MG GS รถที่ออกแบบจากศูนย์ UK TECHNICAL CENTER เมืองเบอร์มิงแฮมประเทศอังกฤษ ซึ่งทำให้การออกแบบดีไซน์รถSport SUV ในแนวนี้ดูเรียบหรู โฉบเฉี่ยว
ทาง MGได้จัดทริปให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับรถรุ่นนี้ ซึ่งทางคาร์ออนไลน์ก็ได้ไปทดสอบมาแล้วโดยคุณโจ้
ตามบทความนี้นะคะhttp://www.caronline.net/news/%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%9b%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%9f%e0%b8%b1/
และทาง MG ก็ได้จัดทริปสำหรับผู้หญิงขึ้นมา โดยขับ MG GS จากศูนย์ทดสอบรถของ MG ไปยังจังหวัดจันทบุรี
ก่อนเดินทางก็ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถและเส้นทางที่จะเดินทาง
MG Gs รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ MG Gs รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ เป็นเครื่องยนต์ TURBO 2.0 ลิตร มีแรงม้าถึง 218 แรงม้า แรงบิดก็อยู่ที่ 350 นิวตันเมตรที่ 2,500 -4,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนเกียร์แบบ ธรรมดาได้ด้วย( Paddle Shift )เพื่อให้ขับขี่สนุกมากขึ้น โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8.2 วินาที
กิจกรรมการทดสอบขับขี่มีขึ้นสองวันเต็ม โดยเริ่มต้นจากศูนย์ เอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ แห่งใหม่ บนถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าสู่จังหวัดจันทบุรี
ซึ่งรถดิฉันไปกันสามคน คันแรกที่ขับก็คือ MG Gs รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยดิฉันนั่งไปด้านหลังก่อน ภายในที่นั่งเป็นเบาะหนัง เบาะที่นั่งด้านหลังปรับเอนได้ นั่งสบาย สามารถพับได้แบบ 60:40 ตรงกลางดึงที่ท้าวแขนออกมาก็วางแก้วน้ำได้
ที่เก็บสัมภาระด้านหลังกว้าง หากบรรทุกสัมภาระไม่พอก็พับที่นั่งแถวที่สองลงไปได้เลย
ด้านหลังไม่ต้องกลัวร้อน มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหล้งด้วย ดิฉันนั่งด้านหลังอย่างสบายไปเลย
ห้องโดยสารกว้าง ทัศนวิสัยดี นั่งหลังไม่อึดอัด
มองดูคนขับซึ่งก่อนออกรถ ก็ปรับที่นั่งด้านหน้า ซึ่งตัวขับเคลื่อน 4 ล้อที่นั่งคู่หน้าจะปรับด้วยฟ้าทั้งคู่
ส่วนตัวขับเคลื่อน 2 ล้อ ปรับไฟฟ้าที่นั่งเฉพาะ ผู้ขับ ส่วนผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยมือ
ก่อนออกรถ ก็เปิด GPS นำทางซึ่งหน้าจอจะเป็นจอสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว
ในรถคันนี้ผู้ขับและผู้โดยสารยังได้รับความสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์ที่ครบครัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบการควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ ครูส คอนโทรล (Cruise Control) กุญแจอัจฉริยะ การสตาร์ทรถแบบ Push Start ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และกระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ
ตลอดจนเทคโนโลยีการสื่อสาร อินคาเน็ต ซึ่งไม่ได้เป็นแค่แอพลิเคชั่น แต่เป็นระบบเทคโนโลยี่ที่ให้คุณเชื่อมต่อสื่อสารและสั่งการรถยนต์ MG ผ่านสมาร์ทโฟนด้วยปลายนิ้วสัมผัส อัดแน่นไปด้วย 12 ฟังก์ชั่น พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ การโทรออก-รับสาย การรับ-ส่งข้อความ หรือ แม้กระทั่งการแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านหน้าจอวิทยุ ตลอดจนระบบการนำทางรถยนต์แสดงผลผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้วและระบบเครื่องเสียงลำโพง 8 ตัวรองรับมัลติมีเดียและการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ พร้อมยูเอสบี (USB) และเอยูเอ็กซ์ (AUX)
ผู้หญิงเราชอบนะให้อะไรมาเยอะๆ หมายถึงต้วเอง แต่ไม่ทราบว่าคนอื่นเป็นอย่างไร ส่วนจะใช้ไม่ใช้อีกเรื่องนึง
เมื่อเซ็ททุกอย่างเรียบร้อยแล้วเราก็ออกเดินทาง ก็เดินทางกันเป็นขบวนละคะ เพราะเป็นทริปชิวล์ชิวล์
ซึ่งอย่างที่รู้อยู่แล้วทริปนี้ผู้หญิงเกือบทั้งหมด การถ่ายรูปก็ย่อมมากเป็นธรรมดา เข้ากับคอนเซ็ปท์ของกิจกรรมเลย
เพราะกิจกรรมการทดสอบ NEW MG GS ในครั้งนี้ มีการจัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่ายในแบบ “ท่องเที่ยว วิถีไทย เก๋ไก๋ ไม่เหมือนใคร” ซึ่งเป็นแคมเปญหลักของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในปี 2559 นี้ เพื่อร่วมกันสนับสนุนและเชิญชวนให้คนไทยออกไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ของประเทศไทยในสไตล์ของตัวเอง ทั้งนี้สื่อมวลชนต้องถ่ายภาพในแอคชั่นสุดเก๋ระหว่างกิจกรรม แล้วแชร์ลงในหน้าเพจเฟสบุ๊คของตนเอง พร้อมลง #ท่องเที่ยว วิถีไทย เก๋ไก๋ ไม่เหมือนใคร ซึ่งภาพของผู้ที่ได้รับการกดไลค์สูงสุด จะได้รับของที่ระลึกจากทาง เอ็มจี ซึ่งจะเห็นว่ามีภาพพวกเราค่อนข้างเยอะนะกับที่ท่องเที่ยวและแวะซื้อผลไม้ หลายที่นะคะไม่ได้จอดถ่ายรูปเพราะฝนตก
วันที่เราเดินทาง ช่วงก่อนถึงระยองฝนตกหนักมาก มองแทบไม่เห็นทาง ต้องยอมรับว่าที่ปัดน้ำฝนหน้าและหลังทำงานได้ดีมาก ปัดได้แรงทันใจ ไฟส่องสว่างก็เห็นชัด
ตัวขับเคลื่อนสีล้อมีที่ล้างกระจกโคมไฟหน้าด้วยนะคะ หน้าฝนนี้ได้ใช้เลยค่ะ เพราะล้างฝุ่นโคลนที่กระเด็นขึ้นมาได้เลยในขณะขับรถ
การเกาะถนนก็ดีนะคะ อีกอย่างเป็นรถขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ ซึ่งจะทำงานเปลี่ยนเป็นขับเคลื่อนสี่ล้อโดยอัตโนมัติ เมื่อเจอถนนลื่น หรือเราจะกดเป็นขับเคลื่อนสี่ล้อเองก็ได้ถ้าไม่ทันใจ การมีอุปกรณ์ก็ช่วยให้เบาใจขึ้นแต่อย่างไรก็ตามก็ต้องขับโดยความระมัดระวัง
แต่ถ้าหากเป็นรถขับเคลื่อนสองล้อเจอถนนลื่นก็ขับช้าลง เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น
ความแรง อัตราเร่งแซงของรถไม่ต้องพูดถึงแรงดี หลังติดเบาะเลยค่ะ การเกาะถนนการเข้าโค้งให้ความั่นใจค่ะ เบรกก็มั่นใจได้
หลังจากนั่นก็แวะรับประทานอาหารมื้อกลางวันที่ร้านแหลมเจริญซีฟู้ดระยอง
หลังจากรับประทานอาหารแล้ว ดิฉันก็เป็นผู้ขับคนต่อไป ท่ามกลางสายฝนที่ยังไม่ยอมหยุดตก เราก็ออกจากร้านอาหารแล้วมุ่งหน้าเข้าที่พักที่หาดคุ้งวิมานจังหวัดจันทบุรี ระยะทางเกือบ 100 กิโลเมตร ซึ่งในช่วงนี้ก็มีโอกาสสัมผัสกับ MG GS รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้ออย่างเต็มที่
สตาร์ทติดเครื่องแบบ Push Start กดปุ่ม แล้วเปิด GPS เพื่อนำทาง ซึ่งต้องเปิดใหม่คุณครั้งหลังดับเครื่องยนต์
เปิดหลังคาชั้นแรกโดยใช้มือเลื่อน ยังไม่ได้เปิดซันรูฟ ซึ่งใช้ไฟฟ้าเพราะฝนตก ได้บรรยากาศฝนตกภายในรถดูสว่างขึ้น
ออกตัวรถด้วยระบบธรรมดาแบบขับเคลื่อนสองล้อ พวงมาลัยหนักแน่นกระชับมือ
หลังจากฝนหยุดตกแล้วก็ได้ลองอัตราเร่งแซงดู ความเร็วมาได้ดั่งใจ ยิ่งถ้ากดมาโหมดสปอร์ต S ก็จะขับสนุกมากยิ่งขึ้น หน้าปัดดูสวยขึ้นเป็นสีแดงเมื่อขับในโหมด S
สาวๆไม่ต้องกลัวนะคะ ว่ารถเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบ 2,000 ซีซี แล้วจะควบคุมรถได้หรือเปล่า ขับครั้งแรกไม่ว่ารถอะไรก็ตามอย่าเพิ่งกดคันเร่งลงไปแรง ๆ ลองออกตัวช้าๆไปก่อน เมื่อชินกับรถแล้วก็จะรู้เองว่าจะกดคันเร่งไปแค่ไหน
แล้วจะขับได้อย่างสบายใจ
รถแรงก็คงเหมือนมีเงินเยอะอยู่ในมือ จะใช้ที่เดียวหมดหรือค่อยๆใช้ก็ลองพิจารณาดูตามความเหมาะสม#คิดเองนะ#
เส้นทางก็มีคดเคี้ยวเข้าโค้งบ้างการเกาะถนนหนึบหนับดี ช่วงล่างหนักแน่น
ก่อนจะเข้าที่พักเราก็แวะซื้อผลไม้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเงาะ ทุเรียน มังคุด เพราะเป็นหน้าผลไม้
ดีที่คนในรถชอบกินทุเรียนกันทุกคนก็เลยซื้อได้ เพราะทนกลิ่นได้
แล้วเราก็เข้าที่พักที่โรงแรมโมเดิร์น สีสันสดใส
ซึ่งเป็นโรงแรมเปิดใหม่แต่ยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ โรงแรมทันสมัยมีอยู่ประมาณ 38 ห้อง ที่พักน่ารักค่ะ
อยู่ริมทะเลแค่ข้ามถนนก็เจอทะเลแล้วค่ะ
เช้าวันรุ่งขึ้นก็เดินทางกลับด้วย MG GS รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ ซึ่งการขับความสนุสนานและการควบคุมรถก็ไม่ต่างจากตัวขับเคลื่อนสี่ล้อเท่าไหร่นัก จะแตกต่างกันบ้างก็ในบางฟังก์ชั่นแค่นั้นเองอย่างเช่น ตัวขับเคลื่อนสองล้อ ด้านผู้โดยสารด้านหน้าปรับมือ ไม่มีหลังคาซันรูฟและราวหลังคา ไม่มีที่ล้างไฟหน้า
ไม่มีระบบโทรเข้าโทรออกและแชร์WI-fi และไม่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ นอกนั้นก็มีเหมือนกับตัวขับเคลื่อน 4 ล้อ
ล้อและยาง ล้ออัลลอยล์ 18 นิ้ว ยางขนาด 235/50 R18
ถังน้ำมัน จุ 55 ลิตร สามารถเติมน้ำมัน E 85 ได้
การรับประกัน MG GS รับประกัน 4 ปี หรื่อ 120,000 กิโลเมตร
ไม่เพียงเท่านั้น NEW MG GS ยังมาพร้อมระบบการป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน (ABS – Anti-lock Braking System) พร้อมระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD – Electronic Brake Force Distribution) ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง (AVH – Auto Vehicle Hold) ระบบทำความสะอาดจานเบรกอัจฉริยะ (BDC – Intelligent Brake Disc Cleaning) ระบบเพิ่มแรงดันไฮดรอลิคเบรกให้เหมาะสม (OHBV – Optimized Hydraulic Brake Servo) ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR – Motor Control Slide Retainer) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBA – Electronic Brake Assist System) ตลอดจนระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS – Hill-Start Assist) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TPMS – Tire Pressure Monitor System) และระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB – Electronic Parking Brake) ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้ระบบหนึ่งเดียวคือ SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 13 ฟังก์ชั่น ผู้ขับขี่ยังอุ่นใจด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย แข็งแกร่งด้วยเทคโนโลยี FSF – Full Space Frame ป้องกันผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกที่นั่งด้วยถุงลมคู่หน้าและด้านข้าง
NEW MG GS มีให้เลือก 2 รุ่น คือ
2.0 TD 2WD ราคา 1,210,000 บาท
2.0 TX AWD ราคา 1,310,000 บาท
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ผู้หญิงขับรถ
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…