ทาทา มอเตอร์ส ใช้ไทยเป็นฐานผลิตส่งออก เตรียมจำหน่ายรถกระบะใน มาเลเซีย เวียดนาม และออสเตรเลีย
ทาทา มอเตอร์ส ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในอินเดีย ประกาศเริ่มจัดจำหน่ายรถกระบะ
ใน มาเลเซีย เวียดนาม และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนเพิ่มความแข็งแกร่ง
ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
ทั้งนี้ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ทำหน้าที่เป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกรถกระบะ
ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และยังช่วยส่งเสริมให้การผลิตรถกระบะ ทาทา ซีนอน (Tata Xenon)
ในโรงงานผลิตในประเทศไทยเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ
“รถกระบะที่ผลิตจากประเทศไทยนั้น ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพเป็นอย่างดี” มร.ราวินดรา พิชาโรดี้ (Ravindra Pisharody) กรรมการบริหารฝ่ายรถเพื่อการพาณิชย์ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส จำกัด
กล่าวถึงการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ระหว่างงานแถลงข่าวการประกาศแข่งขันชิงแชมป์รถบรรทุกหัวลากพริม่า ครั้งที่ 2 ( Prima Truck Racing Championship )
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในฐานการผลิตรถกระบะที่ใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ ทาทา มอเตอร์ส ได้เข้ามาทำตลาด
ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2006 (พ.ศ. 2549) โดยร่วมทุนกับ บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด
ผู้ประกอบรถยนต์อิสระรายใหญ่ในไทย ทั้งในด้านการผลิต การประกอบ และการจัดจำหน่ายรถกระบะ
ในประเทศไทย
“อย่างไรก็ตาม ยอดจำหน่ายในประเทศไทยนั้นมีการชะลอตัว เนื่องด้วยภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาด
ทำให้ ทาทา มอเตอร์ส เริ่มมองหาตลาดประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคอาเซียน
ที่มีข้อตกลงทางการค้าในเชิงบวกแก่ธุรกิจของประเทศสมาชิก” มร.พิชาโรดี้ กล่าว
คุณมยุรี ชัยยุทธนาพร นักวิจัยอาวุโส บริษัท ไอเอชเอส ออโตโมทีฟ ประเทศไทย กล่าวถึงการนำเข้า
สินค้าระหว่างประเทศอาเซียน ที่ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้านั้น ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถทำราคา
ที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่นำเข้ามาจากภูมิภาคอื่นๆ
คุณมยุรี (ไอเอชเอส) เผยว่า “เรามีเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA: Asian Free Trade Area) ในภูมิภาคอาเซียน
ดังนั้นรถยนต์ทุกคันที่ผลิตและส่งออกภายในภูมิภาคอาเซียน จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า
ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ในตลาดโลกหันมาใช้ประเทศไทยเป็นฐานการส่งออกรถกระบะในภูมิภาค”
ในภูมิภาคอาเซียนมียอดจำหน่ายรถกระบะสูงถึง 500,000 คัน ในปี 2557 ซึ่งทางไอเอชเอส
คาดว่า ในปี 2558 นี้ ตลาดรถกระบะจะมียอดจำหน่ายสูงขึ้นเป็น 576,000 คัน และจากตัวเลขคาดการณ์
ยอดจำหน่ายในปี 2558 นี้ คาดว่าจะเป็นยอดจำหน่ายจากประเทศไทย 450,000 คัน
ซึ่งจะสูงกว่ายอดจำหน่ายเดิม 376,000 คัน ของเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา
คุณมยุรี (ไอเอชเอส) กล่าวว่า “ทาทา มอเตอร์ส น่าจะได้เปรียบในด้านของต้นทุนต่อหน่วย”
โดย วิเคราะห์จากการที่ทาทา มอเตอร์ส ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการส่งออกในภูมิภาค
และในส่วนของผลิตภัณฑ์ ทาทา มอเตอร์ส มีแผนเพิ่มไลน์รถกระบะเพื่อการพาณิชย์ทั้งขนาดใหญ่
และขนาดเล็กสำหรับตลาดในประเทศ ซึ่งในปัจจุบัน ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดจำหน่าย
รถกระบะทาทาซีนอน และรถบรรทุกเล็ก ทาทาซูเปอร์เอซ เท่านั้น
สำหรับมาเลเซีย ทาทา มอเตอร์ส วางแผนที่จะเปิดตัวรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ อัลตร้า ( Ultra) และ พริม่า (Prima) ทั้งนี้ ทาทา มอเตอร์ส กำลังมองหาพันธมิตรทางการค้าในมาเลเซีย ที่จะประกอบชิ้นส่วนนำเข้า
จากอินเดีย ขณะที่อินโดนีเซียมีลักษณะตลาดใกล้เคียงกับอินเดีย จะเป็นการนำเข้ารถทั้งคันจากอินเดีย
“ภูมิภาคอาเซียนถือเป็นตลาดที่ใหญ่มากสำหรับเรา ซึ่งอินโดนีเซียจะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด
ในแง่ของยอดจำหน่าย” มร.พิชาโรดี้กล่าว ในขณะเดียวกัน ทาทา มอเตอร์ส ก็คาดว่าจะสามารถ
เจาะตลาดอาเซียนที่มีการแข่งขันสูงได้สำเร็จ แม้จะมีเจ้าตลาดที่แข็งแกร่งอย่างผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น ปัจจุบัน ทาทา มอเตอร์ส จำหน่ายรถโดยสารและรถบรรทุกทั้งใน ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกลาง เอเชียใต้
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาใต้ รัสเซีย และประเทศรัฐอิสระที่แยกตัวออกมาจากรัสเซีย