Categories: สนทนา

พี่จิมมี่

ผมอ่ะชอบรถมากครับอยากถามพี่จิมมี่จังผมควรทำยังไงถึงจะได้นำชีวิตเข้ามาสู่วงจรของการทดสอบรถแบบพี่จิมมี่ได้บ้างอ่ะครับไม่รู้จาทำไงดีไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไรบ้างผมรักและชอบรถยนต์มาก ขอคำแนะนำทีนะครับ ล้วเราจะไปหาโอกาสแบบนี้จากที่ไหนบ้าง
คลั่งรถ 9/7/2008 6:28:19 PM
ผมขอขอบคุณพี่จิมมี่มากนะครับสำหรับความเห็นที่เป็นประโยชน์มากๆ ตอนแรกผมก้อนึกแบบเดียวกับพี่จิมมี่บอกแหละครับผมเกือบจะไปสมัครเป็นบก.ของนิตยสารเครือยานยนต์แล้วแต่มันติดปัญหาหลายอย่างมากผมอยากทำตามคำพูดที่ว่า หวังว่าวันนึงเราจะได้เจอกัน แต่ผมก้อไม่รู้จะได้เจอโอกาสแบบนั้นหรือเปล่า โอกาสที่จะได้เข้าไปทำแบบนั้นเพราะมีปัจจัยที่มันนอกเหนือจากความชอบนั่นก้อคือเรื่องเงินในแบบที่พี่จิมมี่เคยบ่นๆในคอมเม้นในบางเวลาที่คนติดตามเค้าไม่เข้าใจเราก้อจะท้อแท้ ผมเคยคิดนะว่าถ้าผมเป็นพี่จิมมี่ผมคงอกแตกแก้ปัญหาไม่ได้แน่ๆแต่ผมเอาใจช่วยพี่จิมมี่นะครับในการนำเสนอสิ่งดีๆแบบนี้ต่อไปผมเชื่อว่าต้องมีคนที่คิดแบบผมมากแน่ๆ ผมเคารพพี่จิมมี่ในฐานะคนรักและชอบรถยนต์แบบจิงจังและจิงใจและนำเสนอข้อมูลออกมาในด้านที่แท้จริงซึ่งเหมือนที่ผมรู้สึกกับนิตยสารยานยนต์เมื่อตอนผมเรียนระดับมัธยม แต่ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือป่าวนะว่าปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้วในรูปแบบของการนำเสนอที่คนทั่วไปสามารถนำไปใช้ได้จริงแล้วผมก้อได้ไปติดตามนิตยสารที่เค้าออกมานำเสนอในรูปแบบใหม่ที่มีบททดสอบรถในรูปแบบซีดีผมว่ามันคล้ายๆกับยานยนต์มากผมชอบนะและมันเป็นจุดเด่นของเค้าเลยแต่ในที่สุดสิ่งที่ผมคิดว่าดีและเป็นจุดเด่นของเค้าก้อหายไป แต่ซึ่งผมคิดว่ายานยนต์ในสมัยก่อนกะสิ่งที่พี่จิมมี่ทำในปัจจุบันมันช่างคล้ายกันเลยจริงๆผมเลยติดตามมาตลอดติดจนมีความรู้สึกว่าเกิดการรอคอยเหมือนเวลาที่เรากำลังรอหนังสือสักฉบับที่เราลุ้นว่าเดือนนี้จะมีอะไรบ้างแล้วมันจะตรงกับสิ่งที่เราคาดหวังหรือป่าวอะไรแบบนี้ สุดท้ายผมอยากให้กระทู้นี้คงอยู่ต่อไปผมเชื่อว่าคนที่ตั้งใจนำเสนอแต่สิ่งดีๆยังไงก้อต้องมีคนติดตามต่อไปแน่ๆอย่างน้อยก้อผมคนนึงล่ะครับ
คลั่งรถยนต์ 9/8/2008 9:22:32 PM


1. ยานยนต์ เปลี่ยนไปจริง แต่เปลี่ยนเพราะทีมงานเก่า ออกมาทำ Driven
และปัจจุบันนี้ ก็กระจายหายไปอย่างน่าเสียดาย
คนหนึ่งทำอยู่ BBC Top Gear อีกคน เอ พี่เค้าไปไหนหว่า?

2. อยากบอกว่า เวลาเขียนบทความอะไร ก็มีน้องๆระดับ ประถม มัธยม เป็น Inspiration ในหัวนั่นละ เพราะมันนึกถึงตอนเรายังเด็ก
แล้วไม่มีคนเขียนในสิ่งที่เราอยากอ่าน ไม่มีใครเขียนในสิ่งที่เราอยากรู้
ถึงจะมีเขียนออกมา แต่ก็รู้ไม่จริง แล้วเขียนออกมา พอได้โอกาสเขียนเอง
ก็เลยเขียนๆๆ นั่นคือบทความใน Thaidriver

3. ทดลองรถนั้น มันมีหลายอย่างที่ไม่อาจพุดตรงนี้ได้
มีทั้งเรื่องราวต่างๆ อยู่เรื่อยๆ

หวังว่าจะได้เจอกันจริงๆ
J!MMY 9/9/2008 1:54:11 PM


โหยเหนื่อยมากครับวันนี้เป็นวันทำงานวันแรก เหนื่อยจริงสมกับคำว่า เงินเดือนอันน้อยนิด บนความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่
คลั่งรถยนต์ 9/9/2008 8:10:35 PM


ขอบคุณครับผมเป็นอีกคนที่ชอบ รถยนต์ เป็นคำตอบที่ ทำให้มีกำลัง ในการทำงานของต้วเองแม้จะไม่ใช้รถยนต์ก็ตาม
โอ๋ 9/8/2008 10:16:15 AM


คิดอยู่นานมากว่าจะตอบยังไงดี

จะตอบแบบให้น้องเห็นภาพแต่ในเชิงบวก ก็คงจะทำให้น้องยิ่งฝันไปไกล

แต่ถ้าตอบตามจริงมากไป น้องอาจ หมดกำลังใจแทบสิ้นสติ

การเดินเข้ามาในวงจรที่เรียกกันว่า วงการรถยนต์นี้
แต่ละคน ไม่เหมือนกัน
บางคนเรียนจบ มุ่งหน้าเข้าสมัครงาน กอง บก. นิตยสารรถยนต์
อันนั้น ดูเหมือนเป็นทางตรง แต่ต้องมั่นใจว่าที่บ้านพอมีฐานะ
ที่ไม่น่าทำให้ลำบยากนักเพราะเงินเดือนน้อย แต่งานก็จะขึ้นอยู่กับว่า
สำนักพิมพ์นั้น จะออกหนังสือมากขนาดไหน

ทางของพี่ เป็นทางที่ไม่เหมือนใคร ไม่เหมือนคนทั่วไปเขา

พี่แค่ตอบปัญหาเล่นๆ เป็นแค่คนเล่นคนหนึ่งใน พันทิบ ดอทคอม
ห้องรัชดา
จับพลัดจับพลูมาอยู่ที่นี่ได้
คนแรกที่ดึงเอาพี่เข้า พันทิบ ก็คือ อาหมู
คนแรกที่ให้พี่ได้เริ่มเขียนบทความลงหนังสือ คือ พี่บอย วรพล
(Thaidriver)

แล้วจึงตามมาด้วย รายการวิทยุซึ่งก็เริ่มเอาเมื่อ 2004
อาหมู ก็เป็นคนชักลากจูงเข้ามา

เส้นทางนี้ เหนื่อย ไม่ง่าย
และบ่อยครั้ง รู้สึกว่า กำลังเดินอยู่คนเดียว

มีเกือบทุกรูปแบบให้ได้เจอ เป็นประสบการณ์

เมื่อถึงวันหนึ่ง จู่ๆอาจจะต้องถามตัวเองว่า
นี่คือสิ่งที่เราควรจะทำแน่หรือ

ถ้าถึงวันนั้น
ขอให้น้องย้อนนึกถึงสิ่งที่ได้ทำมาทั้งหมด
หากยังมั่นใจว่า เรามาถูกทางแล้ว ก็เดินต่อไป

เชื่อในสิ่งที่ตนเองคิด หากว่ามันเป็นสิ่งที่ดี และทำเพื่อตนเองกับผู้คนในสังคม

แม้ว่าบางที ผู้คนในสังคม จะจ้องและทำร้ายเราก็ตาม

ขอให้โชคดีครับ
และหวังว่าวันหนึ่งเราจะได้เจอกัน…
J!MMY 9/8/2008 6:05:32 AM


ปล.

สิ่งที่น่ากลัวที่สุด “ในความคิดอันตื้นเขินของผม” ก็คือ

เมื่อใดก็ตาม ที่เรายิ่งรู้ ยิ่งเห็นความจริงอะไรมากขึ้น

ความรัก ในรถยนต์ของเราอาจจะลดน้อยถอยลง

และสำหรับบางคนแล้ว
การเก็บรถยนต์ เอาไว้เป็นงานอดิเรกที่ทำให้จิตใจชื่นบานนั้น
ก็ดูจะเพียงพอแล้ว ที่จะให้มันหล่อเลี้ยงจิตใจต่อไป

เพราะไม่ใช่ทุกคน ที่จะทำงานในวงการนี้ได้

ถ้าไม่รักรถยนต์จริงๆ อย่าทำเด็ดขาด….
J!MMY 9/8/2008 6:08:23 AM


Facebook Comments
CarOnline Team

Share
Published by
CarOnline Team

Recent Posts