัสซิลเวอร์ รุ่นพิเศษนี้ผลิตด้วยจำนวนจำกัดเพียง 200 คันเท่านั้น
มาสด้า3 ใหม่ รุ่นพิเศษ S-MOVE แฮ็ทช์แบ็ค 5 ประตู เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เปี่ยมด้วยอารมณ์สปอร์ตสไตล์ MPS ด้วยสเกิร์ตหน้าสไตล์สปอร์ต เสริมมุมมองดุดันให้แก่มุมหน้ารถ เซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุด สติ๊กเกอร์รอบคันออกแบบพิเศษเฉพาะรุ่นตามสไตล์ MPS ที่เป็นรู้จักในวงการคนรักรถสปอร์ตทั่วโลก พร้อมโลโก้ S-MOVE เน้นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
อีกอุปกรณ์มาตรฐานที่โดดเด่นคือเครื่องเล่น DVD Touch Screen TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง GPS Navigator พร้อมฟังก์ชั่นรองรับ Bluetooth, USB, iPod, SD Card, DVC/CD/MP3/MP4 มีให้เลือก 2 สีคือ สีขาวไดมอนด์ไวท์ และสีดำแพนเธอร์แบล็กเมทัลลิก ผลิตด้วยจำนวนจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น
ราคาจำหน่ายรถมาสด้า3 ใหม่ รุ่นพิเศษ MOVE Series รุ่น i-MOVE เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร เป็นรุ่นที่เน้นความคุ้มค่าควบคู่กับความสปอร์ต สะท้อนความคุ้มค่าชัดเจนด้วยราคาเพียง 897,000 บาท และรุ่น S-Move เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร อุปกรณ์สปอร์ตสไตล์ MPS ด้วยราคาเพียง 1,110,000 บาท ส่วนของราคารถสปอร์ตโรดเตอร์ Mazda MX-5 RHT ใหม่ คือ 2,640,000 บาท
“สำหรับแนวทางการตลาดในปีนี้ยังคงแนวทางแบบซูม-ซูม จะเน้นการนำเสนอรูปแบบการตลาดที่เน้นความแปลกใหม่ผ่านการนำเสนอรถรุ่นที่หลากหลาย ทั้งงานโฆษณาและกิจกรรมที่จะจัดสู่ตลาดในระดับท้องถิ่น ซึ่งหลังจากเปิดตัวกับสื่อแล้ว จะมีแคมเปญโฆษณาควบคู่กับส่งเสริมการขายแบบลงพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเน้นผ่านผู้จำหน่ายเป็นหลัก และเน้นกลยุทธ์การสื่อสารเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลัก (Core Customer) ผู้มีหัวใจสปอร์ต ซึ่งตรงกับความโดดเด่นของแบรนด์มาสด้า เน้นสะท้อนไลฟ์สไตล์และสไตล์การใช้ชีวิตที่โดดเด่นเป็นของตัวเองของลูกค้ามาสด้าอย่างชัดเจน สร้างเสริมการรับรู้และเข้าถึงภาพลักษณ์ของสินค้าผ่านสื่อครบวงจร ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ สื่อออนไลน์ สื่อมือถือ ไดเร็กมาร์เก็ตติ้ง กิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายทั้งที่โชว์รูมและลงพื้นที่ระดับท้องถิ่น โดยในปี 2552 นี้ จะยังคงไม่ทิ้งการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาพลักษณ์ของแบรนด์”
ดังนั้น ลูกค้ามาสด้าทุกท่านไม่ควรพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของ Mazda MX-5 RHT ใหม่ และNew Mazda3 รุ่นพิเศษ MOVE series ยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้า ที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ที่เร้าใจ สมรรถนะเป็นเยี่ยม ให้ความมั่นใจในความปลอดภัย อบอุ่นใจตลอดการเดินทาง พร้อมรับข้อเสนอและเงื่อนไขสุดพิเศษจากมาสด้า ทั้งนี้รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นรับประกันคุณภาพนานถึง 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
**************************************************************************
สารฑูล สักการเวช
sarathun@caronline.net
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…