ฮุนได ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 35
ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) เปิดตัวรถใหม่ มอบแคมเปญโดนใจ พร้อมธีม 2014 FIFA World Cup ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35
รถใหม่ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 The New Hyundai Grand Starex VIP ไมเนอร์เชนจ์ รถยนต์ Super Luxury MPV แบบ 7 ที่นั่งแท้ๆ จากโรงงาน เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบดีเซล คอมมอลเรล มาตรฐานยูโร 4 เกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล ให้กำลัง 175 แรงม้า แรงบิด 441 นิวตันเมตร
กระจังหน้าใหม่ กันชนหน้าแบบลักชัวรี่ กึ่งสปอร์ต กันชนหลังดีไซน์ใหม่ และกาบข้างสีโทนเดียว สเกิร์ตในตัว ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยางขนาด 235/60/17 ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างแบบ LED เบาะ Super VIP 1 คู่ ปรับเอนนอนและปรับที่พักขาด้วยไฟฟ้า เบาะหนังแท้ลายใหม่พร้อมหมอนรองศีรษะแบบ Butterfly ที่ให้ความสบาย
เคาน์เตอร์สไตล์ใหม่ที่ออกแบบมาให้ดูมีรสนิยมแบบ European Styling เพิ่มความหรูหราด้วยการเลือกสรรวัสดุที่มีคุณภาพและความทนทาน เพิ่มสเป็คของ จอ LCD เป็น 22 นิ้ว แบบ Full-HD และเครื่องเสียงจาก Kenwood
The New Hyundai Grand Starex Premium ไมเนอร์เชนจ์ แบบ 7 ที่นั่ง ระบบความบันเทิง จอ LCD แบบพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้าติดเพดานขนาด 10.1 นิ้ว เครื่องเล่น DVD head unit ด้านหน้า ที่นั่งคนขับมีอิสระในการปรับตำแหน่ง และความสบายบนที่นั่ง Double Super VIP Seats ล็อกเลือกตำแหน่งบนรางเลื่อนนิรภัยคู่ได้มากกว่า
เครื่องยนต์ 2500 ซีซี เทอร์โบดีเซลคอมมอน มาตรฐานยูโร 4 ให้กำลัง 175 แรงม้า แรงบิด 441 นิวตันเมตร ที่ 2000 – 2250 รอบ, เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล, เบาะนั่ง Double Super VIP Seats ปรับเอนนอนและที่รองรับต้นขาด้วยไฟฟ้า, พวงมาลัยแบบ Multi-function ปรับเครื่องเสียง, กระจกมองข้างซ้ายขวาปรับ และพับด้วยไฟฟ้า, กล้องส่องหลังขณะถอย, ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว และยางขนาด 235/60 R17, ระบบเบรค ABS, กุญแจรีโมท พร้อมระบบเซ็นทรัลล็อกและสัญญาณกันขโมย, ตกแต่งภายในด้วยลายไม้, ไฟตัดหมอก, ระบบนำทางเนวิเกเตอร์
The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD ไมเนอร์เชนจ์ 2,000 ซีซี เทอร์โบดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 184 แรงม้า ที่แรงบิดเท่าเดิม 392 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift Mode ไฟหน้าใหม่แบบ Bi-Function HID Projector ไฟท้าย LED ในรูปแบบ Combination lamp ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/60/R17 เครื่องเล่น DVD พร้อมจอ LCD screen เชื่อมต่อความบันเทิงผ่านช่องต่อ USB/AUX ระบบนำทาง GPS
อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ระบบ Smart Entry และปุ่มสตาร์ททันสมัย, ระบบไฟเลี้ยวแบบ One-Touch, เบาะหลังแบบพับได้ 60:40, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบรักษาเสถียรภาพรถยนต์ ESP (Electronic Stability Program), ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค ABS (Anti-Lock Braking System), ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ROP (Roll-Over Protection), ระบบช่วยชะลอความเร็วขณะลงทางลาดชัน DBC (Down-Hill Brake Control), ระบบป้องกันรถไหลขณะขึ้นทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control), ความสูงจากพื้น 170 มม. คล่องตัวทั้งบนทางเรียบ และเส้นทางนอกพื้นผิวถนน
รถยนต์ที่นำมาโชว์ในงาน Hyundai i40 “Stylish Sport Wagon” พัฒนาขึ้นเพื่อตลาดรถยนต์ในภูมิภาคยุโรป เครื่องยนต์ 4 สูบแบบ DOHC 16V D-CVVT 2,000 cc. เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Manual Mode ได้กำลัง 177 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ แรงบิด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4700 รอบ
ไฟหน้าแบบ Projector HID ผสานกับระบบ Adaptive Front Lighting System พร้อมไฟ LED Day Time Running Lamp ล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว หลังคากระจกไฟฟ้าแบบ Panoramic Roof และไฟท้ายแบบ LED
ภายใน พื้นที่เก็บสัมภาระ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมเบาะหลังแบบปรับระดับและพับได้แบบ 60:40 เพิ่มความจุสัมภาระได้ขนาด 1,672 ลิตร ฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมปุ่มสัมผัส ระบบปัดน้ำฝนแบบ Rain Sensor ทำงานอัตโนมัติ และไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัย 8 จุด ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างทั้งผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง และถุงลมบริเวณเข่าของผู้ขับขี่ ABS EBD BA ESP VSM และ HAC โครงสร้างตัวถังที่ผ่านการทดสอบการชน EuroNcap ระดับ 5 ดาว
นอกจากนี้ ฮุนได ยังได้นำรถยอดนิยม มาจัดแสดง The New Hyundai H-1 Elite เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลคอมมอนเรล 2.5 ลิตร 175 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ประกอบในโรงงานชั้นนำของฮุนไดในภูมิภาคอาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นโรงงานเดียวที่ประกอบรถยนต์ฮุนไดรุ่นที่ขายดีเป็นอันดับสองในประเทศไทย คือ Grand Starex VIP และ Grand Starex Premium
อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ประตูหลังแบบสไลด์สองข้าง เปิดปิดเบาแรง, เบาะโดยสารแบบ 12 ที่นั่ง ภายในขนาดใหญ่, รางเลื่อนนิรภัย 3 แถว ปรับตำแหน่งได้ละเอียดแม่นยำ, เบาะ VIP หมุนได้ 180 องศา 1 คู่, เบาะหุ้มหนังแท้, คอนโซลกลางตกแต่งลายไม้, ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย, ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
The New Hyundai H-1 Deluxe เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรลเทอร์โบ 2.5 ลิตร ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแปรผัน VGT พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ มาตรฐานมลพิษ EURO4 ให้กำลัง 175 แรงม้า แรงบิด 441 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sequential Mode, ระบบมัลติฟังค์ชั่นที่พวงมาลัย, เครื่องเล่น DVD และจอภาพ LCD ขนาด 10.1 นิ้ว, เบาะนั่งในห้องโดยสาร 12 ที่นั่ง บนรางเลื่อนนิรภัย และเบาะ VIP ที่หมุนได้ 180 องศา, ประตูห้องโดยสารเปิดสไลด์ 2 ข้าง, กระจกประตูห้องโดยสารแบบเลื่อนได้, ดิสก์เบรค 4 ล้อ และระบบ ABS, ระบบช่วงล่างหน้า คอยล์สปริงพร้อมแขนยึด แมคเฟอร์สันสตรัท 5 จุด, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ราคา 1,599,000 บาท
The New Hyundai Veloster สปอร์ตแฮทช์แบ็ก ดีไซน์ประตูแบบ 2 + 1 โดดเด่นด้วยประตูที่ 3 ทางด้านหลังซ้าย พร้อมมือจับประตูแบบ Integrated ที่ซ่อนอย่างกลมกลืน เครื่องยนต์ให้กำลัง 130 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ แรงบิด 157 นิวตัน-เมตร ที่ 4,850 รอบ มาตรฐานไอเสีย ยูโร 4 เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 11.5 วินาที
ระบบช่วงล่างหน้า – หลัง แบบ แมคเฟอร์สันสตรัท และ ทอร์ชั่นบีม CTBA, ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Key และระบบ Button Start, พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า, ระบบเบรค ABS ระบบเพิ่มแรงเบรคในภาวะฉุกเฉิน BA และระบบกระจายแรงเบรค EBD, พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง และระบบควบคุมโทรศัพท์และเครื่องเสียง พร้อมกับ Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ด้านหลังพวงมาลัย, ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/45 R 17, จอ LCD แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว, โครงสร้างนิรภัยแบบ High – Tensile Steel สำหรับเสากลางและจุดสำคัญต่างๆ ทั่วตัวรถ
Hyundai Veloster Sport Turbo สปอร์ต แฮทช์แบ็ก ดีไซน์ประตูแบบ 2 + 1 โดดเด่นด้วยประตูที่ 3 ทางด้านหลังซ้าย พร้อมมือจับประตูแบบ Integrated ที่ซ่อนอย่างกลมกลืน กำลัง 186 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ แรงบิด 265 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 4,500 รอบ ระบบเทอร์โบอัดอากาศแบบ Twin-Scroll Turbocharger ประสิทธิภาพดีขึ้น 7 – 8% ประหยัดเชื้อเพลิงดีขึ้นกว่าธรรมดาถึง 5% ความเร็วสูงสุด 214 กม./ชม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 8.1 วินาที ระบบช่วงล่างหน้า –หลัง แบบแมคเฟอร์สันสตรัท และ ทอร์ชั่นบีม CTBA
หลังคาแก้ว Panoramic Sunroof, ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control, มาตรวัดเรืองแสง Super Vision, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบดันหลัง Lumbar Support, ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Key และระบบ Button Start, พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า, ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP ระบบเสริมสมรรถนะการควบคุมพวงมาลัย VSM ระบบแทรคชั่นคอนโทรล TCS และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบเบรค ABS ระบบเพิ่มแรงเบรคในภาวะฉุกเฉิน BA และระบบกระจายแรงเบรค EBD, ล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/40 R 18, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า + ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย, โครงสร้างนิรภัยแบบ High – Tensile Steel สำหรับเสากลางและจุดสำคัญต่างๆทั่วตัวรถ
แคมเปญพิเศษในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35
Hyundai H-1 Elite and Deluxe ราคาเริ่มต้นที่ 1,449,000 บาท, ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
Hyundai Grand Starex VIP and Premium Minor Change ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
Hyundai Tucson 2.0D 4WD Minor Change ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
Hyundai Veloster (Veloster and Veloster Sport Turbo) ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
นิสสัน นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ โดนใจทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมโปรโมชั่น ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดให้ทดลองขับอย่างจุใจ นำด้วยดาวเด่น “นิสสัน ลิวิน่า” คอมแพ็ค เอสยูวี ขนาด 1.6 ลิตร “นิสสัน พัลซาร์ DIG Turbo” เครื่องยนต์เทอร์โบ เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่น ขนาด 1.6 ลิตร และ “นิสสัน จู๊ค จ๊อยท์เอดิชั่น” รุ่นลิมิเต็ด พร้อมพลังงานทางเลือก ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าด้วยก๊าซซีเอ็นจี กับ “นิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี” “นิสสัน ซิลฟี ซีเอ็นจี” และ “นิสสัน เออร์แวน ซีเอ็นจี” พร้อม โครงการ “นิสสัน จีที อคาเดมี” มอเตอร์สปอร์ตระดับอินเตอร์ ซึ่งเปิดเวทีแข่งขันพิเศษ สนามแรก ณ บูธนิสสัน (A7) งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2557
รถคอมแพ็คอเนกประสงค์ นิสสัน ลิวิน่า เครื่องยนต์ HR16DE 1.6 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบหัวฉีดคู่ (Dual Injector System) ผสานกับระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC ให้กำลัง 114 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ แรงบิด 153 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ ระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง
นิสสัน ลิวิน่า มาพร้อม เครื่องเล่น DVD กุญแจอัจฉริยะ Immobilizer ทุกรุ่นมากับสัญญาณกันขโมย มีจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 1.6E MT รุ่น 1.6E CVT และรุ่น 1.6V CVT ราคาเริ่มต้น 672,000 บาท มีให้เลือก 5 สี คือ สีขาวไวท์โซลิด สีเทาทไวไลท์เกรย์ สีแดงเบิร์นนิ่งเรด สีเงินบริลเลียนท์ซิลเวอร์ และสีดำแบล็คโซลิด
นิสสัน พัลซาร์ DIG Turbo นิสสัน พัลซาร์ DIG Turbo เครื่องยนต์เทอร์โบ เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่น 1.6 ลิตร รหัส MR16DDT เทอร์โบชาร์จเจอร์ ผสานกับการทำงานของระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลัง 190 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ แรงบิด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 รอบ เกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT พร้อมฟังก์ชั่นเกียร์ Manual Mode 6 สปีด ปรับการทำงานของระบบเบรกให้มั่นใจยิ่งขึ้น ด้วยจานเบรกที่ขยายใหญ่ ระบบบังคับเลี้ยวและระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งขึ้นเป็นพิเศษ ให้ค่าสปริงโช้คอัพหนึบขึ้น
ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamics Control: VDC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System: TCS) พร้อมระบบถุงลม 6 จุด รอบคัน ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (SRS Airbags) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และม่านถุงลมด้านข้าง (Curtain Airbags) ราคา 1,070,000 บาท
นิสสัน จู๊ค จ๊อยท์เอดิชั่น รุ่นลิมิเต็ด มิกซ์แอนด์แมทช์สีสันบนตัวถังรถ สปอยเลอร์ และกระจกมองข้าง พร้อมแต่งสติ๊กเกอร์จากหน้าจรดท้าย และสัญลักษณ์ Joint Edition ท้ายรถ บ่งบอกรสนิยมโดดเด่นไม่ซ้ำใคร จำนวนจำกัดเพียงสีละ 100 คัน เท่านั้น
เครื่องยนต์ล้ำสมัย HR16 1.6 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบหัวฉีดคู่ (Dual Injector System) ผสานกับระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC และระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT กำลัง 116 แรงม้า 5,600 รอบ แรงบิด 154 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ ราคา 863,000 บาท
รถยนต์พลังงานทางเลือก “นิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี” “นิสสัน ซิลฟี ซีเอ็นจี” และ “นิสสัน เออร์แวน ซีเอ็นจี” ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าเดิมด้วยระบบ Bi-fuel รับประกันคุณภาพตามมาตรฐานของนิสสัน ขับเคลื่อนสะอาดกว่าด้วยก๊าซธรรมชาติ CNG และน้ำมันเบนซิน
นิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร รหัส QR25DE ให้กำลัง 154 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ แรงบิด 242 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ มีให้เลือก 5 สีในรุ่นคิงส์แคบ คือ สีเงินบริลเลี่ยนท์ซิลเวอร์ สีขาวไวท์เพิร์ล สีน้ำตาลเกรย์ยิชบรอนซ์ สีดำแบล็กสตาร์ และสีเทา ทไวไลท์เกรย์ ส่วนในรุ่นซิงเกิ้ลแคบ มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี คือ สีเงินบริลเลี่ยนท์ซิลเวอร์ สีขาวไวท์โซลิด และน้ำตาลเกรย์ยิชบรอนซ์ ราคาเริ่มต้น 537,500 บาท
นิสสัน ซิลฟี ซีเอ็นจี เครื่องยนต์รุ่น HR16DE 1.6 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบหัวฉีดคู่ Dual Injector ผสานระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC ให้กำลัง 116 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ แรงบิด 154 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ ระบบโซลินอยด์วาล์ว ใช้งานสะดวกด้วยสวิตช์ปรับเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิง มีให้เลือก 6 สี คือ สีเทาดีพไอริสเกรย์ สีขาวไวท์เพิร์ล สีดำแบล็คสตาร์ สีเงินบริลเลียนท์ซิลเวอร์ สีแดงเรเดียนท์เรด และสีน้ำตาลเกรย์ยิชบรอนซ์ ราคา 864,000 บาท
รถตู้นิสสัน NV350 เออร์แวน ซีเอ็นจี ใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร รหัส QR25DE ให้กำลัง 147 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ แรงบิด 213 นิวตัน-เมตรที่ 4,400 รอบ ติดตั้งถังซีเอ็นจี ความจุถังละ 100 ลิตร จำนวน 2 ถัง ติดตั้งวาล์วพิเศษ ณ บริเวณหัวรับเชื้อเพลิง มีจำหน่าย 2 รุ่น คือ จำนวนเบาะผู้โดยสาร 16 ที่นั่งในรุ่นเกียร์ธรรมดา และจำนวนเบาะ 12 ที่นั่งในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ มีให้เลือก 5 สี คือ สีขาวไวท์โซลิด สีเงินบริลเลี่ยนท์ซิลเวอร์ สีเทาเบลดซิลเวอร์ สีดำแบล็คโซลิด และสีน้ำตาลไทเกอร์อายบราวน์ ราคาเริ่มต้น 1,251,000 บาท
มาสด้า3 ใหม่ สกายแอคทีฟ ควงมาสด้า CX-5 และมาสด้า2 เรซซิ่ง ซีรี่ส์ อวดโฉมงานมอเตอร์โชว์
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำรถรุ่นใหม่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ โชว์งานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 35 รถยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน มาสด้า3 ใหม่ สกายแอคทีฟ ถูกพัฒนาให้เป็นรถญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ล่าสุด i-ACTIVSENSE พร้อมระบบเชื่อมต่อกับโลกโซเชียลสุดไฮเทค MZD Connect ที่สมบูรณ์แบบและล้ำสมัย ในราคาของรุ่นเริ่มต้นเพียง 833,000 บาท
นายโชอิชิ ยุกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวแนะนำสกายแอคทีฟสปอร์ตคอมแพ็คมาสด้า3 ใหม่ล่าสุด สีแดงพิเศษ โซลเรด Soul Red ที่มาสด้าใช้เป็นสีเปิดตัวรถใหม่เจนเนอเรชั่นที่ 6 ถือเป็นบทพิสูจน์ความแรงและประหยัดของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟจากผู้ใช้จริง นอกจากนี้ยังมีรถยนต์นั่งมาสด้า2 ขวัญใจคนรุ่นใหม่ ที่ตกแต่งเป็นรุ่นพิเศษ Racing Series ลิมิเต็ด เอดิชั่น “DARK EDITION” และรถสปอร์ตปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ทั้งนี้เราตั้งเป้ายอดจองไว้สูงสุดถึง 3,000 คัน โดยเฉพาะมาสด้า3 เราตั้งเป้ายอดจองไว้สูงถึง 1,500 คัน
พร้อมกันนี้มาสด้ายังเอาใจสาวกสายพันธุ์สปอร์ตรุ่นเล็ก ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตเรซซิ่งตัวจริง ด้วยการจับมาสด้า2 สปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู และเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู มาเติมแต่งสร้างสีสันเสริมความเป็นสปอร์ตรอบคัน กับเจ้าตำนานยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ต Mazda2 Racing Series 2014 รุ่นพิเศษ “DARK EDITION” และ RACING KIT มีให้เลือกระหว่างสีแดงทรูเรด และสีขาวมุกสโนว์เฟลค วางราคาจำหน่ายเพียง 672,000 บาท ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 600 คันเท่านั้น
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานฝ่ายการตลาด กล่าวว่า มาสด้าได้นำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง สกายแอคทีฟ เทคโนโลยี ทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี (เบนซิน) เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ-ไดร์ฟ รวมถึงเครื่องจำลอง HMI (Human Machine Interface) ซึ่งเป็นการนำเอาเครื่องจำลองจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อสาธิตระบบการเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ของมาสด้าที่มีอยู่ในมาสด้า3 ใหม่ MZD Connect มาช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการเชื่อมต่อมไร้สายให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยใหม่ล่าสุดที่เพิ่มสัญชาตญาณระวังภัยให้แก่รถและผู้ขับขี่ และช่วยในการปกป้องด้านความปลอดภัยสำหรับทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร ระบบ SCBS (Smart City Brake Support) เพิ่มทัศนะวิสัยและการขับขี่ในเมืองเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น เซ็นเซอร์ที่ด้านหน้าจะสั่งหยุดรถอัตโนมัติ เมื่อพบสิ่ง กีดขวางในกรณีที่ผู้ขับไม่ได้สั่งหยุดรถเองได้ ในขณะที่ระบบ RVM (Rear Vehicle Monitoring) มีส่วนช่วยผู้ขับอย่างมากเช่นกัน ระบบพร้อมส่งสัญญาณเตือนผู้ขับให้ใช้ความระมัดระวัง ในการเปลี่ยนเลนมากยิ่งขึ้น
แคมเปญสุดพิเศษภายในงานนี้ เลือกรับดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ นาน 72 เดือน สำหรับรถมาสด้า3 รุ่นก่อนปรับโฉม หรือ สำหรับมาสด้า2 และ มาสด้า บีที-50 โปร ดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ นาน 48 เดือน หรือดอกเบี้ยพิเศษ 0.99 เปอร์เซ็นต์พร้อมฟรีประกันชั้น 1 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 6 เมษายนนี้ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ และที่โชว์รูมมาสด้ากว่า 150 แห่งทั่วประเทศ
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม “Outlander PHEV” เอสยูวีหรูขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบ Plug-in hybrid ร่วมโชว์ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 35 และรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆคับคั่ง ข้อเสนอสุดพิเศษดอกเบี้ยต่ำสุด 0% และฟรีประกันภัยชั้น 1 ในงานมอเตอร์โชว์และที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ
มร. มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มิตซูบิชิ นำรถยนต์มิตซูบิชิ “Outlander PHEV” รถ SUV ขับเคลื่อน 4 ล้อ พลังงานไฟฟ้าแบบ Plug-in hybrid รุ่นแรกของโลกที่ผ่านการแข่งขัน Asia Cross Country Rally 2013 ร่วมแสดงเป็นไฮไลท์ของงาน ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เตรียมข้อเสนอพิเศษ “มิตซูบิชิ ฮัลโหล มอเตอร์โชว์” ให้กับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิในงานและที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศในช่วงนี้ด้วยดอกเบี้ยต่ำสุด 0% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และเลือกรับฟรีอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าสูงสุด 50,000 บาท อีกด้วย
รถยนต์มิตซูบิชิในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 รถยนต์มิตซูบิชิ “Outlander PHEV” รถยนต์ SUV แบบ plug-in hybrid คันแรกของโลก ถือเป็นบททดสอบที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบของระบบการทำงานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า plug-in hybrid พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Twin-motor ระบบ S-AWC ที่ให้สมรรถนะเป็นอย่างดี
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2014 รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สปอร์ตหรูหรา โฉบเฉี่ยว และภูมิฐาน ทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อมแนวคิด “Step Up In Life- ความมั่นใจอีกขั้นของชีวิต” ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กับเทคโนโลยี “All Wheel Control”
มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปี 2014 ดีไซน์กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถในทุกรุ่น และพวงมาลัยสไตล์ซิลเวอร์เดคคอเรชั่น ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่ รวมทั้งเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติพร้อมระบบผ่อนแรง และระบบเครื่องเสียงใหม่ DVD CD MP3 และช่องต่ออุปกรณ์ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone พร้อมระบบนำทางในรถยนต์ และแนะนำสีใหม่ “ไทเทเนียม”
มิตซูบิชิ มิราจ พร้อมชุดแต่งลิขสิทธิ์แท้ ฮัลโหล คิตตี้ ออกแบบมาเพื่อคนที่ชื่นชอบความน่ารักและสดใสของฮัลโหล คิตตี้ มีชุดตกแต่งให้เลือกทั้งภายนอกและภายใน รับประกันคุณภาพ 3 ปีหรือ 60,000 กิโลเมตร สำหรับโดยชุดตกแต่งภายนอก สติกเกอร์ 6 ชิ้น ชุดตกแต่งฝากระโปรงหน้า ประตูข้าง 4 ประตู ประตูท้าย เพิ่มความน่ารักด้วยมือจับประตูด้านนอกสีชมพู ฝาปิดถังน้ำมันลายโบว์สีแดง และ สปอยเลอร์หลังสีชมพู ภายใน ผ้าคลุมเบาะพิเศษ และแผ่นรองวางของลายฮัลโหล คิตตี้
มิตซูบิชิ แอททราจ คล่องตัวในการขับขี่ ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย และให้การประหยัดน้ำมัน คุ้มค่าจากอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยที่ครบครันและพละกำลังที่เพียงพอสำหรับการใช้งาน
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ รุ่นปี 2013 ชุดแต่งโครเมียมเพิ่มความสปอร์ต พร้อมห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 ขนาด เครื่องยนต์ Flexible Fuel Vehicle หรือ FFV ขนาด 1.8 ลิตร รองรับการใช้น้ำมันตั้งแต่เบนซินธรรมดาไปจนถึงแก๊สโซฮอล์ อี 85 และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รองรับแก๊สโซฮอล์ อี 20
จีเอ็ม ประเทศไทย จะยื่นความจำนงเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ เฟส 2
เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกาศในวันนี้ว่า จะยื่นความจำนงเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ เฟสที่ 2 ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทยหรือบีโอไอ
“เป้าหมายของจีเอ็มในการพัฒนาและผลิตรถเชฟโรเลตรุ่นใหม่ในประเทศไทย สอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการอีโคคาร์” มร.มาร์คอส เพอร์ตี กรรมการผู้จัดการคนใหม่ของจีเอ็ม ประเทศไทย กล่าว “การยื่นความจำนงเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์นี้ เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของจีเอ็มในการลงทุนในประเทศไทยและทำให้ศูนย์การผลิตในจังหวัดระยองเป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์เพื่อการส่งออกระดับโลก การลงทุนครั้งนี้ยังช่วยยกระดับเป้าหมายในระยะยาวของเรา ในการสร้างเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วน (ซัพพลายเออร์) ระดับภูมิภาคอันยอดเยี่ยม”
โครงการอีโคคาร์มีข้อกำหนดให้บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ในประเทศไทย ผลิตรถรุ่นใหม่ที่มีการประหยัดเชื้อเพลิง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความปลอดภัยและต้นทุนต่ำ เพื่อจำหน่ายทั่วทั้งภูมิภาคภายในอีกหกปีข้างหน้า อีโคคาร์จะมีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตภายในประเทศจำนวนมาก ทั้งส่วนตัวถังและเครื่องยนต์
รายละเอียดเพิ่มเติมของการเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 ของจีเอ็ม จะได้รับการเปิดเผยอีกครั้ง
มร มาร์คอส เพอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ เจนเนอรัล มอเตอร์ และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เปิดตัว เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปี 2014 พร้อมกับประกาศการเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 35
เชฟโรเลต ประเทศไทย ตั้งคำถาม “What Do You #PlayFor?” ให้ผู้เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลต เลือกสัมผัสกับความพิเศษมากมายภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นการลุ้นรับของที่ระลึกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การสนับสนุนโครงการวัน เวิลด์ ฟุตบอล การทดสอบขับรถเชฟโรเลต รุ่นล่าสุด หรือเลือกจับจองรถเชฟโรเลต ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ
รถใหม่ที่เปิดตัวภายในงานปีนี้ ได้แก่เชฟโรเลต แคปติวา รถเอสยูวีรุ่นปรับโฉมปี 2014 พร้อมด้วยโคโลราโด สปอร์ต รถกระบะขนาดกลางรุ่นพิเศษ
แคปติวา 2014 ปรับโฉมรูปลักษณ์ สมรรถนะการขับขี่ที่ปราดเปรียวและทรงพลัง มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการรถเอสยูวีที่มีรูปลักษณ์สะดุดตา ภายในห้องโดยสารหรูหราและสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น พร้อมระบบเข้า-ออกห้องโดยสารที่ไม่ต้องใช้กุญแจ (Passive Entry Passive Start – PEPS) อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อกประตูและสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้องถือกุญแจไว้ในมือ
ภายในห้องโดยสารยังมีระบบควบคุมอากาศดูอัลโซน เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าสามารถปรับอุณหภูมิแยกส่วน สวิทช์ควบคุมบนพวงมาลัยเป็นแบบเรืองแสงเพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจน เมื่อแสงสว่างไม่เพียงพอ
รูปลักษณ์ภายนอก ปรับดีไซน์กันชนหน้าใหม่ พร้อมฝาครอบไฟตัดหมอกที่ให้ความหรูหรา กันชนหลังออกแบบใหม่คู่กับปลายท่อไอเสียโครเมียมและกรอบไฟหลังสไตล์ใหม่ ติดตั้งบันไดข้างสแตนเลส เฉพาะรุ่น 2.0 ดีเซล LTZ อย่างเดียว รุ่น LT ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
เครื่องยนต์เดิม เบนซิน 4 สูบ 2.4 ลิตร E85 เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) 16 วาล์ว ระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) อีกหนึ่งเป็นดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงคอมมอนเรลแรงดันสูง
เชฟโรเลต โคโลราโด สปอร์ต รถกระบะขนาดกลางรุ่นพิเศษ มีจำนวนการผลิตเพียง 500 คัน รูปโฉมภายนอก ติดตั้งเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์แอลอีดี (LED Daylight Running Lights) เหล็กกันชนหน้า โครงเหล็กเสริมกระบะหลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม ล้ออัลลอย 17 นิ้ว บันไดข้างและสติกเกอร์สปอร์ตเอดิชั่น มีให้เลือกทั้งสีดำ Black Sapphire สีขาว Summit White และสีส้ม Orange Rock
ระบบอินโฟเทนเมนท์ ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ เครื่องเล่นดีวีดีและระบบเชื่อมต่อยูเอสบี ที่สามารถเล่นเพลงโปรดได้ตามต้องการ สองรุ่นย่อยคือ โคโลราโด ครูว์-แค็บ 2.5 ลิตร ยกสูง ขับเคลื่อนสองล้อและเอ็กซ์เทนเด็ด-แค็บ 2.5 ลิตร ยกสูง ขับเคลื่อนสองล้อ
เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลต ภายในงานมอเตอร์โชว์ยังสามารถร่วมลุ้นยิงประตูที่มุม “What Do You #PlayFor?” สามารถใช้ทักษะฟุตบอลเพื่อคว้าของที่ระลึกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งนี้ “What Do You #PlayFor?” เป็นแคมเปญระดับโลกของเชฟโรเลต ในการจุดประกายและดึงให้แฟนฟุตบอลมีความใกล้ชิดกับเกมลูกหนังมากยิ่งขึ้น
ข้อเสนอพิเศษในการจับจองเชฟโรเลต นำเสนอซูเปอร์ดีล ฟรีประกันภัยสองปีสำหรับรถทุกรุ่น พร้อมส่วนลดพิเศษที่น่าสนใจในแต่ละรุ่น ดังนี้
เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ และ แคปติวา เริ่มต้นที่ 999,000 บาท
เชฟโรเลต โคโลราโด เริ่มต้นที่ 544,000 บาท
เชฟโรเลต โซนิค ดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ นาน 60 เดือน
เชฟโรเลต ครูซ พร้อมโปรแกรมฟรีค่าดูแลรักษา 5 ปี
เชฟโรเลต สปิน ดอกเบี้ย 0.99% นาน 48 เดือน
พบข้อเสนอสุดพิเศษนี้ ได้ตั้งแต่วันนี้ ที่ศูนย์ผู้แทนจำหน่ายเชฟโรเลต ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 1734 หรือชมเว็บไซต์ ww.chevrolet.co.th
ฟอร์ด เปิดตัวเอเวอเรสต์ คอนเซ็ปต์ เอคโค่สปอร์ต ใหม่ และ เฟียสต้า ใหม่
ฟอร์ด ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35” เปิดตัวรถยนต์ใหม่ล่าสุดของภูมิภาคอาเซียน 2 รุ่น ฟอร์ด เฟียสต้าใหม่ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ทีไอ-วีซีที และฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ใหม่ เอสยูวีสำหรับคนเมืองที่มีจุดเด่นในด้านการประหยัดน้ำมัน
การเปิดตัว เฟียสต้า ใหม่ และเอคโค่สปอร์ต ใหม่ ฟอร์ดมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นทั้งสองรุ่นนี้จะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันเพิ่มยอดขายของฟอร์ดในตลาดโลกโดยรวมได้อย่างแน่นอน
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ คอนเซ็ปต์ การพัฒนารถเอนกประสงค์ 7 ที่นั่ง เพื่อตลาดภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลก เป็นบทพิสูจน์ล่าสุดถึงการความมุ่งมั่นของฟอร์ด ในการนำยานยนต์คุณภาพระดับโลกหลากหลายรุ่นมาจำหน่าย
ฟอร์ดเพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์ให้กับเฟียสต้า ใหม่ ด้วยการเปิดตัวเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ทีไอ-วีซีที พร้อมระบบเกียร์พาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด ที่ประหยัดน้ำมัน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กียร์พาวเวอร์ชิฟท์สามารถใช้งานได้สะดวกแบบเกียร์อัตโนมัติ แต่ยังตอบสนองการใช้งานได้เร็วแบบเกียร์ธรรมดา
กระจังหน้าสไตล์สปอร์ตทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ฟอร์ด ซิงค์ ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารด้วยคำสั่งเสียง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เสียงควบคุมโทรศัพท์และเครื่องเสียงได้ โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัยหรือละสายตาจากถนน
เฟียสต้า 1.5 ลิตร ใหม่ ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 569,000 บาท สำหรับรุ่น 4 ประตู แอมเบียนท์ เกียร์ธรรมดา จนถึงราคา 719,000 บาท สำหรับรุ่น 4 ประตู ไทเทเนี่ยม และ 5 ประตู สปอร์ต เกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด
เอคโค่สปอร์ต ใหม่ เอสยูวีสำหรับคนเมือง ผลิตขึ้นที่โรงงาน ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) จังหวัดระยอง เพื่อการจำหน่ายในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคอาเซียน
พร้อมระบบ ฟอร์ด ซิงค์ อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดี พื้นที่เก็บของกว้างขวาง สามารถขับผ่านน้ำสูงได้ 550 มิลลิเมตร มีความสูงจากพื้นถึงท้องรถ 200 มิลลิเมตร
ฟอร์ดมีกิจกรรมที่หลากหลายที่นำมาจัดแสดงเพื่อให้ผู้เข้าชมบูธ ได้รับความสนุกสนานและความเข้าใจในเทคโนโลยีล้ำสมัยในรถยนต์ฟอร์ด ทั้งโซนถ่ายภาพ “EcoBoost Me” เพื่อสื่อถึงพละกำลังของเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ ด้วยพัดลมแรงสูง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับภาพถ่ายตนเองขณะโดนพัดลมทรงพลังเป่าใส่ใบหน้า โดยสามารถแชร์ภาพประสบการณ์นี้ได้กับเพื่อนๆในโลกออนไลน์
ฟอร์ดยังเปิดตัว แอพพลิเคชั่น “Ford Roadside Assistance” แอพพลิเคชั่นที่ลูกค้าฟอร์ดสามารถลงโปรแกรมไว้ในโทรศัพท์ และใช้แอพนี้ติดต่อขอขอความช่วยเหลือได้ทันที โดยที่
แอพพลิเคชั่น “Ford Roadside Assistance” จะระบุตำแหน่งที่ลูกค้าอยู่ รายละเอียดของรุ่นรถยนต์ที่ลูกค้าใช้ และส่งข้อมูลไปที่ศูนย์บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ทำให้เจ้าหน้าที่ทำการช่วยเหลือลูกค้าที่เกิดปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
ฟอร์ดยังมีข้อเสนอดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ โปรแกรมขยายความคุ้มครอง (Premium Protection Plus; PPP) ที่จะขยายระยะเวลาการรับประกันจาก 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร เพิ่มออกไปอีก 2 ปีหรือ 40,000 กิโลเมตร หรือเท่ากับรับประกันรวม 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร
ลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกสิกรไทย สามารถเข้าร่วมโปรแกรมขับขี่อุ่นใจได้ภายใต้โปรโมชั่นผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ 10 เดือนที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ โปรโมชั่นดาวน์ 25 เปอร์เซ็นต์ ผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ และประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 48 เดือน
ลูกค้าที่จองรถยนต์ฟอร์ด เฟียสต้า ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ฟอร์ด เรนเจอร์ (รุ่น XL – เบนซิน, XLT และ XLS) ฟอร์ด เทอร์ริทอรี ฟอร์ด เอเวอเรสต์ หรือฟอร์ด เอสเคป 4×4 XLT+ จะได้รับประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี
สำหรับผู้สั่งจอง ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ จะได้รับดอกเบี้ย ผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ ข้อเสนอดาวน์ 20 เปอร์เซ็นต์ นาน 72 เดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่งฟรีเช่นกัน
นอกจากนี้ ฟอร์ดยังนำเสนอรถยนต์อเนกประสงค์ ฟอร์ด เอสเคป ที่ราคาพิเศษ 999,000 บาท สำหรับรุ่น 4×2 XLT+ และ 1,099,000 บาท สำหรับรุ่น 4×4 XLT+ พร้อมดาวน์ 25 เปอร์เซ็นต์ ผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ นาน 48 เดือน
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ดาวน์ 25 เปอร์เซ็นต์และผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ 48 เดือน ลูกค้าสามารถพบกับข้อเสนอพิเศษทั้งหมดนี้ได้ที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศจนถึงวันที่ 15 เมษายน ศกนี้
พบกับ เลกซัส ES300h รถซีดานไฮบริด ภายใต้แนวคิด L-Finesse
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดบูธ เลกซัส ภายใต้แนวคิด “L-Finesse” ที่แสดงถึงยนตรกรรมอันล้ำสมัย ผสานลายเส้นของการออกแบบที่พิถีพิถัน รถซีดานไฮบริดสุดหรู Lexus ES300h เเละรถยนต์เลกซัสหลากหลายรุ่น ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 35 ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
“เลกซัสกรุ๊ป” เข้าร่วมแสดงยานยนต์ ภายใต้แนวคิด “L-Finesse” สะท้อนถึงยนตรกรรมที่สมบูรณ์แบบ อันเกิดจากการผสมผสานระหว่างความล้ำหน้าของเทคโนโลยี สมรรถนะอันยอดเยี่ยม และศิลปะในการออกแบบที่เน้นความปราณีตพิถีพิถัน จนประกอบเป็นยนตรกรรมชั้นเลิศของเลกซัส
เลกซัส ES300h ใหม่ รถซีดานสุดหรู ที่โดดเด่น สง่างาม ล้ำสมัย แฝงไว้ซึ่งความสปอร์ตเร้าใจ การออกแบบที่ผสมผสานสรีรศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ถือเป็นนิยามใหม่ของรถซีดานสุดหรู ที่เน้นทั้งสมรรถนะในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และความสะดวกสบาย รวมถึงความประณีตพิถีพิถันในทุกรายละเอียด
เลกซัสได้แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 4 โซน โซนแรกได้จัดแสดงรุ่นที่เป็นไฮไลท์ของงาน Lexus ES300h รถซีดานไฮบริดสุดหรู ที่เหมาะสำหรับระดับผู้บริหาร โซนที่สองจัดแสดงรถยนต์เลกซัสในหลากหลายรุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการในทุกระดับ อาทิ IS300h CT200h GS300h RX270 และ RX450h โซนที่สามจัดแสดงรถยนต์ ในดีไซน์สปอร์ต อาทิ IS250 F-Sport CT200 F-Sport และ GS250 F-Sport สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบความเเตกต่างไม่เหมือนใคร และโซนสุดท้ายที่จัดแสดงรถยอดนิยมของทางเลกซัส ซึ่งได้แก่ LS600h และ ES300h
เลือกเป็นเจ้าของ ยนตรกรรมชั้นเลิศ จากผู้แทนจำหน่าย เลกซัส อย่างเป็นทางการทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด (พระราม 9) โทร. 0 2716 8999, บริษัท เลกซัส สุขุมวิท จำกัด (สุขุมวิท 18) โทร. 0 2260 8123, บริษัท เลกซัส ออโต้ซิตี้ จำกัด (รามอินทรา กม. 2) โทร. 0 2521 1111
รถยนต์เลกซัสทุกรุ่นที่ซื้อจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ จะได้รับการรับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมรับสิทธิ์เป็นสมาชิก Lexus Club พร้อมเพิ่มความอุ่นใจในทุกการเดินทางด้วย เลกซัส เซอร์วิส คอร์เนอร์ ทั้ง 10 แห่ง ทั่วประเทศ
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…