บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทยเตรียมเผยโฉมมอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์แบบคอมแพค ดุดันและปราดเปรียว สืบทอดตำนานอันเกรียงไกรของมอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์บีเอ็มดับเบิลยูด้วยขุมกำลังแฟลต-ทวินหรือบ็อกเซอร์ เฟรมคลาสสิกแบบเปลือย อวดเครื่องยนต์พร้อมสมรรถนะยอดเยี่ยมไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือเส้นทางปกติ ณ งานแบงค็อค มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2015 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ วันที่ 28 มกราคม 2558 นี้


มร.มาร์กุส กลาเซอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์หลากหลายในหนึ่งเดียว ด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ซึ่งมอบกำลังและแรงบิดทรงพลังในทุกช่วงความเร็ว ขณะที่โช๊คหน้าเทเลสโคปิกชนิดกลับหัวเคลือบผิวสีทองทำงานเพื่อเสริมการตอบสนองที่รวดเร็วคล่องตัว ในทุกช่วงความเร็วของการขับขี่ และแม้บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R จะมีความเป็นต้นฉบับตามแบบโรดสเตอร์พันธุ์แท้ แต่ยังคงไว้ซึ่งเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ ทั้ง Dynamic ESA, ระบบควบคุมการเกาะถนนแบบไดนามิก (Dynamic Traction Control: DTC) และโหมดขับขี่แบบโปร (Ride Modes Pro) จึงไม่น่าสงสัยที่บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R ถือเป็นแรงบันดาลใจและนวัตกรรมสุดยอดต้นแบบมอเตอร์ไซค์ โรดสเตอร์ BMW Concept Roadster”
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และความเป็นโรดสเตอร์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ แฟลต-ทวิน นับเป็นการจับคู่ที่แฟนๆ บิ๊กไบค์ให้การยอมรับนับตั้งแต่เปิดตัวมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่น R 32 เมื่อ 91 ปีที่แล้ว โดยมอเตอร์ไซค์รุ่นตำนานดังกล่าวได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสุดยอดประสบการณ์การขี่บิ๊กไบค์อย่างแท้จริง ทั้งด้านขุมกำลังที่ผนึกจากเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ รูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงเสียงที่ก้องกระหึ่ม ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R พร้อมมอบประสบการณ์การขี่บิ๊กไบค์ที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในช่วงความเร็วสูง การเข้าโค้ง ไปจนถึงการเดินทางพร้อมผู้โดยสารหรือสัมภาระ โดยนำเอกลักษณ์ด้านความสะดวกสบายยามเดินทาง สมรรถนะคล่องตัวและความสามารถในการขับขี่ระยะไกลมาผสานกันอย่างกลมกลืนพร้อมตอบสนองการเดินทางครั้งใหม่
“บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R ทำให้คือจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการโรดสเตอร์” มร. กลาเซอร์ สรุป


คุณสมบัติเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R
ขุมกำลังบ็อกเซอร์ที่ทรงพลังกว่าเดิมเพื่อสุดยอดประสบการณ์การขับขี่
เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ของบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R มอบกำลัง 125 แรงม้า (92 กิโลวัตต์) ที่ 7,750 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุดที่ 92 ปอนด์-ฟุต (125 นิวตันเมตร) ที่ 6,500 รอบต่อนาที ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ในรุ่นก่อนหน้า ไม่เพียงแต่แรงบิดที่ได้รับการพัฒนาให้เพิ่มขึ้นในทุกช่วงความเร็วเท่านั้น แต่ยังส่งแรงบิดได้อย่างสม่ำเสมอยิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับระบบท่อไอเสียเป็นแบบทูอินวันที่ได้รับการออกแบบให้ดูไดนามิก พร้อมตัวเก็บเสียงที่ปลายท่อซึ่งได้รับการออกแบบให้โฉบเฉี่ยวขึ้น กล่องอากาศที่พัฒนาใหม่และช่องรับอากาศรูปร่างใหม่ รวมถึงหม้อน้ำและแผงระบายความร้อนที่จัดตำแหน่งไว้ตรงกลาง ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R มีรูปร่างที่ปราดเปรียวตอบสนองความต้องการของเหล่าโรดสเตอร์ได้ดียิ่งขึ้น


เพิ่มออปชั่นระบบ Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) รุ่นล่าสุดเพื่อตอบสนองการขับขี่ที่ในทุกสถานการณ์
ระบบ Dynamic ESA หรือการปรับค่าสปริงหรือความหนืดของโช๊คด้วยระบบไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ที่สร้างประสบการณ์ใหม่อันเหนือขั้นให้กับการขับขี่ที่คล่องตัว ด้วยการตั้งค่าแดมปิ้งแบบ “Road” และ “Dynamic” ระบบไดนามิก อีซ่าจะช่วยให้ผู้ขี่สัมผัสการขับขี่ที่สะดวกสบายปลอดภัยแต่คงสมรรถนะ ยอดเยี่ยมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จากการปรับช่วงล่างอัตโนมัติให้ตอบสนองต่อสภาวะท้องถนนยามขับขี่และความต้องการของผู้ขี่อีกด้วย
ฟีเจอร์มาตรฐาน โหมดขับขี่แบบโปร (Ride Modes Pro), ระบบควบคุมการเกาะถนนแบบไดนามิก (Dynamic Traction Control: DTC) และระบบเบรก ABS สำหรับแฟนชาวไทย
ไม่เพียงระบบเบรก ABS ซึ่งมอบความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ระบบการขับขี่แบบโปร หรือ Ride Modes Pro ยังได้รับการเพิ่มเข้ามาเสริมโหมดการขับขี่มาตรฐาน (“Rain” และ “Road”) เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่แบบใหม่ ได้แก่ “Dynamic” และ “User” โดยติดตั้งกล่องเซนเซอร์เพิ่มเติมในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยต่อยอดพัฒนาระบบควบคุมการทรงตัวแบบพื้นฐาน (ASC) เป็นระบบการควบคุมการเกาะถนนแบบไดนามิก (DTC) และเป็นครั้งแรกที่มอเตอร์ไซค์ที่มาพร้อม Ride Modes Pro จะสามารถจดจำการตั้งค่าต่างๆของตัวรถได้ (เช่น การตอบสนองของลิ้นปีกผีเสื้อในโหมด “Dynamic” และ DTC “Rain”) โดยระบบ DTC จะใช้ข้อมูลที่กล่องเซนเซอร์บันทึกไว้เพื่อควบคุมการเกาะถนนของมอเตอร์ไซค์ ในสภาวะการขับขี่ต่างๆ กันเช่น การเร่งเครื่อง การลดความเร็ว หรือการขี่บนพื้นลาดชัน ทำให้ช่วงล่างสามารถปรับเปลี่ยนและตอบสนองสภาพการขับขี่ได้ภายในเวลาเสี้ยววินาที มอบความมั่นใจและประสิทธิภาพความปลอดภัยเหนือระดับมากกว่าที่เคย
เฟรมท่อแบบ Tubular steel และเครื่องยนต์สร้างสมดุลให้ตัวมอเตอร์ไซค์ พร้อมระบบกันกระแทกชนิดกลับหัวเทเลสโคปิกสำหรับโช๊คหน้าและแบบ EVO สำหรับโช๊คหลัง
เฟรมท่อ Tubular steel แบบใหม่ซึ่งได้รับการออกแบบสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R โดยเฉพาะ ประกอบด้วยเครื่องยนต์แฟลต-ทวิน ช่วยเสริมการทรงตัวให้มอเตอร์ไซค์ สำหรับระบบรองรับแรงกระแทกบริเวณล้อยังคงความคลาสสิกในแบบของโรดสเตอร์ไว้ด้วยการนำโช๊คหน้าเทเลสโคปิกแบบกลับหัวเคลือบผิวสีทองและแบบ EVO สำหรับโช๊คหลังมาใช้ นอกจากนี้ในส่วนของแชสซี ยังคำนึงถึงความสามารถควบคุมแฮนด์และบังคับทิศทางได้อย่างแม่นยำ รวมไปถึงการควบคุมการทรงตัวและระบบเบรกที่เฉียบขาดเป็นหัวใจสำคัญ โดยคงเอกลักษณ์ของการขับขี่แบบโรดสเตอร์ไว้ให้กับบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R อย่างเต็มเปี่ยม
ฟังก์ชั่นรอบด้านบนแผงหน้าปัด แสดงมาตรความเร็วแบบอนาล็อก ระบบอิเล็กทรอนิกส์และข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่
แผงหน้าปัดบนบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R ได้รับการออกแบบสู่ยุคใหม่ของการขับขี่แบบโรดสเตอร์ โดยแสดงผลมาตรวัดความเร็วแบบดั้งเดิมด้วยเข็มอนาล็อก แต่เสริมด้วยจอแสดงผล TFT ที่ทันสมัยเพื่อแสดงข้อมูลขณะขับขี่อื่นๆ

 

BMW Gear Shift Assistant Pro
ปฏิวัตินวัตกรรมการผลิตมอเตอร์ไซค์ของโลกด้วยระบบ BMW Gear Shift Assistant Pro ซึ่งแต่เดิมได้รับการพัฒนาเพื่อการแข่งความเร็วโดยเฉพาะ คุณสมบัติของระบบดังกล่าวช่วยให้ผู้ขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้คลัชหรือการปิดลิ้นปีกผีเสื้อในทุกช่วงของความเร็วเครื่องยนต์ ส่งผลให้การเร่งเครื่องเป็นได้โดยไม่กระทบต่อแรงบิดแต่อย่างใด
ระบบไร้กุญแจ Keyless Ride System
ระบบไร้กุญแจช่วยให้การล็อกแฮนด์และการเปิด-ปิดฝาครอบถังน้ำมันทำได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ นอกจากนี้ยังสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยการกดปุ่มโดยที่ผู้ขี่ไม่ต้องนำกุญแจออกจากกระเป๋าแม้แต่น้อย
ปรับสัดส่วนต่างๆ ให้มีระดับต่ำลงเพื่อรูปร่างแบบโรดสเตอร์พันธุ์แท้
บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R เป็นส่วนผสมที่กลมกลืนของสมรรถนะเฉียบคมฉับไวของเครื่องยนต์บ็อกเซอร์กับการออกแบบร่วมสมัยแบบโรดสเตอร์พันธุ์แท้ ซึ่งตอบสนองการขับขี่อย่างคล่องตัวในทุกๆวัน การออกแบบใหม่ปรับระดับบริเวณด้านหน้ารวมถึงไฟของมอเตอร์ไซค์ให้ลู่ต่ำลง ไล่ไปถึงช่วงท้ายของมอเตอร์ไซค์ที่เชิดขึ้นเล็กน้อยมอบความปราดเปรียวและโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตให้กับบิ๊กไบค์โรดสเตอร์ นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R มาพร้อมกับสี Lightwhite Uni พร้อมตัวอักษรกราฟฟิกประจำรุ่น “R” ขนาดใหญ่ เฟรมสีแดงและเบรกคาลิเปอร์สีเคลือบผิวสีทอง
บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 R พร้อมให้นักบิดชาวไทยเป็นเจ้าของในราคา 1,120,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยจะได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในงานแบงค็อค มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2015 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 29 มกราคม ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2558
และพร้อมจำหน่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไปที่โชว์รูม บีเคเค มอเตอร์ไซเคิล บาเซโลนา มอเตอร์ ถ.วิภาวดี เยอรมัน ออโต้ บางนา เอ็มเอฟ มอเตอร์ราด ถ.พระราม 2 ในกรุงเทพฯ และ ณัฐ บาวาเรียน มอเตอร์ จ.อุดรธานี บาเซโลนา มอเตอร์ จ.เชียงใหม่ และเชิดชัย ออโต้เฮาส์ จ.นครราชสีมา ในต่างจังหวัด ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จะเปิดตัวโชว์รูมใหม่ที่ เยอรมัน ออโต้ แจ้งวัฒนะ ในกรุงเทพฯ และเยอรมัน ออโต้ สาขาพัทยา เร็วๆ นี้อีกด้วย

Facebook Comments
Thunyaluk Seniwongs

Recent Posts