การเดินทางเริ่มต้นจากโชว์รูมอีซูซุ จังหวัดเชียงใหม่มุ่งหน้าสู่อำเภอแม่แตง บนเส้นทางหลวง 107 เพื่อแวะรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านข้าวแฝ่ ประเดิมมื้อแรก ณ เมืองเหนือด้วยอาหารพื้นเมือง คือ ข้าวซอยหลากหลายเมนู กับบรรยากาศร้านแบบสบายๆ เสริฟพร้อมกาแฟรสหอมกรุ่น
จากนั้นขบวนรถ “อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” รวม 10 คัน ซึ่งเป็นเกียร์ธรรมดาทั้งหมด พร้อมสื่อมวลชนฝีมือเก๋าจากหลายสื่อก็มุ่งหน้าสู่บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างทางต้องเผชิญกับทางโค้งที่ลาดชัน และหักศอกเป็นระยะ ขบวนได้จอดพัก ณ ร้านกาแฟน่ารักๆ พร้อมสวนสวย “Hillside Coffee House” ซึ่งเป็นจุดชมวิวของเมืองปายที่ติดอันดับ 1 ใน 15 วิวสวยทั่วไทย เพื่อเป็นการผ่อนคลาย ก่อนมุ่งหน้าสู่บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ผ่านทางเขาคดเคี้ยวเกือบ 2,000 โค้ง ทำให้ทุกคนผู้ร่วมทริปได้พิสูจน์ถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของ “อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ที่แม้ใช้เครื่องยนต์เพียง 1,900 ซีซี แต่ให้กำลังสูงสุดถึง 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตรที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ขุมพลังเหนือความคาดหมาย สามารถพิชิตยอดเขาหลายลูกได้อย่างสบาย พวงมาลัยบังคับได้อย่างมั่นใจ เบรกหยุดอย่างปลอดภัยในทุกสถานการณ์ สามารถบุกมาได้ถึงบ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ขึ้นชื่อว่าเส้นทางโหดมาก ผ่านมาถึงที่นี่ได้ ดอยไหนๆ รถปิกอัพ “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูพาวเวอร์” ก็ไม่หวั่นไปถึงได้อย่างแน่นอน
ที่พักในคืนแรกนี้ชื่อ “ลีไวน์บ้านรักไทย” รีสอร์ท เป็นบ้านดินชั้นเดียวมุงหลังคาด้วยใบตองสไตล์จีน สร้างอยู่บนเขาไล่ระดับท่ามกลางต้นชาที่รายล้อมอย่างงดงาม บรรยากาศดีสุดสุด และในหมู่บ้านรักไทยนี้ประกอบด้วยชุมชนชาวจีนยูนนาน ลูกหลานทหารกองพล 93 ที่เดินทางมากจากตอนใต้ของจีนเมื่อหลาย 10 ปี ก่อน โดยปัจจุบันอาศัยอยู่ร่วมกันกับพี่น้องชาวไทใหญ่และชาวไทยภูเขาเผ่าอื่น ๆ บรรยากาศรอบหมู่บ้านจะมีทะเลสาบขนาดใหญ่ใจกลางหมู่บ้าน และถูกรายล้อมไปด้วยบ้านดินมีร้านค้าของที่ระลึกผลิตภัณฑ์ของชาวเขาให้เลือกสรรมากมาย ตบท้ายมื้อค่ำในคืนแรกด้วยอาหารตำรับจีนยูนนานจานเด็ด อาทิ ขาหมู-หมั่นโถว หมูพันปี ไก่ตุ๋นยาจีน ยำใบชาสด ชาอู่หลง ชาเจียวกู่หลัน ชาดอกเหมย และของอร่อยอีกมากมาย
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ บ้านรักไทยแห่งนี้ สื่อมวลชนบางท่านก็ตื่นเช้าเพื่อรับอากาศที่แสนเย็นสบายด้วยการวิ่งออกกำลังกาย บางท่านก็ขี่จักรยานรอบหมู่บ้าน พร้อมถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ระหว่างทางอย่างสนุกสนาน บางท่านก็ออกมานั่งเล่นตรงระเบียงเพื่อชมการเก็บใบชาในบริเวณรีสอร์ท พร้อมรับประทานอาหารเช้าด้วยข้าวต้มหมูสับตุ๋นเห็ดหอม รสชาดกลมกล่อมพร้อมเครื่องเคียงทั้งขิง หอมใหญ่ และผักให้เลือกทานตามความชอบของแต่ละท่าน พร้อมกับซาลาเปาทอดจิ้มนมข้นแสนอร่อย
เมื่อถึงเวลานัดหมายหมาย ขบวนรถ “อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ก็ออกเดินทางกันอีกครั้งมุ่งหน้าสู่ “โกลเด้นปายแอนด์สวีทรีสอร์ท” เพื่อรับประทานอาหารกลางวันเติมพลัง ก่อนที่จะไปทำกิจกรรมแสนสนุกและประทับใจกันที่ “ภูโคลน คันทรีคลับ”
“ภูโคลน คันทรีคลับ” ได้รับการบรรจุไว้ในโครงการ UNSEEN IN THAILAND และ SPA PARADISE เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่า และมีประโยชน์ต่อมนุษย์ นั่นคือแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ และบ่อน้ำแร่จากธรรมชาติที่ไหลเป็นลำธาร ที่ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิด และเป็นที่มาของโคลนธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและผิวพรรณ โดยโคลน ณ ที่แห่งนี้ จะช่วยดูดซับสารพิษในร่างกาย และช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น หลังจากทำสปาโคลน ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงความเนียนนุ่มของผิวกาย และผิวหน้าอย่างชัดเจน
จากนั้น ขบวนรถของเราก็พร้อมมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองปาย แหล่งท่องเที่ยวอันมีเสน่ห์ชวนหลงใหลมิเสื่อมคลาย แม้บางอย่างอาจเปลี่ยนแปลงไปบ้างโดยเฉพาะเสน่ห์ทางธรรมชาติในอดีต ที่ปัจจุบันถูกรายล้อมไปด้วยรีสอร์ทและร้านกาแฟมากมายโอบล้อมรอบเมืองปาย แต่ก็ยังเป็นที่หมายปองที่จะมาค้นหาทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง เราก็มาถึงเมืองปายกันได้อย่างสบาย ไร้กังวล เพื่อเข้าพัก ณ รีสอร์ทหรูท่ามกลางธรรมชาติ “ภูริปาย รีสอร์ท”
มื้อค่ำของคืนนี้ พวกเราทานกันที่ “ร้านขนาด” บริเวณริมแม่น้ำปาย ซึ่งตั้งอยู่สุดถนนคนเดินแห่งเมืองปาย
หลังจากรับประทานอาหารเลิศรสของที่นี่แล้ว ก็ถือโอกาสเดินเล่นสัมผัสถนนคนเดินยอดนิยมในอดีตที่ทุกคนกล่าวขานถึง และปัจจุบันก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ โดยจะเห็นได้ว่าที่นี่เปิดขายทุกวัน ต่างจากถนนคนเดินอื่นๆ ที่จะเปิดขายสินค้าเฉพาะวันหยุดเท่านั้น
จากนั้นต่างก็แยกย้ายเดินทางเข้าที่พักอันแสนสบาย ตื่นมาพร้อมบรรยากาศทุ่งหญ้าเขียวขจี รับแสงอาทิตย์อันงดงามก่อนใครได้ที่นี่ “ภูริปาย”
วันสุดท้ายของการเดินทาง ขบวนรถ “อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ขับกลับมายังจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมแวะทานอาหารกลางวันกันที่ “ร้านเฮือนเพ็ญ 2” ร้านอาหารพื้นเมืองชาวเหนือที่โด่งดัง
อิ่มท้องกันแล้ว เราก็เดินทางกันต่อไปเพื่อกราบขอพรจากหลวงพ่อทันใจ ณ วัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งวิธีขอพรจากหลวงพ่อทันใจ คือ จุดธูป 3 ดอก แล้วเอ่ยชื่อ สกุล ที่อยู่ ให้ชัดเจน จากนั้นก็ออธิษฐานขอพรเรื่องที่ต้องการ จบแล้วให้บอกว่า จะมาถวายดอกมะลิ 50 พวงขึ้นไป พร้อมบอกกำหนดเวลาของสิ่งที่ขอให้ชัดเจน จะได้รู้แน่ชัดว่า สิ่งที่เราไปขอพรมานั้นสำเร็จได้ดังใจเราหรือไม่
เสร็จสิ้นภาระกิจการขับรถผ่านโค้งเขากันมาตลอด 3 วัน สามพันกว่าโค้ง คณะสื่อมวลชนจึงแวะพักผ่อนคลาย ดื่มกาแฟ และทานขนมเค้กแสนอร่อย “@ The Old Chiang Mai Café & Espresso Bar” ใน “โครงการบ้านข้างวัด” ซึ่งตั้งอยู่ซอยวัดอุโมงค์ ภายในโครงการจะมีร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายของแฮนด์เมด ซึ่งหน้าโครงการจะมีลานกว้างๆ ไว้สำหรับให้ผู้คนในชุมชนมาทำกิจกรรมกลางแจ้งกัน ซึ่งโครงการนี้มีต้นไม้เยอะ ร่มรื่น ซึ่งตัวของร้านค้าต่างๆ กันจะเป็นลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้น ซึ่งดูแล้วเหมือนหมู่บ้านในสมัยก่อน ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่สนามบินเชียงใหม่เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
จบทริปการเดินทางพิชิตมากกว่า 3,000 โค้งกับ “อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมเก็บความประทับใจในสมรรณะอันทรงพลังของ “อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” เครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กที่ให้ความแรงแบบเหนือความคาดหมายเรียกได้ว่า “จิ๋วแต่แจ๋ว” พร้อมพัฒนาระบบส่งกำลังใหม่หมด ด้วยเกียร์เดินหน้า 6 สปีดเพื่อที่จะถ่ายทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของเครื่องยนต์ใหม่นี้ให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ที่เหนือกว่าทุกสถิติเดิม! เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นเดิมขนาด 2,500 ซีซี ที่มีขนาดใหญ่กว่า และมีชื่อเสียงในเรื่องพลังจัดและประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยมอยู่แล้ว และเป็นเครื่องยนต์ Generation ใหม่ที่มีค่า CO2 ต่ำสุดจนสามารถรองรับมาตรฐานสูงสุด EURO 6 ด้วย
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ผู้หญิงขับรถ
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…