ทดลองขับรถ ทดสอบสมรรถนะ Mazda CX-5 SKYACTIVE SUV Diesel
ในที่สุดรถยนต์ที่หลายๆท่านรอคอย Mazda CX-5 Skyactive SUV ก็เปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และสื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ โดย
ใช้เส้นทาง จากเชียงรายขับไปเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร
ขึ้นเครื่องจากกรุงเทพฯประมาณบ่ายโมง โดยสายการบินไทยเพื่อไปยังสนามบินแม่ฟ้าหลวงที่เชียงราย ขาไปเครื่องบินดีเลย์ไป 30 นาที ขากลับจากเชียงใหม่ก็ดีเลย์อีกเหมือนกัน ทำไมถึงเป็นอย่างนี้
คราวนี้พักที่โรงแรมเมอริเดียนเชียงรายโรงแรมสวย บรรยากาศดี อยู่ริมแมน้ำกก ขนาด 4 ชั้นไม่สูงมากนัก
เหมาะแก่การพักผ่อน ถ้ามากับครอบครัว
เช้าวันรุ่งขึ้นก็เตรียมตัวออกเดินทางกับ Mazda CX-5 Skyactive Diesel ก่อนการเดินทางก็มีการพูดถึงข้อมูลของรถ และเส้นทางในการขับรถทดสอบในครั้งนี้
รถมาสด้าที่จะเดินทางทดสอบสมรรถนะในครั้งนี้ เป็นมาสด้า CX-5 Skyactive Diesel ทั้งหมดยังไม่ได้ขับคันเครื่องยนต์เบนซิน
เครื่องยนต์ CX-5 Skyactive Diesel เครื่องยนต์ขนาด 2,200 ซีซี มาสด้าซีเอ็กซ์ 5 นี้จัดอยู่ในกลุ่มรถอเนกประสงค์ เป็นรถยนต์รุ่นแรกของการพัฒนารถเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของมาสด้า โดยมาสด้านำเทคโนโลยี่ที่พัฒนาชึ้นมาอย่างเต็มรูปแบบ เทคโนโลยี่สกายแอคทีฟ ในรถเจนเนอเรชั่นที่ 6 นี้ทุกรุ่นคู่กับธีมของการออกแบบรถใหม่โคโดะ( KODO จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว)ที่เน้นความสวยงามผ่านรูปร่างรถ ในสายตาดิฉันยอมรับถึงความสวยงาม เส้นสายดูอ่อนช้อยแต่แฝงความบึกบึนไว้
ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ Bi-xenon ไฟหน้าปรับสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติ ระบบไฟหน้าปิด-เปิดอัตโนมัติ มีระบบทำความสะอาดไฟหน้า
และมีไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน
ซึ่งเทคโนโลยี่สกายแอคทีฟนี้ทำให้รถที่ขับเป็นรถที่มีสมรรถนะสูง ขับสนุก และประหยัดน้ำมัน เดี๋ยวมาลองกันแล้วจะได้รู้ว่าเป็นแบบนี้จริงหรือไม่
เราคงต้องรู้กันบ้างนะคะ ว่าเทคโนโลยี่สกายแอคทีฟที่ใส่มาในรถคันนี้มีอะไรบ้าง จะได้รู้จักรถให้ดีขึ้น
-เครื่องยนต์เบนซิน สกายแอคทีฟ-จี (Skyactive- G) และเครื่องยนต์ดีเซลสกายแอคทีฟ-ดี (Sky active-D) เครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงกับค่าการอัดอากาศที่ดี
-โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ สกายแอคทีฟบอดี้ (skyactive-body) และช่วงล่างสกายแอคทีฟ สกายแอคทีฟแชสซี โครงสร้างตัวถัง ระบบช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยว
-เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ ระบบเกียร์ซึ่งจะมีผลต่อการประหยัดน้ำมันและสมรรถนะของการขับขี่ด้วย เป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดเจนเนอเรชั่นใหม่
เมื่อทราบแล้วว่าเทคโนโลยี่ที่นำมาใช้กับรถรุ้นนี้แล้ว ตอนนี้ก็มารู้จักกับรถคันที่ดิฉันจะขับกันเลยดีกว่านะคะ
คันที่ขับครั้งนี้เป็นมาสด้า CX5 Diesel เครื่องยนต์ Skyactive-D เครื่องยนต์ขนาด 2,200 ซีซี DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว อัตรส่วนการอัด 14: 1 ซึ่งเป็นอัตราการอัดที่ต่ำ ทำให้ได้การเผาไหม้ที่ดี
เทอร์โบชาร์จเจอร์สองตัว เทคโนโลยี่หัวฉีด Pieso ควบคุมองศาและละอองน้ำมันด้วยความแม่นยำสูง ทำให้ตอบสนองอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องตลอดช่วงความเร็วรอบ(สูงสุดที่ 5,200 รอบต่อนาที ) มีน้ำหนักลดลงทำให้เครื่องยนต์ มีแรงบิดสูงสุดถึง 420 นิวตันเมตรที่ 2,200รอบ และกำลังสูงสุดถึง 175 แรงม้าที่ 4,500 รอบต่อนาที (เทคนิคบ้างนะคะ)
เราออกเดินทางจากโรงแรมเมอริเดิยนที่เชียงราย โดยขับกันคันละ 2 คน
โดยดิฉันเป็นคนนั่งไปก่อน ขึ้นไปนั่งแล้วก็รู้สึกถึงความกว้างขวางภายในตัวรถ
เบาะที่นั่งเป็นเบาะหุ้มหนังสีดำแต่งขอบด้วยเส้นด้ายสีแดง ดูดีค่ะ แผงควบคุมตกแต่งด้วยสีเงินและวัสดุสีดำวาวเปียโน ปุ่มควบคุมต่างๆก็เอื้อมถึงง่าย และง่ายยิ่งขึ้นเมื่อเลือกควบคุมจากสวิทช์ที่พวงมาลัย มีช่องวางแก้วน้ำและช่องเก็บของหลายจุด เก้าอี้ที่นั่งกระชับตัวเป็นแบบกึ่งบักเก็ตซีท ทัศนวิศัยดีเห็นข้างหน้าชัดเจน กระจกหน้าบานใหญ่ดี หลังคาสูงโปร่งตามสไตล์รถ SUV
ส่วนแอร์ในรถเป็นแบบแยกอิสระซ้ายขวา ปรับลดอุณหภูมิได้ตามต้องการ
แล้วเราก็เริ่มออกเดินทางเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันกันก่อน โดยวิ่งกันแบบฟรีรัน ไม่มีรถนำ ไม่เป็นขบวนคาราวาน แต่เนื่องจากเป็นการวิ่งในเมือง และถนนเป็นสองเลนและสี่เลน เราก็เลยวิ่งกันแบบสบายไม่เร่งรีบ จะมีแซงบ้างในบางช่วง
ต้องยอมรับถึงความเงียบภายในตัวรถ และไม่รู้สึกเลยว่ากำลังนั่งรถเครื่องยนต์ดีเซลอยู่ ไม่รู้สึกถึงอาการกระเทือนของรถ ช่วงล่างดีมากเลยค่ะ
วิ่งมาสัก 100 กิโลเมตร ก็ถึงร้านอาหาร Cabbage&Condoms ของคุณมีชัย วีระไวทยะ ทุกท่านน่าจะรู้จักดีโดยเฉพาะคุณผู้ชาย ที่นี่นอกจากร้านอาหารแล้วก็ยังเป็นที่พักด้วยค่ะ
ท้องอิ่มก็ออกเดินทางกันต่อ โดยคราวนี้ถึงคิวดิฉันเป็นคนขับบ้างละ ขึ้นรถกดปุ่มสตาร์ท ปรับที่นั่งให้เข้าที่ ซี่งเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เตรียมตัวออกเดินทาง ปรับกระจกมองข้างซึ่งปรับและพับไฟฟ้า ฟร้อมไฟเลี้ยว เมื่อเริ่มจะออกรถ ซึ่งดิฉันได้เหยียบเบรกอยู่ พอยกเท้าขึ้นเหยียบคันเร่งปุ๊ปก็รู้สึกมีอาการกระตุกเล็กน้อย ถึงได้รู้ว่า ระบบ I-Stop ทำงาน เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ถ้าไม่มีอาการเล็กน้อยเหล่านี้คงลืมไปเลยว่ารุ่นนี้มีระบบนี้อยู่ เพราะรถนิ่งและเงียบมาก หากเราไม่ต้องการให้ I-Stop ทำงานก็สามารถปิดได้
คันที่ขับคันนี้ เป็นดีเซลระบบขับเคลื่อนเป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ทุกคัน
แล้วก็เริ่มต้นออกเดินทางความเร็วที่ใช้ถึง 160 กม./ชม. ในบางช่วง อย่างที่บอกไว้แล้วภายในห้องโดยสารเงียบ ขับแล้วไม่รู้เลยว่าขับรถดีเซล อัตราเร่ง ก็เร่งได้ดั่งใจ มาอย่างต่อเนื่องไม่ต้องออกแรงในการเหยียบคันเร่งมากนัก อ้อดิฉันชอบคันเร่งรถแบบนี้ คือแป้นเบรกและคันเร่งใหญ่และยาว ใช้งานสะดวก วางเท้าได้สบาย เต็มเท้าดี
มีอยู่ช่วงหนึ่งคันหน้าหยุดกะทันหัน ดิฉันก็เหยียบเบรกลงไป มีความรู้สึกเหมือนแป้นเบรกยุบตัวลงไปเหมือนจะเบรกไม่อยู่ แต่ที่ไหนได้ หยุดได้ดั่งใจ ไม่หัวปักหัวปำ ตอนแรกก็ตกใจอยู่เหมือนกัน
ระบบเบรกของคันนี้เป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ
หลังจากนั้นเมื่อเรียนรู้ระบบเบรกแล้วเราก็จะเข้าใจ
พวงมาลัยควบคุมง่ายรู้สึกเบามือแต่ให้การควบคุมรถดี การเกาะถนนดีมาก เพราะเราขับในช่วงที่ถนนคดเคี้ยวเยอะมาก มีความมั่นใจในการเข้าโค้ง แม้จะเป็นรถใหญ่และสูง ซึ่งดิฉันก็ใส่เต็มที่เหมือนกันค่ะหรืออาจจะเป็นเพราะดิฉันก็ใช้รถ SUV เหมือนกัน แต่รถเกือบสิบปีแล้ว เทคโนโลยี่สู้รถคันนี้ไม่ได้เลย
ซีเอ็กซ์ 5 คันนี้ เวลาเร่งแซงความเร็วมาต่อเนื่อง อาจเป็นเพราะมีเทอร์โบสองตัวช่วยกันรีดกำลังออกมา
และก็เดินทางมาถึงโรงเรียน ซึ่งต้องขึ้นบนทางชันสูงเหมือนกัน กำลังก็ไม่ตกมาเหมือนเดิมไม่ต้องเหยียบคันเร่งมากนัก รถมีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันล้อล็อค (4w-ABS)พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)และระบบช่วยเบรก (BA) ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ ระบบควบคุมรถหมุนฟรีและการลื่นไถล ระบบช่วยการออกตัวเมื่ออยู่บนทางลาดชัน สร้างความอุ่นใจให้คนขับได้ทีเดียว
แล้วเราก็มาถึงโรงเรียนบ้านห้วยโป่ง ซึ่งทางมาสด้าได้ไปสร้างห้องน้ำให้กับโรงเรียนแห่งนี้ นักเรียนน่ารักมากเลยมีการเตรียมการแสดงให้ดูด้วย ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายถึงจะมีแดดบ้าง
และออกจากโรงเรียนบ้านห้วยโป่ง ก็เดินทางต่อไปยังร้านริมธารบ้านเมี่ยงเพื่อพักระหว่างทาง เราต้องกลับรถเพื่อเดินทางต่อ วงเลี้ยวของคันนี้แคบมากคะ รัศมีวงเลี้ยวอยู่ที่ 5.5 เมตร เวลาจะเลี้ยวไม่ต้องตีวงเผื่อ
เป็นรถที่ขับสนุกค่ะ เล่นโค้งได้มันมาก เพราะมีความมั่นใจ
เมื่อลงจากรถ ก็มีที่จับให้เหนี่ยวลงจากรถได้ ดิฉันมักจะลืมตัวคิดว่ารถมีบันไดข้าง รถรุ่นนี้ไม่มีค่ะ เพราะออกแบบเป็นแบบสปอร์ตรูปทรงโฉบเฉี่ยวลู่ลม แต่มีราวจับทั้งสี่ด้านเลย
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเพื่อนร่วมทางก็คือเครื่องเสียง ซึ่งเวลาเดินทางก็เป็นสิ่งจำเป็น คันนี้ใช้เครื่องเสียงของ Bose รอบทิศทางพร้อมลำโพง 9 ตำแหน่ง ให้ความสุนทรีย์ในการเดินทางมาก ฟังเพลงได้เพราะมาก
อย่าฟังเพลงเพลินจนหลับนะคะ
มีระบบเชื่อมต่อเครื่องเสียงผ่าน USB /BLUETOOTH ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth
กล้องมองหลังพร้อมเส้นบอกแนวถอยหลัง ระบบเตือนระดับลมยาง
หลังให้เป็นด้านหล้งเก้าอี้พับได้ สามส่วน แบบ 40:20:40 อิสระจากกัน สะดวกในการพับเก้าอี้ เปลี่ยนที่นั่งแถวพื้นที่ราบขนาดใหญ่ได้ และมีแผ่นผ้าใบปิดสัมภาระด้านหลังติดอยู่เลยค่ะ
ไม่ต้องใช้มือดึงแผ่นผ้าใบปิดสัมภาระอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งบางครั้งเราอาจลืม
ยางที่ใช้ 225/55 R 19 ขนาดล้ออัลลอย 19 x 7 J ขนาดยางอะไหล่ 185/80 R 17
Mazda CX -5 ดีเซลคันนี้ ทางมาสด้าบอกว่ากินน้ำมันอยู่ที่ 18 กม./ลิตร ซึ่งก็ประหยัดมาก แต่ที่ลองขับกันก็ได้อยู่ที่ประมาณ 13 กม./ลิตร เพราะขับกันค่อนข้างเร็วความเร็วที่ 120-140-160
ถ้าขับความเร็วต่ำกว่านี้ก็น่าจะทำได้ค่ะ
ราคาคันนี้อยู่ที่ 1,670,000 บาท
มี 4 สีให้เลือกคือ สีฟ้าสกายบลูไมก้า สีขาวอาคติคไวท์ สีเงินอลูมินั่ม เมทัลลิค และสีเทาเมทิเออ เกรย์ไมก้า
เห็นสีแดงในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ที่ญี่ปุ่นเมือเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ในเมืองไทยไม่มีสีนี้ค่ะ
ไปลองขับกันก่อนตัดสินใจนะคะเดี๋ยวนี้เขามีรถให้ลองขับค่ะ
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ผู้หญิงขับรถ
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…