Brand: TOYOTA Model: Corolla
Year: 1996 Miles: 80001-100000
From: อัครเวช พิรัญเจริญ
: AE111
ผมมีปัญหาเรียนสอบถามเป็น 3 หัวข้อ ดังต่อไปนี้ครับ
แคตาไลติก คอนเวิร์ตเตอร์
1. แคตาไลติก คอนเวิร์ตเตอร์ หากเสีย จะส่งผลให้เกิดอาการใดบ้างครับ จะมีวิธีตรวจเช็กการทำงานของตัวแคตได้อย่างไร
2. ปกติมีอายุการใช้งานเท่าไร
3. หากเสียสามารถซ่อมได้ หรือต้องเปลี่ยนใหม่
เครื่องยนตร์หัวฉีด
4. เครื่องยนตร์หัวฉีด หากเกิดการอุดตัน จะส่งผลให้เกิดอาการใดบ้างครับ จะมีวิธีตรวจเช็กการทำงานของหัวฉีดได้อย่างไร
5. คุณธเนศร์แนะนำให้ทำการล้างหัวฉีด ในกรณีใดครับ
ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
6. หากช่างไม่ได้เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องพร้อมกับน้ำมันเครื่อง ซึ่งผมหมายถึงกรณีช่างที่ขี้โกง คิดค่าไส้กรอง แต่ไม่ได้เปลี่ยนให้จริง จะส่งผลให้เครื่องยนตร์มีปัญหาอย่างไรบ้างครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ
ทำไมถึงอ่าน แคทาไลติก กันหนอ น่าจะอ่านแคทาลิติก มากกว่าไม่ใช่หรือครับ
1-เสีย นี่เสียอย่างไรครับ เสื้อแตก หักภายใน ตัน หรืออะไร เพราะการเสียหายของชุดแคทาลิติก มีได้หลายอย่างมาก ส่วนใหญ่ ก็จะตัน ซึ่งหากตันก็จะทำให้ไอเสียผ่านลำบาก เกิดอาการอั้นของเครื่องยนต์ เร่งไม่ออก ถ้าเสื้อแตกก็จะดังหนวกหู และไอเสียรั่ว และถ้าภายในแตกก็จะมีเสียงดังบริเวณหม้อแคทาลิติก
การตรวจสอบ ก็ใช้การตรวจด้วยสายตา ด้วยหูโดยการฟัง และหากเกิดการตัน ที่สงสัยว่าตัน ก็จะต้องเช็กด้วยการใช้มาตรวัดลมดูดทางท่อไอดี ลมจะอั้น ไม่ดูดเข้า สันนิษฐานว่าตันพอจะได้ ช่างบางคนใช้การวัดค่า CO ที่บอกไม่ได้แน่นอนว่าตันหรือไม่ แล้วลงความเห็นว่าเสีย แต่ไม่บอกว่าตันหรือไม่ตัน ซึ่งผิดนะครับ
2-อายุใช้งานไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร เขากำหนดไว้ว่า ใช้งานได้แสนหกหมื่นกิโลเมตร แต่เกินกว่า หรือต่ำกว่า ก็ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับการจ่ายเชื้อเพลิงเป็นหลักใหญ่ หากเชื้อเพลิงเข้าในเครื่องยนต์มาก เผาไหม้ไม่หมด ก็ตันเร็วกว่าได้ง่ายมาก ส่วนใหญ่ หากไม่ไปยุ่งอะไรกับตัวจับสัญญาณออกซิเจนแล้ว ก็จะไม่เสียหายหรอกครับ
3-ถ้าเสื้อแตก ก็อาจจะซ่อมได้ แต่ผมไม่เคยเห็นหรือได้ยินว่า ใครซ่อม เสียก็เปลี่ยนทั้งนั้น เพราะส่วนมาก เสียเพราะตันมากกว่าครับ ไม่ได้เสียเพราะอย่างอื่น เพราะไม่มีกลไกใดให้เสีย
4-หัวฉีดเช็กได้ด้วยการฟังเสียงการทำงาน โดยใช้หูฟังจี้ลงตรงตำแหน่งหัวฉีด จะได้ยินเสียงการทำงานชัดเจน เป็นเสียงเคาะเหล็กหรือโลหะกระทบกันเป็นจังหวะ ส่วนการตันนั้น เครื่องยนต์ก็จะเดินไม่ครบสูบ ส่วนมากไม่ค่อยตันหรอก สกปรกเสียแหละมาก เป็นเหตุให้ฉีดน้ำมันได้ไม่เป็นฝอย เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ กำลังตกลงจากใหม่ใหม่ ส่วนใหญ่ ใช้ไปสักห้าหกหมื่นกิโลเมตร ก็เริ่มฉีดน้ำมันไม่เป็นฝอยแล้ว
แต่การฉีดไม่เป็นฝอยละเอียดนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกของการทำงานของเครื่องยนต์ก็ได้ หรือในเดือนแรก แล้วเราไม่รู้ตัว ใช้รถไป ความเคยชินก็เกิด จนผ่านไปเป็นปี ก็ยังคิดว่า รถของเรายังทำงานดีอยู่
จนวันหนึ่งไปขับรถใหม่ของเพื่อน หรือรถที่เขาเพิ่งล้างหัวฉีดมา จึงเริ่มรู้สึกว่า รถเราแรงไม่ดีเท่าของเขา นั่นแหละครับ ถึงจะรู้อาการ
5-ถ้าจะให้แนะนำ ผมก็แนะนำให้ล้างหัวฉีดทุกระยะ ห้าหมื่นกิโลเมตรของการใช้งาน เท่านั้นแหละ เป็นการทำงานแบบป้องกันไว้ก่อนมากกว่าอย่างอื่น
แต่ก็จะได้เห็นผลจากการตอบสนองของเครื่องยนต์ครับ
6-ครั้งแรกยังไม่น่าจะเกิดผลอะไร เพราะกรองยังคงรับไหว แต่เมื่อไรที่กรองรับความสกปรกไม่ไหว และปล่อยให้ความสกปรก เช่นเขม่า ผ่านเข้าเครื่องยนต์ได้ เครื่องยนต์ก็จะเริ่มสึกหรอไปแบบคุณไม่มีวันรู้ตัว จนกว่าจะเกิดการสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องมากขึ้นเท่านั้นเอง
เวลาเข้าไปให้เขาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง พร้อมกรองน้ำมันเครื่อง ทำเครื่องหมายไว้ที่กรองน้ำมันเครื่องเก่าซีครับ จะได้ตรวจสอบได้ว่า ได้รับการเปลี่ยนมาหรือไม่-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…