ตะลุยเกาหลีไปกับฮุนได ตอนที่ 2 ฝนเจ้ากรรม
หลังจากเครื่องบินจอดเทียบงวงแล้วคณะเดินทางก็มารวมตัวกันที่อาคารของสนามบินเพื่อนัดหมายจุดที่จะเจอกันเมื่อเดินผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองรวมถึงศุลกากรด้วยพร้อมทั้งยังได้แจกป้ายห้อยคอเพื่อแสดงว่าคณะเรานั้นมาดูงานในศูนย์พัฒนาและวิจัยของทางฮุนไดไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น
เมื่อคณะพร้อมแล้วเอกสารเข้าเมืองที่ทางทีมงานแจกให้ครบแล้วเราเริ่มเดินเข้าช่องตรวงซึ่งคนเริ่มเยอะขึ้นเราต่อคิวกันใช้เวลาไม่นาน ซักพักก็ถึงคิวของเราซึ่งบางช่องตรวจนั้นมีคนต่างชาติเรียกไปคุยในห้องเย็นก็มีแล้วก็มาถึงคิวผมเจ้าหน้าที่ก็เรียกถามว่ามาทำอะไร ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นมาจากหนังสือเดินทางนั้นขาวสะอาดเพราะเพิ่งเปลี่ยนเล่มใหม่ก็ตอบไปว่ามาดูงานกับฮุนไดแล้วมีจดหมายเชิญรึเปล่าก็ร้อนถึงทางทีมงานต้องนำเอกสารมาแสดง พอทางตม.ทราบว่าคณะเรามาดูงานก็ประทับตราให้เข้าเมืองได้อย่างไม่มีปัญหา
ออกมาจากพิธีการต่างๆทางตม.แล้วเราเดินไปขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางไปยังโรงแรมHARBORPARK HOTELที่ทางฮุนไดจัดไว้ให้เป็นแบบเดย์ยูสเพื่ออาบน้ำทำภาระกิจส่วนตัวกันแถมรับประทานอาหารเช้ากันด้วยใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงโรงแรมกันอาบน้ำล้างหน้ากันแล้วก็แอบงีบกันเล็กน้อยใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงกันในโรงแรมแห่งนี้ขนาดห้องนั้นค่อนข้างเล็กแต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกนั้นครบทีเดียวห้องน้ำไม่มีอ่างอาบน้ำเป็นแบบตู้อาบน้ำ
เมื่อได้เวลานัดหมายแล้วเราก็มุ่งหน้าไปยังเกาะนามิอันเลืองชื่อของเหล่าสาวกชาว K-popแต่ก่อนถึงนั้นเราก็ต้องรับประทานอาหารแบบพื้นเมืองของคนเกาหลีนั้นก็คือ ทัลคาลบี้ ส่วนมันคืออะไรนั้นต้องขออธิบายง่ายๆว่าเป็นไก่ผัดซอสบาร์บีคิวแบบเกาหลีที่วางอยู่ในกระทะยักษ์แล้วมีผักกองใหญ่ที่รองเนื้อไก่อยู่ข้างบน
เมื่อแรกเห็นนั้นขอบอกว่าตื่นตาตื่นใจอยู่อยากลองเล่นลองทำดูทำอยู่สักพักก็เริ่มเมื่อยมือไปการเสิร์ฟนั้นจะมีกิมจิ ซุปสาหร่าย และข้าวสวยให้เรากินส่วนรสชาตินั้นเป็นยังไงต้องไปลองเองครับ
เสร็จจากอาหารกลางวันเราก็ขึ้นรถเดินทางต่อใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีเรามาถึงจุดที่จะต้องนั่งเรือไปยังเกาะนามิ
เกาะนามิหรือที่ชาวเกาหลีเรียกว่า ฮัลกึล นามิซอมตั้งอยู่ที่เมืองชุนชอน จังหวัดคังวอนห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออก 63 กิโลเมตรและนั่งเรือต่อไปอีกเพียง 5 นาที เกาะนามินั้นมีรูปร่างคล้ายใบไม้ลอยน้ำ เป็นเกาะกลางแม่น้ำฮัน ซึ่งเกิดจากการสร้างเขื่อนชองพยองกั้นแม่น้ำบูคาน
เมื่อข้ามมาในเกาะนามิแล้วบรรยากาศนั้นดีมากมีคนหนุ่มสาวเดินกันมาเป็นคู่ถึงขนาดที่ผมยังแอบอิจฉาที่ไปแบบไม่มีคู่ในครั้งนี้ทิวสนที่ปลูกระหว่างทางนั้นสวยมากครับแล้วยิ่งไปเห็นรูปในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะด้วยแล้วนั้นขอบอกว่าสุดยอดเลยเมื่อมานามิแล้วผมคิดว่าคงไม่ใครพลาดที่จะถ่ายรูปคู่กับรูปคู่พระนางจากซีรี่ส์เกาหลีเรื่องwinter love song กันแน่เราใช้เวลากันพักใหญ่ที่เดินดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เกาะนามิแบบยังที่จะอยากอยู่ต่อแต่เรายังมีภาระกิจที่ต้องทำกันต่อจึงต้องทำใจจากลา
ออกจากเกาะนามิแล้วจุดหมายของเรานั้นคือหอคอยโซลทาวเวอร์แต่ระหว่างทางนั้นฝนเจ้ากรรมดันมาตกซะนี่เราเลยเปลี่ยนแผนไม่ยังแหล่งช้อปปิ้งอันขึ้นชื่อนั้นคือตลาดเมียงดง
ตลาดเมียงดงนั้นเปรียบได้แบบง่ายก็คือสยามสแควร์บ้านเรานั้นเองครับมีเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นต่างๆมากมายเสียอย่างเดียวฝนมาตกซะได้ แล้วก็ไม่ได้ตกมาแบบธรรมดาซะด้วยตกแบบกระหน่ำกันเลยแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคของคณะเราในการช้อปปิ้งแต่อย่างใด เนื่องจากรับออเดอร์กันมาจากเมืองไทยให้ซื้อเครื่องสำอางค์กลับไปเพราะแบรนด์ของเกาหลีที่ขายอยู่ที่นี่ราคาถูกกว่าเมืองไทยกว่าครึ่งต่อครึ่งกันเลยเราใช้เวลาอยู่ที่นี่กันมากทีเดียวได้เวลานัดหมายแล้วก็เจอกันที่ร้านอาหารโทไดซึ่งอยู่ในตลาดเมียงดง
ร้านอาหารโทไดนั้นเป็นร้านซีฟู้ดบุฟเพ่ห์แบบห้าดาวหรืออาหารหลากหลายแต่ที่ผมจะเน้นเป็นพิเศษนั้นก็คือขาปูอลาสก้าที่เสิร์ฟกันแบบไม่อั้นถ้าไม่เชื่อลองไปถามพี่แกละแห่งฮุนไดดูแล้วกันว่าเป็นยังไง
เมื่ออิ่มกันแล้วเราก็มุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่พักของเราในค่ำคือนี้นั้นคือโรงแรม CONRTYARD SEOUL TIMES SQUARE ก่อนลงจากรถนั้นเรามีนัดหมายกันในวันรุ่งขึ้นคือ 6 7 8 หมายความว่าปลุกตอนหกโมงเช้า ข้าวเช้าตอนเจ็ดโมงและรถออกตอนแปดโมงแล้วก็ห้ามสายด้วยเพราะเราต้องเดินไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาของฮุนไดแต่ปัญหาของคณะเราหลายท่านนั้นก็คือรองเท้าผ้าใบที่ต้องใส่กัน ก็เปียกเพราะลุยฝนกันที่นี้จะทำยังไงกันดีเพราะข้อบังคับในการเยี่ยมชมนั้นต้องใส่รองเท้าหุ้มส้นเท่านั้นโปรดติดตามตอนต่อไป
##################################
premsak@caronline.net