ถึงเวลาแปลงโฉมเสียทีกับมาสด้า 3 ที่ช่วยให้มาสด้าฟื้นคืนสู่ตลาดรถยนต์ไทย ด้วยยอดขายที่หลายคนคาดไม่ถึงจนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน มาสด้า 3 ใหม่นี้จะว่าใหม่ทั้งหมด ก็คงจะไม่ได้ จะมีก็แต่เครื่องยนต์เท่านั้น ที่ยกมาจากตัวเก่า แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น และการออกแบบที่เน้นความสปอร์ตมากขึ้น ก็น่าจะเชื่อได้ว่า ไม่ทำให้คนที่รอมาสด้า 3 ตัวใหม่นี้เสียใจอย่างแน่นอน
การทดลองขับในครั้งนี้ก็ใช้เส้นทางจาก กรุงเทพฯ ไปเขาใหญ่ แต่เลี้ยวซ้ายก่อนถึงทางเข้าเขาใหญ่ แล้วก็ขับอ้อมเขาใหญ่ไป แล้วก็ไปพักกันที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ระยะทางโดยรวมไม่น่าจะเกิน 400 กิโลเมตร โดยจะสลับกันขับ ระหว่างตัว 4 ประตูกับ 5ประตูครับ เพื่อดูความแตกต่างแล้วก็จับความรู้สึกต่างๆในการทดลองขับ
มาสด้า 3 ใหม่หากจะดูกันที่ภายนอกแล้วก็จะคล้ายๆกับรถต้นแบบอย่าง มาสด้า รียูกะ นั่นแหละครับ หากนึกภาพไม่ออกก็ไม่เป็นไร เอาว่าคล้ายๆน้องเล็กที่ออกมาสร้างความฮือฮาเมื่อปีก่อนอย่างมาสด้า 2 นั่นแหละครับ เพียงแต่มาสด้า 3 จะมีตัวถังที่ใหญ่ขึ้น บางคนก็เรียกติดตลกว่า เหมือนมาสด้า 2 พองลมไปเลยก็มี แต่ผมว่าสวยกว่ามาสด้า 2 เยอะครับ
ภายในเห็นจะเป็นจุดที่แยกได้ออกมากที่สุดว่า คันไหนเป็น 4ประตูหรือคันไหน 5ประตู ถ้าไม่ได้มองกันที่ด้านท้ายนะครับ โดยภายในที่ต่างกันก็จะเป็นเรื่องการใช้สีเท่านั้นครับ ตัว 4ประตู จะใช้โทนสีเบสบวกด้วยสีดำ และตกแต่เพิ่มเติมด้วยสีเงินครับ ดูสว่างและสะอาดตาดีครับ
ส่วน 5ประตูนั้น ภายในจะเป็นสีดำทั้งหมด แต่ก็ยังจะมีบางชิ้นส่วนที่เป็นสีเงินบ้างเหมือนตัว 4ประตู เพื่อไม่ให้ดูเรียบง่ายเกินไปนัก 5ประตูนี้จะดูดุและสปอร์ตมากทีเดียวครับ คงถูกใจผู้ที่ชื่นชอบความสปอร์ตเป็นแน่
มาถึงเครื่องยนต์กันบ้างครับ มาสด้า 3 ใหม่นี้มีแต่เครื่องยนต์ 2.0ลิตรนะครับ ด้วยขุมพลัง 147 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 182 นิวตัน-เมตรที่ 4,000รอบ/นาที ซึ่งเป็นตัวที่ติดรถมากับมาสด้า 3 ตัวเก่านั่นแหละครับ แต่ได้พัฒนาระบบส่งกำลังใหม่ ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และยังมีโหมดที่สามารถเลือกอัตราทดเกียร์ได้เองด้วย เรียกง่ายๆก็เปลี่ยนเกียร์ได้เหมือนกับเกียร์ธรรมดานั่นแหละครับ ช่วยทำให้การขับขี่สนุกขึ้นมากเลยทีเดียวครับ
โดยถ้าหากเราอยากที่จะเลือกอัตราทดเกียร์เองแล้วละก็ สามารถทำได้ถึงสามวิธีเลยครับ อันดับแรก เมื่อคันเกียร์อยู่ที่ตำแหน่ง D แล้ว เราก็สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ที่พวงมาลัย หรือที่เรียกกันว่า Paddle Shift นั่นแหละครับ แต่จะแตกต่างกับ Paddle Shift ทั่วๆไปซะหน่อย นั้นก็คือ ใช้นิ้วโป้ง ไม่ว่าจะข้างไหนก็แล้วแต่ กดลงไปที่แป้นที่เขียนว่า Down เกียร์ก็จะลดลงครับ ส่วนถ้าจะให้เกียร์สูงขึ้น ก็ใช้นิ้วที่เหลือกวักเข้าหาตัว อันนี้จะเหมือน Paddle Shift ทั่วไป อาจจะไม่ชินสักหน่อย แต่ใช้ๆไปก็สะดวกดีครับ โดยแบบนี้ จะเรียกว่าเป็นกึ่งๆ Manual นะครับ เพราะหากเราพอใจกับอัตราทดนี้แล้วสักพัก สมองกลของเกียร์ก็จะเปลี่ยนโหมดตัวเองกลับคืนสู่โหมดอัตโนมัติเช่นเดิม
ส่วนแบบที่สอง ก็จะเป็นการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ที่เหมือนกับเป็นเกียร์ธรรมดามากที่สุดครับ นั้นคือการผลักคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง M ข้างๆกันกับตำแหน่ง D นั่นแหละครับ ซึ่งก็จะมีการบวกและลบอัตราทดเกียร์ อย่างที่เราคุ้นๆกันอยู่แล้ว ส่วนแบบที่สามก็จะเป็นแบบที่ช่วยไม่ให้เราต้องเอามือออกจากพวงมาลัยนั่นแหละ ก็เปลี่ยนเกียร์กันที่ Paddle Shift ได้เลย แต่ตำแหน่งเกียร์จะต้องอยู่ที่ตำแหน่ง M นะครับ เพราะไม่อย่างนั้น สมองกลของเกียร์ก็จะปรับให้เป็นโหมดอัตโนมัติตามเดิม
มาถึงช่วงล่างกันบ้างครับ ช่วงล่างของมาสด้า 3 ใหม่นี้เป็นแบบอิสระทั้ง 4ล้อเหมือนมาสด้า 3ตัวก่อนหน้านี้ แต่ได้พัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้วัสดุที่แข็งแรงมากขึ้น แต่น้ำหนักเบาลงกว่ารุ่นก่อน และมาพร้อมล้ออัลลอยด์ทรงสปอร์ตขนาด 17นิ้ว ด้วยยางขนาด 205/50 R17 ครับ ซึ่งขอบล้อขนาดนี้ น่าจะกลายเป็นขนาดมาตรฐานของรถที่จะออกมาใหม่ไปแล้ว แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะกระด้างครับ เพราะมาสด้า 3 ใหม่นี้ เท่าที่ได้ทดลองขับมาแล้วนั้นดูจะนิ่มนวลกว่าตัวเก่าพอสมควรครับ แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นสปอร์ตนะครับ ยังคงขับขี่ได้สนุก และมั่นใจได้ในการเข้าโค้งเสมอ
โดยรวมแล้ว มาสด้า 3 ใหม่นี้ สิ่งที่ดึงดูดทุกสายตาให้หันมามองได้ก็คงจะเป็นเรื่องการออกแบบ ทั้งภายนอกและภายในที่ดูสวยสะดุดตาเป็นอย่างมากครับ ส่วนเรื่องสมรรถนะนั่น หากเป็นช่วงล่างแล้วล่ะก็ มาสด้าไม่เคยเป็นรองใครอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนั้น จริงอยู่ที่เป็นเครื่องยนต์ตัวเดิม แต่ด้วยระบบส่งกำลังแบบใหม่ ส่งผลให้สมรรถนะดีกว่าตัวเก่าอยู่พอสมควรครับ คิดว่า มาสด้า 3 ใหม่นี้ก็คงจะสร้างยอดขายให้เป็นที่น่าประทับใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
************************************************************************************
สารฑูล สักการเวช
sarathun@caronline.net
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…