Categories: รถใหม่

ผู้หญิงขับรถ First Drive, Test Drive เมอร์เซเดสเบนซ์ C 350 e Plug-In Hybrid :โดย ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา

เมอร์เซเดสเบนซ์ประเทศไทยก็ได้นำรถ Plug-in Hybrid 2 รุ่นใหม่เข้ามาอย่างเป็นทางการแล้ว และให้สื่อมวลชนได้สัมผัสรถทั้ง 2 รุ่น คือ C350e Plug-In Hybrid และ S 500e Plug-in Hybrid


โดยในครั้งนี้เลือเส้นทาง เส้นทาง เชียงใหม่-เชียงราย ถนนสวย โค้งเยอะ


คันแรกที่ขับก็คือ C350 E Plug-in Hybrid AMG Dynamic เครื่องยนต์ขนาด 1,991 ซีซี แรงม้า 211 แรงม้าที่ 5,500รอบ/นาที ซึ่งเป็นตัวซีดานและเป็นตัวที่ได้ไปขับทดสอบในครั้งนี้ เมื่อรวมกับแรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้า 82 แรงม้า ทำให้มีแรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 293 แรงม้า มีแรงบิดอยู่ที่ 350 นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบ 1,200- 4,000 ต่อนาที่ แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 340 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 5.9 วินาที เกียร์อัตโนมัติแบบ 7-G Tronic PLUS พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
อีกรุ่นที่ไม่ได้ขับคือรุ่นเอสเตท ซึ่งแรงบิดจะน้อยกว่าอยู่ที่ 300 นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบ 1,200-4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม อยู่ที่ 6.2 วินาที

ภายนอกของ C350e Plug-In Hybrid

ยังคงความปราดเปรียว ตามสไตล์ของ New C-Class มี กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมี่ยม พร้อมตราสัญลักษณ์ เมอร์เซเดสเบนซ์
ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ระบบปรับโคมไฟหน้าจะปรับไปตามการเลี้ยวของพวงมาลัย มีระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้งและ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ มี ไฟ Daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน นอกจากนี้ยังมีไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟเบรกและไฟท้ายแบบ LED
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อน เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
กระจกมองข้างปรับระดับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ


ระบบกันสะเทือนเป็นแบบ AIRMATIC ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมี่ยม 2 ท่อ ยางรถยนต์แบบ Run-flat และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 19 นิ้ว (รุ่นที่ขับ)

 

ภายในของ C350 E Plug-in Hybrid


ภายในกว้างขวาง เบาะนั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ต เบาะนั่งทั้งด้านคนขับและคนนั่งปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำตำแหน่งที่นั่งปรับได้ตามความต้องการจนกว่าจะพอใจ เน้นความหรูหราด้วยแผงคอนโซลกลางที่สร้างเป็นชิ้นเดียวกับที่พักแขน ช่วยให้สะดวกในการใช้งานพร้อม Touchpad ที่ติดตั้งบริเวณที่พักแขน ช่วยให้สะดวกในการควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆได้ง่ายขึ้นอย่างเช่นอุปกรณ์เครื่องเสียง โดยสายตาไม้ต้องละจากข้างหน้า
เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังพับได้แบบ 1/3 และ 2/3


พวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า และปรับน้ำหนักตามความเร็วของรถ
ด้านบนของคอนโซลหน้าและด้านบนของประตูหุ้มด้วยหนัง
ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 3 สี
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ และมีระบบรองรับการใช้งานระบบนำทาง


C350 e Plug-In Hybrid นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ในตระกูล The new C-Class ที่ใช้เทคโนโลยี่ไฮบริดต่อจากรุ่น C300 Blue TEC Hybrid และยังเป็นรถยนต์รุ่นที่สองของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ใข้เทคโนโลยี่ปลั๊กอินไฮบริดอีกด้วย
โดยมีการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธี่ยม-ไอออน ขนาดความจุ 6.38 กิโลวัตต์ น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ไว้ที่ใต้เพลาขับด้านหลัง โดยแบตเตอรี่นี้สามารถชาร์ตไฟให้เต็มได้ภายใน 3 ชั่วโมง โดยการชาร์จไฟบ้าน

นอกจากนี้ยังสามารถเลือกโหมดการทำงานของระบบ plug-In HYBRID ได้ถึง 4 โหมด

HYBRID:   การทำงานในรูปแบบนี้ รถยนต์จะถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยระบบจะเน้นไปที่การใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนให้มากที่สุด และใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเท่าที่จำเป็น หากกระแสไฟในแบตเตอรี่มีปริมาณต่ำกว่า 20 % ระบบจะใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเท่านั้น และถ้าผู้ขับขี่ปรับเกียร์อัตโนมัติเป็นโหมดสปอร์ต ( S) รถยนต์จะถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว มอเตอร์ไฟฟ้าไม่ทำงาน
E-MODE:  ขับเคลื่อนโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว ได้จนถึงความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นระยะทางสูงสุด 31 กิโลเมตร โดยไม่คายไอเสีย ระยะทางขึ้นอยู่กับความเร็วและและระดับพลังงานของแบตเตอรี่
E-SAVE:  ในขณะที่ใช้ E-SAVE เพื่อจะเดินทางเข้าเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ก่อนเดินทางก็ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม(ชาร์จไฟบ้าน) ระดับกระแสไฟฟ้าที่อยู่ในแบตเตอรี่ก็จะบันทึกค่าเอาไว้ และรถยนต์จะใข้ระบบเครื่องยนต์เป็นหลักในการขับเคลื่อน พอถึงช่วงจราจรหนาแน่นในเมือง ก็สามารถปรับเปลี่ยนมาเป็น E –MODE คือใช้แต่พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว โดยเฉพาะการขับขี่ในเมือง การทำงานของระบบนี้ผู้ขับขี่จะต้องไม่กดแป้นคันเร่งจนเกินแรงต้านที่คันเร่งที่เท้า หากกดแป้นคันเร่งเกินแรงต้านเมื่อใด เครื่องยนต์จะเข้ามาทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนรถยนต์ทันที ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงในการขับขี่ และรักษามลภาวะด้วย เพราะไม่มีไอเสีย
CHARGE:  การทำงานในรูปแบบนี้ รถยนต์จะถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว โดยแบตเตอรี่จะถูกรักษาระดับการชาร์จให้อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อขับเคลื่อนเครื่องยนต์จะไม่มีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเลย แรงหมุนของเครื่องยนต์จะแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าไปสะสมในแบตเตอรี่ และจะมีการแปลงพลังงานที่เกิดจาการชะลอความเร็วหรือเบรก ไปเป็นพลังานไฟฟ้าสะสมไว้ในแบตเตอรี่ เมื่อชาร์จไฟเต็มก็จะเปลี่ยนไปเป็นระบบ E-SAVE โดยอัตโนมัติ


ก็มาถึงการขับขี่ C350 e Plug-In HYBRID AMG Dynamic กันบ้างละคะ
โดยเริ่มออกเดินทางจากโรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงรายเพื่อมุ่งหน้าไปสู่เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร
ขับกัน 2 คน โดยช่วงแรกดิฉันเป็นคนขับก่อนค่ะ
ขึ้นไปนั่งสตาร์ทรถ เครื่องยนต์ เงียบมาก ไม่มั่นใจว่าเครื่องยนต์ติดแล้วยัง เลื่อนที่นั่งที่เป็นระบบไฟฟ้า ปรับเข้าออก สูง-ต่ำ ตามต้องการปรับด้วยไฟฟ้าที่นั่งคู่หน้า เบาะที่นั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ต
เมื่อคาดเข็มขัดนิรภัย ก็รู้สึกได้เลยค่ะว่าเข็มขัดมีการปรับให้กระชับเข้ากับตัวเราโดยอัตโนมัติ
ภายในรถกว้างขวางค่ะ ซึ่งในการขับขี่ครั้งนี้ ดิฉันใช้โหมดการขับขี่อยู่ที่ comfort Mode( C)ซึ่งมีให้เลือกโหมดการขับขี่ทั้งสิ้นถึง 5 โหมดด้วยกันคือ Individual (I) / Sport + ( S+) ,/ Sport ( S) ,/ Comfort (C) ,/ Economy (E)
ส่วนโหมดการทำงานของระบบ Plug-In Hybrid ดิฉันเลือกระบบ HYBRID ในการขับขี่ และระบบนี้ก็ทำงานไปโดยอัตโนมัติของเขา ถ้าอยากดูการทำงานบนหน้าปัด ก็ดูได้ค่ะ แต่จะไม่มีสมาธิในการขับรถ สู้ปล่อยให้เขาทำงานไปตามเรื่องตามราวของเขาดีกว่านะและทุกอย่างก็เป็นไปอย่างนิ่มนวล ขับตอนแรกก็ใช้โหมด Comfort ในการขับขี่ ก็ว่าสนุกแล้วนะ พอปรับไปที่ Sport ยิ่งขับสนุกมากขึ้นค่ะ
ต้องยอมรับว่าเป็นรถที่ขับสนุก คล่องตัว อัตราเร่งเหยียบลงไปเมื่อไหร่ก็มาทันที ได้ดั่งใจ การเกาะถนนการเข้าโค้งให้ความมั่นใจดีค่ะ พวงมาลัยจะปรับเบาหรือหนักก็ตามความเร็วของรถที่ใช้ค่ะ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการขับขี่
ภายในห้องโดยสารเงียบจริงๆ ที่นั่งทั้งผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้านั่งสบายค่ะ ที่นั่งด้านหลังยังไม่ได้ลองนั่ง
อุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆก็มีให้พร้อม
ขับไปได้ประมาณ 50 กิโลเมตร ก็ต้องสลับให้เพื่อนร่วมทางอีกท่านขับต่อ เพื่อจะได้ลองสมรรถนะของรถบ้าง ทั้งที่อยากขับต่อนะคะ


อุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆก็มีให้พร้อม เช่นระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 4 ตำแหน่ง สำหรับผูขับขี่และผู้โดยสาร ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่งผู้ขับขี่และผู้ดยสาร เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ไฟเบรกระพริบฉุกเฉิน ระบบรักษาความเร็ว และจำกัดความเร็ว ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ ระบบเตือนแรงดันลมยาง เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด ระบบช่วยในการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอย กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ คงต้องไปดูเพิ่มเติมในโบชัวร์นะคะ

ราคารถรุ่นนี้
The C350e Exclusive ราคา 2,990,000 บาท
The C350e AMG Dynamic ราคา 3,340,000 บาท
The C350e Estate AMG Dynamic ราคา 3,690,000 บาท

ท่านที่เลือกซื้อรถรุ่นนี้ก็คงไม่ผิดหวัง ถ้าชอบรถที่ขับสนุกว่องไว ปราดเปรียว เกาะถนนดี เทคโนโลยีทันสมัย
ส่วนอีกคันหนึ่งคือ S500 e Plug-In Hybrid โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ

 

ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ผู้หญิงขับรถ

Facebook Comments
Thunyaluk Seniwongs

Recent Posts