รายงานข่าวจากเยอรมัน ระบุว่า กลุ่มโฟล์คสวาเก้น ประชุมกรรมการบริหาร ตัดสินใจให้โยกย้ายการบริหารงานของ ค่ายรถหรู เบนท์ลี่ย์ ไปให้ค่าย เอาดี้ เป็นผู้ดูแล ส่วนข่าวลือที่ว่า กลุ่มโฟล์ค จะขายค่ายรถยนต์ ลัมบอร์กินี่ และมอเตอร์ไซค์ดูคาติ รวมทั้งครั้งแรกจะขาย เบนท์ลี่ย์ ด้วย เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น
ผลจากการประชุม ทำให้การดำเนินการของ เบนท์ลี่ย์ ต้องอยู่ภายใต้ เอาดี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป หลังจากมีข่าวลือว่า กลุ่มโฟล์ค ขะปรับปรุงสายการบริหารงานของกลุ่มรถยนต์ในเครือเสียใหม่ เพื่อขยับขยายสายการผลิตและการจัดส่งชิ้นส่วนอะไหล่ ให้มีความทันสมัยมากขึ้น
การตัดสินใจครั้งนี้ กรรมการบริหาร ยินยอมให้มีการปรับโครงสร้างการบริหาร โดยอาจมีการควบรวมกับค่ายรถยนต์ หรือสตาร์ทอัพ เพื่อก้าวไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า ในอนาคต แต่โดยภาพรวม ระบุว่า เอาดี้ จะต้องจัดการกับค่าใช้จ่ายประจำ หรือการลดค่าใช้จ่าย ให้ได้ 5% ภายในปี 2566 ขณะที่ต้องลดค่าวัสดุสิ้นเปลืองให้ได้ 7% ภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยระบุเพียงว่า ค่ายรถยนต์ทั้งสองยังคงเป็น ค่ายรถยนต์ในเครือโฟล์คสวาเก้น ต่อไป
ก่อนหน้านี้ มีรายงานเปิดเผยให้คำแนะนำในการบริหารงาน ระบุว่า ควรให้ ค่ายรถยนต์ ลัมบอร์กินี่, มอเตอร์ไซค์ ดูคาติ และอิตัลดีไซน์ แยกตัวเป็นกลุ่มก้อนการบริหารชุดเดียวกัน ซึ่ง ซีอีโอ เฮอร์เบิร์ต ไดแอส Herbert Diess กล่าวว่า จะทำให้ทั้ง 3 ค่าย เข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารชุดเดียวกัน แต่เป็นไปในลักษณะช้าๆ ซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้นเลย
ขณะที่ เมื่อเดือนที่แล้ว กลุ่มโฟล์ค เพิ่งแต่งตั้ง สเตฟาน วิงเกิ้ลมานน์ Stephan Winkelmann ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง ซีอีโอ ลัมบอร์กินี่ ให้กลับมาดำรงตำแหน่งเดิมอีกครั้ง
การปรับโครงสร้างครั้งล่าสุดนี้ น่าจะช่วยให้ ลัมบอร์กินี่ ก้าวข้ามไปสู่การเป็นค่ายรถยนต์ที่สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ในอนาคต แต่กระนั้น ซีอีโอ ยังระบุว่า จะนังไม่มีรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อ ลัมบอร์กินี่หรือ ยี่ห้อ บูกัตติ ออกสู้ตลาดในเร็ววันนี้ เพราะเทคโนโลยียังไม่พร้อมสำหรับการใช้ในรถสปอร์ต ระดับหรู ซึ่งน่าจะสามารถแนะนำรถรุ่นแรกได้ ก็ปลายศตวรรษ 2000 นี้
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…