มาสด้าจัดกิจกรรม MAZDA SKYACTIV CARAVAN กับการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่สุดแห่งปี นำสื่อมวลชนร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับไม่ซ้ำแบบใคร กับกิจกรรมพิสูจน์สมรรถนะรถยนต์รุ่นใหม่ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ให้ความแรง ประหยัดน้ำมัน ขับสนุก เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่อัดแน่นมาเต็มเปี่ยม กับยนตรกรรมรถใหม่ทั้งหมด 7 รุ่น รวม 30 คัน บนเส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ รวมระยะทางไปกลับกว่า 400 กม. นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์รถยนต์มาสด้าในประเทศไทย
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภายหลังจากที่มาสด้าได้เปิดตัวแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟครบทุกรุ่น ทั้ง ครอสโอเวอร์เอสยูวีและรถยนต์นั่งลงสู่ตลาดประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อปลายปี 2564 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ผลิตภัณฑ์ของมาสด้ามีความครบครัน พร้อมไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในประเทศไทย วันนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ โดยมาสด้าได้จุดประกายไอเดียจัดกิจกรรมครั้งยิ่งใหญ่สุดแห่งปี กับ MAZDA SKYACTIV CARAVAN ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมจัดขึ้นเพื่อให้สื่อมวลชนได้พิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์มาสด้าภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง มอบความสนุกสนานเร้าใจในการขับขี่ อันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้าในการเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่ความสุขและสุนทรียภาพในการขับขี่ให้กับลูกค้า
เทคโนโลยีสกายแอคทีฟของมาสด้า เกิดจากความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบรถยนต์ที่ให้ประสบการณ์ในการขับขี่ที่ดีเยี่ยมในทุกเส้นทาง เราจึงได้คิดค้นและพัฒนารถยนต์เพื่อพัฒนาสมรรถนะของรถและเครื่องยนต์ให้มีกำลังแรง แต่ประหยัดน้ำมัน โดยได้นำนวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ผนวกกับเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ บอดี้ และแซสซี เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ทุกส่วนทำงานสอดประสานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และมอบความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับขี่กับรถให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้ตลอดการเดินทางเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขอย่างเท้จริง ซึ่งนับตั้งแต่รถยนต์มาสด้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ก็เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าชาวไทย จนถึงปัจจุบันก็มีรถยนต์รุ่นเหล่านี้อยู่ภายใต้การครอบครองของลูกค้าชาวไทยแล้วถึง 313,635 คัน ทำให้แบรนด์มาสด้ากลายเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ลูกค้าให้การยอมรับ
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ได้ถูกจัดขึ้นในรูปแบบของคาราวานรถยนต์ ที่มีจำนวนรถยนต์มากที่สุดถึง 7 รุ่น รวมทั้งหมด 30 คัน ประกอบด้วย Mazda MX-5, Mazda2, Mazda3, CX-3, CX-30, CX-5 และ CX-8 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ดินแดนมรดกโลก ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมระยะทางกว่า 400 กม. เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทดสอบการขับขี่ในหลากหลายสถานการณ์ ทั้งแบบในเมือง นอกเมือง การขับบนเส้นทางคดเคี้ยว และสัมผัสถึงสมรรถนะการขับขี่ที่มีความแตกต่างกัน รวมถึงได้ทดสอบระบบการทำงานต่างๆ ของรถยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับสุนทรียภาพความสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่สวยงามของวิวทิวทัศน์ตลอดสองข้างทางจนถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ได้แบ่งสื่อมวลชนออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์และสมรรถนะของรถได้อย่างเต็มที่
การจัดกิจกรรม MAZDA SKYACTIV CARAVAN ในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่สื่อมวลชนจะได้สัมผัสกับสมรรถนะของรถยนต์เท่านั้น แต่ผู้ที่พบเห็นก็ยังได้ยลโฉมรูปลักษณ์ที่งดงามที่ได้รับการออกแบบตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น อันมีเอกลักษณ์ของรถยนต์มาสด้าในทุกรุ่น โดยเฉพาะความสง่างามของสีภายนอกเทรนด์ใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ทางการขาย ด้วยการเป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ดังเช่นสีเอกลักษณ์สีอื่นๆ ของมาสด้า ที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้ ได้แก่ สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ และสีแดง โซล เรด คริสตัล ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาสด้าเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง กล้าที่จะแตกต่างและไม่ซ้ำใคร
“นี่คืออีกบทหนึ่ง ของกิจกรรมพิสูจน์สมรรถนะรถยนต์มาสด้าภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง และเป็นการสร้างการรับรู้จดจำของแบรนด์มาสด้า ทั้งนี้ มาสด้าจะยังคงเดินหน้าพัฒนายนตรกรรมต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการส่งมอบรถยนต์ที่เปี่ยมคุณภาพทั้งด้านสมรรถนะและดีไซน์เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืนต่อไป” นายธีร์ กล่าวเพิ่มเติม
เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ
จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ปฏิเสธไม่ได้ว่า แม่เหล็กสำคัญที่ดึงผู้บริโภคให้เข้าหามาสด้า คือ การนำเอาเทคโนโลยีสกายแอคทีฟมาใส่ไว้ในรถยนต์ทุกรุ่นในเจเนอเรชั่นที่ 6 ควบคู่ไปกับการนำแนวคิดการออกแบบที่เรียกว่า “โคโดะ ดีไซน์” (Kodo design) มาใช้ตั้งแต่ปี 2556 จนทำให้รถยนต์ของมาสด้าได้รับเสียงตอบรับอย่างดียิ่ง ทำให้มาสด้าสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์เมืองไทยและอาเซียนได้อย่างน่าสนใจ
ต่อมามาสด้าได้นำเสนอธีมการออกแบบใหม่ล่าสุด คือ การสร้างเอกลักษณ์แบบเรียบหรูสง่างาม (ELEGANCE)เพื่อแสดงถึงคุณค่าแห่งสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น หรือความงดงามที่ละเอียดอ่อน หรูหรา สมบูรณ์แบบ ลดทอนองค์ประกอบที่มากเกินไปคงเหลือไว้แต่สิ่งที่สำคัญ ตามคอนเซ็ปต์ Less is more ซึ่งเป็นรากฐานทางวัฒนธรรมประเพณีของญี่ปุ่น เพื่อแสดงออกถึงความสง่าผ่าเผย มีเสน่ห์ดึงดูดใจ จนกลายเป็นภาพลักษณ์ยุคใหม่ของมาสด้า
โปรดติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของมาสด้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย
เว็บไซต์ www.mazda.co.th และ MazdaThailandOfficial: Facebook/YouTube/Instagram/LINE
อีซูซุส่งเครื่อ…