ทดลองขับ Reviews Test Drive HONDA CRV i-DTEC DIESEL TURBO และ CRV 2.4 เบนซิน ความเหมือนที่แตกต่าง:โดยผู้หญิงขับรถ

บริษัทฮอนด้าออโตโมบิล(ประเทศไทย)จำกัด พาคณะสื่อมวลชนร่วมทดสอบ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เครื่องยนต์ i-DTEC DIESEL TURBO ที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด และเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 i-VTEC ซึ่งเป็น CR-V เจเนอเรชั่นที่ 5 โดยครั้งนี้ใช้เส้นทางภูเก็ต-ระนอง ขับไปกลับระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร
ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ฮอนด้าแนะนำเครื่องยนต์ดีเซลและเกียร์อัตโนมัติใหม่ ในรถยนต์อเนกประสงค์ของฮอนด้า


ในฮอนด้าซีอาร์-วี ใหม่ Honda CRV i-DTEC DIESEL TURBO ที่ขับในวันนี้ เครื่องยนต์ขนาด 4 สูบ 1.6 ลิตรได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยี่เอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตราที่ต่ำเพียง 141 กรัม/กิโลเมตร
เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์รุ่นเดียวกับของยุโรป แต่ได้เอามาปรับจูนให้เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย


ส่วนเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 173 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 224 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที เกีบร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85

 

รูปลักษณ์ภายนอก
กระจังหน้าติดฝากระโปรงก็ใช้โครเมี่ยมสีเงินยาวไปจนถึงกรอบไฟหน้าเป็นรูปวงรี จัดได้สัดส่วนลงตัวในความเห็นของดิฉัน เพราะในกรอบไฟหน้านั้นด้านข้างก็มี Day Time Runing Light อยู่นอกสุดตามด้วยไฟใหญ่และไฟหรี่ ด้านล่างสุดก็เป็นไฟตัดหมอก ทั้งหมดนี้เป็นไฟแบบ LED (เครื่องยนต์ 2.4 ไฟตัดหมอกไม่ใช่ LED)


กระจกด้านข้างคนขับยาวไปจนถึงกระจกที่นั่งด้านหลังใข้โครเมี่ยมสีเงิน แม้แต่ช่วงด้านล่างของประตูก็ยังใช้โครเมี่ยมสีเงินช่วยให้ดูคมเข้มยิ่งขึ้น ด้านท้ายรถก็เช่นกันเส้นสายรับกับด้านหน้า
ลักษณะไฟท้ายทำให้รถดูใหญ่ขึ้น หากขับรถอยู่มองกระจกข้างจะเห็นเป็นปุ่มอยู่ข้างรถ

ลายล้อแม็กแปลกตาดูบึกบึนดี เป็น ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยางที่ใช้ขนาด 235 /60/R18

ภายในห้องโดยสาร

จอDisplay แบบทัชสกรีน

แอร์ปรับอุณหภูมิแบบแยก ซ้ายขวาระหว่างคนนั่งหน้าทั้งสองคน ปรับอุณหภูมิตามความพอใจ
จุดเปลี่ยนอีกอย่างของตัวเครื่องยนต์ดีเซลเกียร์แบบใหม่เลย จะไม่เป็นแบบที่คุ้นเคยแต่จะเป็นแบบกดปุ่ม อยู่ที่คอนโซลกลาง ซึ่ง ก็เหมือนที่เราใช้เกียร์อัตโนมัติโดยทั่วไปนั่นละคะ เพียงแต่เปลี่ยนจากเป็นคันเกียร์แบบโยกมาเป็นแบบกดปุ่มเอา

 

ส่วนของเครื่องยนต์เบนซิน เกียร์ยังเป็นแบบเดิมคือมีคันเกีบร์ให้เลื่อนแบบที่เราคุ้นเคย

 

ส่วนเบรกมือก็เช่นกันค่ะแค่ยกขึ้นลงอยู่ใกล้กับเกียร์เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น
และมี Brake Hold ช่วยให้เวลาขึ้นที่ลาดชันแล้วต้องจอดคาไว้รถไม่ไหล หรือตอนรถติดนานๆก็ใช้ตัวนี้ได้ถ้าขี้เกียจเหยียบเบรก

 


นอกจากนั้นด้านหน้ายังมีไฟ 12 Volt ให้ 2 จุดด้านหน้า และช่อง เสียบ USB อีก 2 ช่อง
ช่องเก็บของตรงคอนโซลกลางกว้างมาก ขยับใข้งานได้หลายแบบ วางโน๊ตบุ๊คขนาด A4 ได้เลย
ตรงคอนโซลกลางด้านหลัง ยังมีช่องเสียบ USB อีก 2 ช่อง และและไฟ 12 Volt อีกหนึ่งช่อง


เดินทางกันหลายคน ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตมือถือหมด และติดต่อ Social Media ไม่ได้ ให้มาเยอะเลย
รถคันนี้เป็นรถแบบ 7 ที่นั่ง

ที่นั่งด้านหลังอีกสองแถว ก็มีแอร์ช่องด้านบนทั้งสองแถวเลย และไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เย็นเพราะนอกจากคอยล์เย็นด้านหน้ารถแล้ว ด้านหลังยังเพิ่มมาอีกหนึ่งตัวอยู่หลังสุดด้านขวา เอาใจคนนั่งหลังสุดๆ

เก้าอี้แถวสองที่นั่งด้านหลังสามารถเลื่อนถอยเอนได้ถ้าเลื่อนไปมากอาจจะทำให้คนนั่งแถวสามอึดอัดถ้าเป็นผู้ใหญ่ แถวที่สามถ้าเป็นเด็กนั่งก็จะสบาย และมีที่ยึดCar Seat สำหรับเด็กเล็กที่นั่งแถวสามด้วย
ที่นั่งแถวที่สองพับได้แบบ 60:40 ปรับพนักพิงมาพับบนที่นั่ง เมื่อพับแล้วที่นั่งแถวสองยังมีที่เกี่ยวด้านข้างไม่ให้เบาะเลื่อนไปมาได้


แต่ถ้านั่งครบทุกแถว ถ้าสัมภาระเยอะ อาจจะวางไม่พอนะ
ส่วนท่านที่ต้องการบรรทุกเยอะ ก็สามารถพับเบาะแถวที่สองและสามลงได้ เลย


ประตูท้ายเปิดด้วยไฟฟ้า แค่แตะก็เปิดและปิดได้เลย และสามารถปรับระดับสูงต่ำตามความสูงที่เราต้องการได้ และหากว่ามีอะไรไปขวางตอนกำลังจะปิด ฝาท้ายก็จะหยุดโดยอัตโนมัติ


และจุดเด่นอีกอย่างคือท้ายรถด้านล่างสุดมีเซ็นเซอร์ใต้ท้องรถ ถ้าประตูท้ายปิดอยู่และเราถือของเต็มไม้เต็มมือ เราก็สามารถใช้เท้าแตะที่ใต้ท้องรถตรงเซ็นเซอร์ ประตูฝาท้ายก็จะเปิดโดยอัตโนมัติเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น

ที่นี้มาถึงช่วงของการขับขี่บ้างละคะ
คันแรกที่ขับ CR-V 1.6 เครื่องยนต์ ดีเซล


ในฮอนด้าซีอาร์-วี ใหม่ Honda CRV i-DTEC DIESEL TURBO ที่ขับในวันนี้ เครื่องยนต์ขนาด 4 สูบ 1.6 ลิตรได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยี่เอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตราที่ต่ำเพียง 141 กรัม/กิโลเมตร

เส้นทางที่เราขับรถ ส่วนใหญ่จะเป็นถนน 2 เลน ช่วงภูเก็ต ไประนองผ่านไปทางพังงา ซึ่งถนนคดเคี้ยวค่อนข้างเยอะมาก


ดิฉันได้เป็นทั้งคนขับและคนนั่ง ที่นั่งด้านคนขับ ปรับไฟฟ้า ปรับสูงต่ำหน้าหลังได้ และมีที่ดันหลังปรับให้ด้านหลังรับกับท่านั่งเราด้วย


ส่วนด้านคนนั่งด้านหน้าปรับไฟฟ้าเหมือนกัน แต่ปรับสูงต่ำไม่ได้ แต่ที่นั่งก็ไม่ได้ต่ำก็ถือว่าโอเคนะ

 

การออกตัวรถความเร็วก็มาอย่างต่อเนื่อง ช่วงล่างนิ่มนวล ซึ่งทางวิศวกรบอกว่าได้ติดตั้งระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ซึ่งฮอนด้าซีอาร์วีใหม่นี้มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ E-DPS ใหม่ ทำงานโดยเปลี่ยนการควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยระบบไฟฟ้า ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็ว พร้อมเพิ่มระบบความคล่องตัวในการขับขี่ และระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยให้การทรงตัวที่ดี ซึ่งเห็นได้จากการเข้าโค้งแรงๆ รถเกาะโค้งดีมาก ไม่มีอาการเซเลย
เมื่อกดคันเร่งกำลังก็มาอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้เลยว่าเป็นเกียร์ อัตโนมัติแบบ 9 สปีด
ซึ่งการทำงานของเครื่องยนต์เป็นการผสานกันของระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 จังหวะซึ่งประกอบด้ยเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ทำงานในช่วงความดันสูงและเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ทำงานในช่วงแรงดันต่ำโดยจะเริ่มทำงานตั้งแต่รอบต้นที่ต้องการอัตราเร่งในการออกตัว
ซึ่งเมื่อได้ขับจะเห็นกำลังที่มาต่อเนื่องอย่างนิ่มนวล
อีกอย่างที่ต้องทึ่งก็คือ ห้องโดยสารเงียบมาก
ถ้าอยู่นอกรถและรถติดเครื่องก็จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่ดังพอควรและรู้ว่าเป็นรถดีเซล แต่เมื่อเข้ามาในรถจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เลย เงียบดี
แต่ในช่วงความเร็วสูงๆเมื่อเหยียบคันเร่งแรงๆก็จะได้ยินบ้างแต่ก็ถือว่านัอย

ส่วนอีกคันที่ขับก็คือ CR-V 2.4 เครื่องยนต์เบนซิน


ส่วนเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 173 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 224 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที เกีบร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85
การขับขี่ออกตัวปรู๊ดปร๊าดดี เร่งแซงก็เร่งได้ทันใจ
การเกาะถนนเป็นที่น่าพอใจ ภายในห้องโดยสารเงียบดี

 

 


ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างดีเซลและเบนซิน
เวลาเข้าโค้งเยอะๆ การเกาะถนนจะรู้สึกว่าดีเซลเกาะดีกว่าเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะว่าน้ำหนักของรถดีเซลที่มากกว่าเบนซินถึง 70 กิโลกรัม
แต่ถ้าต้องเร่งแซงยาวๆ เบนซินเป็นที่น่าพอใจมากกว่า เพราะเครื่องยนต์ใหญ่กว่าและน้ำหนักเบากว่าดีเซล


อัตราการกินน้ำมัน เราขับกันแบบใช้งานจริง เร็วในบางช่วง และเร่งแซงค่อนข้างเยอะเพราะเป็นถนน สองเลนขึ้นเขาลงเขา
ดีเซลกินน้ำมันอยู่ที่ 13.7 กิโลเมตรต่อลิตร
เบนซินกินน้ำมันอยู่ที่ 10.3 กิโลเมตรต่อลิตร

 


ราคา

DT-EL 4 WD ราคา 1,699,000 บาท
DT-E ราคา 1,549,000 บาท
2.4 EL 4WD ราคา 1,549,000 บาท
2.4 E ราคา 1,399,000 บาท

 

รถที่ไปทดลองขับในครั้งนี้จะเป็น ตัว 4 WD ทั้ง 2 รุ่นเลยค่ะ

ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา(ลองขับ)
ผู้หญิงขับรถ
Facebook Comments
Thunyaluk Seniwongs

Recent Posts