ปัญหาใหม่
Brand: TOYOTA Model: RAV4
Year: 2001 Miles: 60001-80000
From: ปรีชา ผินจิรพงศ์
สวัสดีครับคุณอา ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ยังไม่ทันได้ไปพบช่างดำเลย รถผมก็ใช้การไม่ได้แล้วหละครับ
อยู่ๆมันก็ดับไปเลยทีนี้ก็ไม่ติดอีก พอดีไปเสียเอาหน้าอู่ที่ซ่อมพอดีเลยโชคดีไป คราวนี้ช่างเช็คแล้วแจ้งว่าหัวฉีดฉีดมาก ส่วนผสมหนา ทำให้วิ่งแล้วดับ ท้ายสุดคือ หัวฉีดรั่วรั่ว (อย่างที่คุณอาเคยตั้งข้อสังเกตไว้) 3หัวเลยครับ งงๆไปพักใหญ่ ทำอยู่2 วันก็เสร็จโดยช่างบอกว่าใส่ R ที่หัวฉีดแล้วปิดท่อ EGR ไป ทำอย่างที่ช่างเขาแจ้งไว้มีผลเสียไหมครับ ผมเองก็ลังเลครับ เปลี่ยนหัวฉีดใหม่ก็ตัวละประมาณ หมื่นเศษ แถมไม่มีเครื่องมือถอด ผมก็งงเหมือนกันครับว่าทำไมไม่มีเครื่องมือถอด มันต้องใช้เครื่องมือเฉพาะสำหรับถอดด้วยหรือครับ ผมลองถามดูถ้าเปลี่ยนมันทั้งเครื่องเลยหละ เขาเช็คดูแล้วบอกผม 3 แสนนิดๆ ฟังแล้วหดหู่ครับ แพงจัง พอมารับรถบ่ายวันนี้ ขับออกไปได้ไม่ไกลก็รู้สึกว่ารถใช้ได้ 3 เกียร์ OVERDRIVE ไม่ทำงาน พรุ่งนี้ต้องเอาเข้าไปอู่ใหม่ ผมขอคำแนะนำจากอาจารย์อีกครั้งครับ น่าจะทำอย่างไรต่อไปดี เครื่อง D4มันไม่ค่อยดีอย่างที่คิดไว้แล้วสิครับ ขอบคุณคุณอามากๆครับ……
ปกติ การตอบปัญหาของผม จะทำกันสองสามวันต่อครั้ง และเพิ่งตอบไปเมื่อวานนี้หมดแล้ว แต่เช้าวันนี้ ก่อนออกไปบันทึกเทปโทรทัศน์ ผมเข้ามาดู พบปัญหาของคุณเข้า ก็เป็นห่วง จึงใช้เวลาที่มีไม่มากตอบให้ก่อน
อาจจะไม่ละเอียด ไม่รอบคอบนัก สำหรับปัญหานี้ เพราะผมต้องรีบค่อนข้างมาก อ่านและพิจารณาดีดี อะไรไม่เข้าใจ ถามใหม่อีกทีครับ เพราะผมเอง ก็ไม่ได้ดูตำรับตำราในการตอบปัญหาครั้งนี้เลย อาจจะผิดพลาดไปบางส่วน ก็ขออภัยท่านผู้รู้ไว้ล่วงหน้าด้วย ตอบด้วยเจตนาดี เพราะเห็นว่าจำเป็นสำหรับเจ้าของรถ ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งกว่าใครนะครับ
——————
การใส่ R หรือ Resistor เข้าไปคร่อมกระแสระหว่างคอมพิวเตอร์กับหัวฉีดโดยช่างนั้น ผมไม่ทราบว่า ทำด้วยเจตนาอะไร จึงต้องมานึกดูว่า R จะทำอะไรกับวงจรได้บ้าง
การมีตัวต้านทานขวางกระแสอยู่นั้น น่าจะทำให้กระแสเดินถึงตำแหน่งปลายสุดช้า หรือหน่วงกระแสเอาไว้ หรือเพิ่มหรือลดกระแสไฟฟ้าลงไป ผมเดาเอาว่า วัตถุประสงค์ของช่าง ก็คือหน่วงไว้ ให้กระแสไปเปิดหัวฉีดต่ำลง
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ก็เกิดการเปิดนิดนิดของหัวฉีด หากเป็นไปตามความต้องการของช่าง
เอาละ เมื่อเปิดน้อยหรือต่ำ น้ำมันก็ฉีดน้อยลง แต่ทีนี้เมื่อหัวฉีดรั่วและยังไม่ได้แก้ไขอะไรกับการรั่วนี้ น้ำมันเชื้อเพลิงก็จะไหลเข้ากระบอกสูบได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราหัวฉีดรั่วไม่ได้รั่วตอนเปิด หากแต่รั่วก็รั่วตลอดเวลา จริงไหมครับ เพียงแต่น้ำมันเข้าน้อยหน่อย เมื่อถึงจังหวะเปิด ก็แค่นั้นเอง
เครื่องยนต์อาจจะติดได้ แต่ก็ยังกินน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะน้ำมันยังท่วมอยู่ เท่านั้นเองอีกเหมือนกัน
——————–
ผมเสนอให้มีการล้างหัวฉีดแบบคาร์บอนคลีนดูก่อน อย่าเพิ่งเปลี่ยนหัวฉีด อาจจะหายขาดไปเลยก็ได้ครับ
——————-
การถอดสาย EGR ออกก่อนนั้น อาจจะส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงาน Lean หรือ Rich ขึ้นอยู่กับวาล์ว EGR ว่าขณะนั้นอยู่ในตำแหน่งเปิดหรือปิด ผมว่า ของคุณ คงอยู่ในตำแหน่งเปิด
—————
แต่การถอดท่อลมดูดออก จะส่งผลให้มีปัญหาเมื่อเครื่องยนต์เย็น หรือหากไม่มีปัญหาตอนเครื่องเย็น ก็จะเป็นปัญหาตอนเครื่องยนต์ร้อน ปัญหานี้ เกิดได้หลายแบบ อาจจะเดินไม่ดี เร่งไม่ออก เบาดับ เครื่องยนต์ร้อนจัด ฯลฯ
————-
ส่วนปัญหาของเกียร์ ที่ไม่เข้า O/D ก็อาจจะเกิดจากการทำสายดินของเกียร์หลุดไปโดยบังเอิญครับ หรือเกิดจากสายลมดูดของไอดี ที่ผ่านส่วนของ EGR ไปยังเกียร์(ถ้ามี) ทำให้เสียหายไปได้เช่นกัน
—————-
ผมว่า เอารถไปล้างหัวฉีดเสียก่อน ไปตามอู่แนะนำนี่แหละครับ เขาทำให้ได้ และน่าจะตรวจเช็กเครื่องยนต์ด้วย
อย่ามัวแต่รออยู่ครับ
อย่ามัวแต่หลงว่า ซ่อมออกมาแล้ว จะใช้ได้ดี
ช่างมีมาก ที่เป็นช่างประเภท”รู้มาก” ทำงานเล็กให้กลายเป็นงานใหญ่ได้ง่าย
คือช่างมีสามประเภท”รู้น้อย” เป็นพวกช่างจบใหม่ใหม่ อายุงานไม่เกินสองสามปี ช่างพวกนี้จะซ่อมตามตำรา คิดตามตำรา ไม่เข้าลึกนัก และอาจจะไม่เข้าใจวิธีการถอดการประกอบอะไรดีเท่าไร
ต่อมาเป็นช่างประเภท”รู้มาก” อายุงานนานกว่าสามปี พวกนี้ มองอะไรลึกเกินไป ปัญหาง่ายง่ายก็กลายเป็นเรื่องยุ่งยากในสายตาของช่างประเภทนี้ แล้วจับงานแต่ละครั้ง จะต้องทำอย่างสุดสุด ไม่เคยและไม่ชอบงานง่ายง่าย จนมองข้ามปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะเรื่องนิดเดียวไปหมด ผ่าไปใช้ความรู้เห็นปัญหายากยาก เช่นเครื่องเดินสดุดหรือสั่นหน่อยเดียว บอกว่าต้องยกเครื่องแล้ว
แบบนี้แหละครับ เขาเรียกช่างชั้นอาจารย์
ไม่ใช่ช่างชั้นครู แบบช่างประเภท”รู้จริง” ที่มักจะเก็บตัว ไม่แสดงภูมิออกมา แต่จะพิจารณาอาการ มองเงียบเงียบ คิด ใคร่ครวญ อย่างรอบคอบ แล้วจึงลงมือทำ และก็มักจะทำง่ายง่าย เหมือนช่าง”รู้น้อย”
ก็เลยเป็นที่ดูหมิ่นดูแคลนของพวก “รู้มาก” ไปได้ง่ายง่าย ช่างระดับ “รู้จริง”นี่ หายาก เพราะอย่างที่บอก ไม่ค่อยแสดงตัว ไม่สอน
แต่พอพูดคุยด้วยไม่นาน ผมก็จับได้ว่า ใครคือช่างชั้นครู หรือ”รู้จริง”
และใครคือช่าง”รู้มาก” หรือระดับอาจารย์ แล้วละครับ-ธเนศร์