หลังจาก ซีเจียง จีลี่ โฮลดิ้ง ซึ่งอยู่ในความดูแลแลของ ลี ชูฟุ Li Shufu ปล่อยข่าวการพูดคุยกับผู้ดูแลหุ้นของ แอสตัน มาร์ติน และมีมหาเศรษฐีแคนาดา ก็ให้ความสนใจที่จะซื้อหุ้นด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า การลงทุนในหุ้นของ แอสตัน มาร์ติน ครั้งนี้ น่าจะมีมูลค่าราว 200 ล้านปอนด์ ราว 8,000 ล้านบาท หลังจาก แอสตัน มาร์ติน ได้พูดคุยกับนักลงทุนหลายราย ที่จะเพิ่มทุน เพื่อหาเงินทุนไปขยายงานครั้งใหม่
ค่ายจีลี่ มีค่ายรถยนต์ วอลโว่ จากสวีเดน และ โลตัส จากอังกฤษ อยู่ในมือ รวมทั้งมีหุ้นอยู่ใน เดมเลอร์ เล็กน้อย สนใจจะซื้อหุ้นของ แอสตัน มาร์ติน เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี อันจะเป็นผลดีกับธุรกิจในเครือ อย่าง โลตัส ให้นำไปใช้งาน
แอสตัน มาร์ติน ต้องการเงินสดอย่างน้อย 400 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นเงินทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยผ่านทาง เจฟเฟอรี่ ไฟแนนเชี่ยล กรุ๊พ Jefferies Financial Group ซึ่งเป็นผู้ดูแลการซื้อขายหุ้นของบริษัท เปิดเผยเมื่อตอนต้นเดือน
แหล่งข่าวกล่าวว่า ปัจจุบัน ยังไม่มีการตกลงซื้อขายอย่างเป็นทางการ อันอาจทำให้ แอสตัน มาร์ติน สามารถตัดสินใจที่จะเลือกผู้ลงทุนรายใหม่ หากได้ข้อเสนอที่น่าสนใจ
จากสถานการณ์แบรกซิท คือการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ของอังกฤษ ยังไม่ลงตัว ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของอังกฤษ เกิดความไม่แน่นอน ยอดการขายที่ตกต่ำอย่างมาก ทำให้ค่ายรถยนต์แต่ละค่ายต้องปรับเป้าการขาย ลดลงกันใหม่หมด
แอสตัน มาร์ติน เพิ่งกำหนดการส่งมอบรถ เอสยูวี รุ่นแรกของ ดีบีเอ็กซ์ DBX ในปีนี้ และจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตัดสินอนาคตของบริษัท ด้วยราคาจำหน่ายคันละ 189,000 เหรียญ ราว 5,670,000 บาท พร้อมทั้งแผนงานที่จะเพิ่มยอดการผลิตให้ได้ 14,000 คัน ภายในปี 2566
การจัดหาทุนเพิ่มเติม จากการแนะนำรถเอสยูวี ในครั้งนี้ จะช่วยให้หนี้สินของบริษัทลดลง และมีเงินทุนไปพัฒนารถรุ่นใหม่ต่อไป
“มหกรรมยานยนต์ …
นายณัทธร ศรีนิเ…