กระแสตอบรับของผู้บริโภคต่อรถยนต์มาสด้ายังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายเดือนพฤษภาคมพุ่งสูงสุดถึง 5,881 คัน เติบโต 48% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และยอดขายสะสม 5 เดือน พุ่งทะยานแตะ 26,886 คัน เพิ่มขึ้น 36% สอดรับกับทิศทางเศรษฐกิจและจีดีพีของประเทศที่เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในไตรมาสแรกที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยนั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี จีดีพีเพิ่มขึ้นถึง 4.8% สูงเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเกิดจากปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งด้านการลงทุน อุตสาหกรรม กำลังการผลิต การส่งออก รวมถึงด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ นักลงทุนจากทั่วโลกต่างให้ความสนใจในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตอบรับการยกระดับพื้นที่เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของเอเชีย
มาสด้าอยู่ในสมรภูมิวงการรถยนต์มาอย่างยาวนาน เจอความท้าทายและอุปสรรคมากมายในหลากหลายรูปแบบ แต่มาสด้ายังคงยืนหยัดในเรื่องของการสร้างสรรค์รถยนต์ที่มีคุณค่าในการขับขี่ และการเป็นเจ้าของด้วยความภาคภูมิใจ มาสด้าได้คิดออกนอกกรอบจากการผลิตรถยนต์แบบเดิมๆ จนได้มาซึ่งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย คือเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ทั้งขับสนุก ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้ทั่วโลก และผู้ใช้ในประเทศไทย ทั้งนี้ทางมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดในประเทศไทย จึงได้ลงทุนเพื่อสร้างโรงงานที่มีความทันสมัยในประเทศ ทั้งยังเพิ่มเม็ดเงินลงทุนเพื่อเปิดโรงงานแห่งใหม่เพิ่มขึ้น ทำให้เรามีฐานการผลิตรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบและทันสมัยที่สุด ทั้งโรงงานประกอบรถยนต์ (AAT) และโรงงานผลิตเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ และเกียร์อัตโนมัติ (MPMT) รวมถึงการถ่ายทอดโนฮาวของการผลิตและการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาบุคลากรและผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศอย่างครบวงจร ถือเป็นการพัฒนาบุคลากรไทย และเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย
จากกระแสความนิยมชมชอบรถยนต์มาสด้า ทำให้ยอดขายในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นถึง 48% โดยเฉพาะมาสด้า2 ยังคงรั้งเบอร์หนึ่งรถยนต์นั่งขนาดเล็กและเป็นรถที่ขายดีตลอดกาลของมาสด้า กวาดยอดขายไปอย่างท่วมท้น 3,898 คัน โตขึ้น 57% ตามาด้วยรถอเนกประสงค์เอสยูวี CX-5 จำนวน 763 คัน เพิ่มขึ้น 151% รถยนต์นั่งมาสด้า3 จำนวน 433 คัน ลดลงเล็กน้อย 7% รถยนต์ CX-3 จำนวน 206 คันลดลง 41% รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 577 คัน เพิ่มขึ้น 65% และมาสด้า MX-5 จำนวน 4 คัน ส่งผลให้ยอดขายรถมาสด้าทั้งหมดในเดือนพฤษภาคมปิดตัวเลขอยู่ที่ 5,881 คัน
ส่งผลให้ยอดขายรวม 5 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม – พฤษภาคม) มียอดขายสะสมสูงถึง 26,886 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 36% (เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560) โดยเฉพาะมาสด้า2 ยังครองแชมป์ยอดขายสูงสุดถึง 16,979 คัน เติบโต 45% ถัดมาเป็นรถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า CX-5 จำนวน 3,834 เติบโตสูงสุดถึง 179% ตามมาด้วยรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 2,642 เพิ่มขึ้น 2% รถยนต์นั่งมาสด้า3 จำนวน 2,099 คัน ลดลงเล็กน้อย 7% และมาสด้า CX-3 จำนวน 1,321 ลดลง 24% และรถสปอร์ตเปิดประทุนมาสด้า MX-5 จำนวน 11 คัน
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า มาสด้ามุ่งมั่นและใส่ใจในเรื่องของการผลิตเพื่อให้ได้รถยนต์ที่มีคุณภาพสูง อันเกิดมาจากการค้นคว้าและวิจัยทำให้เกิดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นตามลำดับ มาสด้าเริ่มต้นจากสิ่งที่เราคิดไม่เหมือนคนอื่น เรากล้าที่จะแตกต่าง (Defy Convention) เปลี่ยนความท้าทายให้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเป้าหมายที่ดีขั้น ใส่ใจในทุกรายละเอียด นอกจากนี้รถต้องสวย ดึงดูดทุกสายตาเนื่องจากรถมาสด้าที่ขายจริงในตลาด มีดีไซน์ที่ใกล้เคียงรถต้นแบบมากที่สุด ทำให้รถมาสด้าได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องของดีไซน์ มาสด้าคิดต่างด้วยแนวคิด Customer Centric ทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างละเอียด การผลิตที่ปรับจากการผลิตเพื่อเน้นในเรื่องปริมาณและการบริหารต้นทุนสู่การผลิตเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง การพัฒนาการทำงานที่เชื่อมโยงทั้งระบบ ทั้งการผลิต การจัดส่ง การจัดสรร การสั่งซื้อ การบริหารสต๊อคที่รวดเร็ว รวมถึงเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อให้ถึงมือลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบทั้งเรื่องของเวลาและคุณภาพ
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันเรื่องของดิจิตอลนั้นมีความสำคัญในชีวิตประจำวันของมนุษย์ เนื่องจากสามารถเข้าได้ถึงทุกความต้องการ ซึ่งดิจิตอลจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กลยุทธ์ทางด้านการตลาด และการสื่อสารนั้นแพร่ขยายไปได้ไกลและเชื่อมโยงคนทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเพื่อให้มีความสอดคล้องในการใช้งานในแต่ละประเทศ ดังนั้นเราจึงวางกลยุทธ์ Mazda Building Block Strategy โดยเน้นการวางทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตแบบเป็นขั้นตอน มี 3 องค์ประกอบที่สำคัญ คือ เรื่องกรอบเวลาของการนำเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างเหมาะสม, การพัฒนาโมเดลทางธุรกิจของผู้ผลิตและผู้บริโภค รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับและสอดคล้องกัน เพื่อความพร้อมกับการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา และการเปลี่ยนถ่ายจากเทคโนโลยีปัจจุบันสู่เทคโนโลยีอนาคตที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
Bangkok, Thailand, June 11, 2018 – Continued popularity of Mazda vehicles in Thailand has enabled the brand to score a 48-per cent growth in May with sales of 5,881 units while year-to-date sales reached 26,886 units, reflecting Thailand’s spectacular economic growth in 2018
Mr. Chanchai Trakarnudomsuk, President of Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd., said that during the first quarter of 2018, the Thai economy enjoyed a 4.8-per cent growth in GDP, which was higher than what analysts had previously expected. “This was due to a large number of positive factors, including growth in investments, production and exports, in addition to tourism,” he said. “For the automobile industry, investors from around the world have shown strong interest in the EEC (Eastern Economic Corridor) scheme, which would dramatically strengthen Thailand’s competitiveness in the global marketplace.”
He said Mazda has been involved in the automobile industry for a long period of time and has successfully gone through various challenges and obstacles. “Mazda continues to produce vehicles that are fun to drive and offer pride in ownership. Mazda thinks out of the box when developing vehicles, allowing us to achieve the SKYACTIV technology that offers extremely high driving pleasure, low fuel consumption and eco-friendliness,” he said.
“Mazda Motor Corporation sees the potential of the Thai automobile market and has invested in setting up a local production facilities, whether it is the AAT assembly plant or the MPMT automatic transmission factory, along with technology transfer in order to further develop personnel and parts makers in the country. Mazda helps develop Thai employees and also creates jobs and income for Thailand,” he said.
Mr. Chanchai said Mazda was able to achieve a growth of 48 per cent in May as the Mazda2 spearheaded the Mazda product lineup in Thailand with sales of 3,898 units, increasing by as much as 57 per cent compared to the same month last year. The CX-5 SUV is second with sales of 763 units, a surge of 151 per cent, the Mazda3 with 433 units, down slightly by 7 per cent, CX-3 with 206 units, down 41 per cent, BT-50 PRO pickup with 577 unit, up by 65 per cent, and the MX-5 roadster with 4 units. In total, Mazda sold 5,881 vehicles in May this year.
Meanwhile during the first 5 months of the year, Mazda accumulated total sales of 26,886 units, growing by 36 per cent compared to the corresponding period last year. Mazda2 sales reached 16,979 units, growing by 45 per cent, followed by the CX-5 with 3,834 units, achieving highest growth of 179 per cent, the BT-50 PRO with 2,642 units, up by 2 per cent, the Mazda3 with 2,099 units, falling slightly by 7 per cent, the CX-3 with 1,321 units, decreasing by 24 per cent, and the MX-5 with 11 units.
Mr. Chanchai added: “Mazda is determined in our production process in order to achieve high-quality vehicles that are developed from new technologies. We do things differently at Mazda and we dare to be ‘Defy Convention’ by turning challenges into inspiration, in order to achieve better results. In addition, our products must have appealing design and attract attention as Mazda is accepted as a brand that shines in terms of design that most resembles concept vehicles. Mazda differs with a ‘customer centric’ philosophy that tries to understand the requirements and behavior of customers in detail. We have adjusted our production to increase capacity and improve cost management in order to cater best to customer requirements. Our operation is connected systematically from production, logistics, procurement, purchasing, stock management and dealer network, ensuring that vehicles are delivered to customers perfectly, whether in terms of timing and quality.”
Meanwhile, Mr. Thee Permpongpanth, Vice President of Marketing and Government Affair, added: “Today digital technology plays a highly important role in our lives and it is also an important factor in spreading our marketing and public relations messages further than ever. With localization for each market around the world, the ‘Mazda Building Block Strategy’ divides future vehicle development into parts. They include: designating the right timing for new technology implementation; developing business models for the producer and consumer as well as a basic foundation that supports and goes in harmony so that we can introduce new technology; and the transition of present technology to the right future technology at the right time in order to offer the best products and services to our customers.”
“ไพรม์มัส พัทยา…
บริษัท โตโยต้า …