คอลัมน์ประจำ

ตลาดรถยนต์เมษายนเติบโตรับมอเตอร์โชว์ยอดขายรวม 63,427 คัน เพิ่มขึ้น 9.1%

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2565 มีตัวเลขการขายรวมทั้งสิ้น63,427 คัน เพิ่มขึ้น 9.1% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 20,492 คัน เพิ่มขึ้น 20.6% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 42,935 คัน เพิ่มขึ้น 4.4% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 33,629 คัน เพิ่มขึ้น 3.1% 

  • ประเด็นสำคัญ

         ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2565 มีปริมาณการขาย 63,427 คัน เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20.6% ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเจริญเติบโตเช่นเดียวกันที่ 4.4% เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย ทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้เกือบเป็นปกติ โดยมีปัจจัยบวกที่สำคัญในช่วงเดือนนี้ได้แก่ ยอดจองรถในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ที่มากถึง 31,896 คัน ไม่นับยอดจองรถที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทุกยี่ห้อทั่วประเทศ ที่ต่างนำเสนอแคมเปญ “ข้อเสนอเดียวกับมอเตอร์โชว์” อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกค่ายรถยนต์ต่างเร่งทำการผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อส่งมอบรถใหม่ถึงมือลูกค้าได้ทันตามความต้องการ

            ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมมีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนที่เป็น “Low season” แต่ยังได้รับแรงส่งจากตัวเลขการส่งมอบรถที่รับจองในช่วงมอเตอร์โชว์ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ส่วนปัจจัยบวกที่สำคัญอย่างยิ่งในช่วงนี้ ได้แก่ การที่ผู้บริโภคเริ่มคลายความกังวลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ที่กำลังจะได้รับการประกาศให้เป็น “โรคประจำถิ่น” สังเกตุได้จากสภาพการจราจรที่กลับมาคึกคักอีกครั้งจากการผ่อนคลายมาตรการ “Work From Home” เพื่อให้พนักงานกลับเข้าทำงานตามปกติ โรงเรียนเริ่มเปิดให้นักเรียนกลับเข้าห้องเรียน รวมทั้งการออกจากบ้านมาทำงานของประชาชนทุกสาขาอาชีพ ล้วนผลักดันเศรษฐกิจโดยรวมให้ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลต่อความต้องการใช้รถยนต์ของผู้บริโภคให้เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน

  • ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน 2565
  • ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 63,427 คัน เพิ่มขึ้น 9.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      21,681 คัน      เพิ่มขึ้น       13.2%       ส่วนแบ่งตลาด 34.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ         16,595 คัน      เพิ่มขึ้น       11.0%        ส่วนแบ่งตลาด 26.2%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      5,107 คัน      ลดลง          5.8%      ส่วนแบ่งตลาด   8.1%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 20,492 คัน เพิ่มขึ้น 20.6%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      6,901 คัน      เพิ่มขึ้น      39.2%       ส่วนแบ่งตลาด 37.8%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า         3,969 คัน      ลดลง       10.5%  ส่วนแบ่งตลาด 21.7%

อันดับที่ 3 ซูซูกิ          2,045 คัน      เพิ่มขึ้น     18.0%        ส่วนแบ่งตลาด11.2%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 42,935 คัน เพิ่มขึ้น 4.4%

อันดับที่ 1 อีซูซุ                  16,595 คัน      เพิ่มขึ้น      11.0%       ส่วนแบ่งตลาด 38.7%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      14,780 คัน       เพิ่มขึ้น       4.1%       ส่วนแบ่งตลาด 34.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด       2,529 คัน       ลดลง         8.9%       ส่วนแบ่งตลาด  5.9%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 33,629 คัน เพิ่มขึ้น 3.1%                                 

อันดับที่ 1 อีซูซุ                  15,451 คัน      เพิ่มขึ้น      13.2%       ส่วนแบ่งตลาด 45.9%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      12,605 คัน      เพิ่มขึ้น       1.4%       ส่วนแบ่งตลาด 37.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด       2,529 คัน      ลดลง         8.9%       ส่วนแบ่งตลาด  7.5%

                             *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด ตัน) 4,559 คัน 

โตโยต้า 2,199 คัน – อีซูซุ 1,302 คัน – มิตซูบิชิ 641 คัน – ฟอร์ด 318 คัน – นิสสัน 99 คัน

  • ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 29,070 คัน เพิ่มขึ้น 5.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ                  14,149 คัน      เพิ่มขึ้น   20.7%         ส่วนแบ่งตลาด 48.7%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      10,406 คัน      ลดลง      0.1%         ส่วนแบ่งตลาด 35.8%

 อันดับที่ 3 ฟอร์ด       2,211 คัน      ลดลง       2.6%         ส่วนแบ่งตลาด  7.6%       

  • สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม เมษายน 2565
  • ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 294,616 คัน เพิ่มขึ้น 16.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      98,825 คัน      เพิ่มขึ้น       31.6%      ส่วนแบ่งตลาด 33.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ         74,015 คัน      เพิ่มขึ้น       15.3%      ส่วนแบ่งตลาด 25.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      30,731 คัน      เพิ่มขึ้น        1.2%       ส่วนแบ่งตลาด10.4%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 96,218 คัน เพิ่มขึ้น 17%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      27,237 คัน     เพิ่มขึ้น      39.9%       ส่วนแบ่งตลาด 29.0%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า      23,865 คัน     ลดลง        7.4%        ส่วนแบ่งตลาด 25.4%

อันดับที่ 3 มาสด้า        8,377 คัน      เพิ่มขึ้น     11.0%        ส่วนแบ่งตลาด  8.9%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 198,398 คัน เพิ่มขึ้น 16.7%

อันดับที่ 1 อีซูซุ                  74,015 คัน      เพิ่มขึ้น     15.3%        ส่วนแบ่งตลาด 37.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      71,588 คัน      เพิ่มขึ้น     28.7%        ส่วนแบ่งตลาด 36.1%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ     10,908 คัน      เพิ่มขึ้น      9.7%        ส่วนแบ่งตลาด  5.5%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 156,401 คัน เพิ่มขึ้น 18.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ          68,607 คัน      เพิ่มขึ้น     16.2%        ส่วนแบ่งตลาด 43.9%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      62,694 คัน      เพิ่มขึ้น     33.0%        ส่วนแบ่งตลาด 40.1%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      10,843 คัน      เพิ่มขึ้น     12.3%        ส่วนแบ่งตลาด  6.9%

                             *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด ตัน) 20,815 คัน 

โตโยต้า 9,964 คัน – อีซูซุ 6,234 คัน – มิตซูบิชิ 2,781 คัน – ฟอร์ด 1,415 คัน – นิสสัน 421 คัน

  • ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 135,586 คัน เพิ่มขึ้น 21.2%

อันดับที่ 1 อีซูซุ                  62,373 คัน      เพิ่มขึ้น    20.1%        ส่วนแบ่งตลาด 46.0%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      52,730 คัน      เพิ่มขึ้น     36.5%        ส่วนแบ่งตลาด 38.9

  อันดับที่ 3 ฟอร์ด       8,464 คัน      ลดลง        7.2%        ส่วนแบ่งตลาด  6.2%     

Facebook Comments
Thunyaluk Seniwongs

Recent Posts