นอร์เวย์ ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้า

ประเทศนอร์เวย์ ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า กันค่อนข้างมาก แม้ว่าจะมีปัญหาการคายประจุของชุดแบตเตอรี่ ในอุณหภูมิต่ำ ทำให้สูญเสียพลังงานจากชุดแบตเตอรี่จำนวนมาก ทำให้ได้ระยะการเดินทางน้อยลง แต่กระนั้น สหพันธ์รถยนต์นอร์เวย์ Norwegian Automobile Federation หรือ NAF ได้นำรถยนต์ไฟฟ้า ที่จำหน่ายในปัจจุบัน 20 ยี่ห้อ มาทดสอบร่วมกัน

การทดสอบนี้ กระทำในสภาพพื้นที่อากาศหนาว ในกรุงออสโลว์ ด้วยระยะทางทั้งหมด 482 กม. เพื่อตรวจสอบรถรุ่นใหม่ๆ ที่คุยว่ามีระยะเดินทางไกลๆ ให้ได้ผลทดสอบในครั้งเดียว โดยเริ่มต้นจากในเมือง ขึ้นทางด่วน และเส้นทางบนภูเขา ด้วยความเร็วตั้งแต่ 60-110 กม./ชม. ด้วยข้อแม้ที่ต้องวิ่งให้ชุดแบตเตอรี่ หมดประจุในการใช้งานอย่างแท้จริง และต้องการชาร์จประจุใหม่

นอกจากนั้น ยังทดสอบการชาร์จ จากประจุไฟฟ้า เหลือในชุดแบตเตอรี่ ราว 10% ให้ได้อย่างน้อย 80% โดยชาร์จในขณะที่อุณหภูมิ -2 องศา เซ็นติเกรท -2ºC โดยรถทุกคันจะต้องวิ่งมาแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าชุดแบตเตอรี่ มีอุณหภูมิอยู่ในสภาพใช้งานจริง

สิ่งที่สหพันธ์ค้นพบอย่างแรก หรือรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น จะวิ่งได้ระยะทางน้อยกว่าที่ระบุในแคตตาล็อก 18.5% โดยรถรุ่นที่วิ่งได้น้อยที่สุด คือ โอเปิล แอมเพอร่า-อี Ampere-e หรือ เชฟวี่ โบลต์ ที่เรารู้จักกัน ระบุในแคตตาล็อกว่า วิ่งได้ 423 กม. แต่วิ่งได้จริงเพียง 296.9 กม. น้อยกว่าที่ระบุ 29.81%

ส่วนยี่ห้อที่วิ่งได้ระยะทางใกล้เคียงมากที่สุด คือ ฮุนได โคน่า Kona ระบุในเอกสารว่าวิ่งได้ 449 กม. สามารถทำได้ 404.5 กม. น้อยกว่าที่ระบุเพียง 9.91% เท่านั้น

แต่สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง คือการชาร์จประจุจาก 10% ให้ได้ 80% รถยนต์ ออดี้ อี-ทรอน 55 e-tron 55 ควอตโตร ใช้เวลาเพียง 27 นาที ในการชาร์จได้ 80% นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ มียอดขายสูงสุดในนอร์เวย์ เดือนมกราคม และ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ส่วนรุ่นที่ทำได้แย่ที่สุด ยังคงเป็น แอมเพอร่า-อี ที่ไม่สามารถทนกระแสไฟได้มากกว่า 45 กิโลวัตต์ โดยไม่มีชุดระบายความร้อนชุดแบตเตอรี่ ทำให้สูญเสียประจุอยู่ตลอดเวลา และใช้เวลาถึง 95 นาที กว่าจะได้ความจุ 80%, ยี่ห้อ เรโนลต์ ใช้เวลา 65 นาที ขณะที่ นิสสัน ซึ่งไม่มีชุดระบายความร้อนชุดแบตเตอรี่ ก็ใช้เวลาถึง 75 นาที

สิ่งที่ช่วยยืนยันความเชื่อของผู้คนทั่วไป อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า จะหยุดวิ่งเมื่อหมดประจุในชุดแบตเตอรี่ โดยจะสามารถรักษาความเร็ว ได้จนถึงกม. สุดท้าย จะออกอาการแสดงว่าแบตเตอรี่ หมดอายุ เช่น เร่งไม่ขึ้น ทำความเร็วไม่ได้ บางยี่ห้อ หยุดเพราะความร้อนของชุดแบตเตอรี่ 

“ข้อเท็จจริงที่น่าตลก คือ คุณสามารถใช้งานได้ จนกระทั่งหมดพลังงานจริงๆ สามารถวิ่งได้ระยะทางเพิ่มอีกเล็กน้อย จากนั้น ให้หยุดรถ ปิดสวิทช์ สักชั่วขณะ อาจถึงครึ่งชั่วโมง ก็จะมีพลังงานที่วิ่งได้อีกเล็กน้อย ซึ่งช่วยให้สามารถวิ่งไปถึงจุดชาร์จไฟฟ้า ได้” NAF กล่าว

เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่: NAF

http://https://m.youtube.com/watch?ebc=ANyPxKqWeFuBpkzQcH68pFjJ-CeqJA2uZWAcj2cTY_vYxcgalcJVpUXvD_ae5MBfEyczLiRR2ZVthHfDEi4db2rhmGONhFPqhw&feature=emb_logo&v=sXluYeNOJ6g

Facebook Comments