ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคมยอดขายรวม 74,115 คัน ลดลง 1.4%

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2563 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 74,115 คัน ลดลง 1.4% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,461 คัน ลดลง 20.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 51,654 คัน เพิ่มขึ้น 10.4%ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 40,837 คัน เพิ่มขึ้น 9.3%

  • ประเด็นสำคัญ

ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคมมีปริมาณการขาย 74,115 คัน ลดลง 1.4เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 20.7% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศกำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการ  อย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน” โครงการ คนละครึ่ง” และมาตรการ ช้อปดีมีคืน” ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค อีกทั้งราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ทำให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้สูงขึ้นและกำลังซื้อมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลในเชิงบวกให้กับตลาดรถยนต์ 

ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 10 เดือน มีปริมาณการขาย 608,880 คัน  ลดลง 27.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 36.8%ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 20.9% เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่มีมาตั้งแต่ต้นปี อย่างไรก็ตามจากการที่ภาครัฐฯ ออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชน และเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และผู้บริโภคให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้เช่นกัน นอกจากนี้ในด้านของตลาดรถยนต์ บรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆพยายามอย่างเต็มที่ในช่วงปลายปี ที่จะดึงดูดความสนใจและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ทั้งการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การออกกลยุทธ์ต่างๆ การบริการหลังการขาย เพื่อมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนมีทิศทางที่ดีขึ้น

  • ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2563
  • ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 74,115 คัน ลดลง 1.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      25,709 คัน      ลดลง        3.6%        ส่วนแบ่งตลาด 34.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ         17,174 คัน      เพิ่มขึ้น     44.8%        ส่วนแบ่งตลาด 23.2%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      9,011 คัน      ลดลง       7.2%         ส่วนแบ่งตลาด 12.2%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,461 คัน ลดลง 20.7%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า      7,233 คัน      ลดลง        6.9%        ส่วนแบ่งตลาด 32.2%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      6,245 คัน      ลดลง       32.0%       ส่วนแบ่งตลาด 27.8%

อันดับที่ 3 นิสสัน       2,602 คัน       เพิ่มขึ้น       0.0%        ส่วนแบ่งตลาด 11.6%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 51,654 คัน เพิ่มขึ้น 10.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า     19,464 คัน      เพิ่มขึ้น    11.3%         ส่วนแบ่งตลาด 37.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ         17,174 คัน      เพิ่มขึ้น    44.8%         ส่วนแบ่งตลาด 33.2%   

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ     2,985 คัน      ลดลง     23.8%         ส่วนแบ่งตลาด  5.8%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน*  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)

ปริมาณการขาย 40,837 คัน เพิ่มขึ้น 9.3%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      16,622 คัน      เพิ่มขึ้น       6.3%        ส่วนแบ่งตลาด 40.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ         16,010 คัน      เพิ่มขึ้น     51.5%        ส่วนแบ่งตลาด 39.2%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      2,985 คัน      ลดลง      23.8%        ส่วนแบ่งตลาด   7.3%

                             *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด ตัน) 4,127 คัน

                                       โตโยต้า 2,783 คัน– มิตซูบิชิ 816 คัน – ฟอร์ด 452 – คัน– อีซูซุ 70 คัน – เชฟโรเลต คัน 

  • ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 36,710 คัน เพิ่มขึ้น 11%

อันดับที่ 1 อีซูซุ         15,940 คัน      เพิ่มขึ้น     59.8%        ส่วนแบ่งตลาด 43.4%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      13,839 คัน      เพิ่มขึ้น     1.5%         ส่วนแบ่งตลาด 37.7%

                  อันดับที่ 3 ฟอร์ด       2,198 คัน      ลดลง      29.6%        ส่วนแบ่งตลาด   6.0%

  • สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม ตุลาคม 2563
  • ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 608,880 คัน ลดลง 27.3%

             อันดับที่ 1 โตโยต้า     182,840 คัน    ลดลง      33.7%        ส่วนแบ่งตลาด 30.0%

             อันดับที่ 2 อีซูซุ         140,700 คัน    เพิ่มขึ้น      2.1%        ส่วนแบ่งตลาด 23.1%

             อันดับที่ 3 ฮอนด้า      74,058 คัน     ลดลง      31.0%        ส่วนแบ่งตลาด 12.2%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 211,222 คัน ลดลง 36.8%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า      61,665 คัน      ลดลง     25.3% ส่วนแบ่งตลาด 29.2%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      51,921 คัน      ลดลง     47.0% ส่วนแบ่งตลาด 24.6%

อันดับที่ 3 นิสสัน       21,951 คัน      ลดลง     27.9% ส่วนแบ่งตลาด 10.4%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 397,658 คัน ลดลง20.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ         140,700 คัน    เพิ่มขึ้น    2.1%          ส่วนแบ่งตลาด 35.4%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      130,919 คัน    ลดลง     26.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.9%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      27,814 คัน    ลดลง    32.5%         ส่วนแบ่งตลาด  7.0%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)

ปริมาณการขาย 315,184 คัน ลดลง 22.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ          130,323 คัน    เพิ่มขึ้น    4.2%          ส่วนแบ่งตลาด 41.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      112,207 คัน    ลดลง     29.4% ส่วนแบ่งตลาด 35.6%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      27,814 คัน     ลดลง     32.5% ส่วนแบ่งตลาด   8.8%

                             *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด ตัน) 31,746 คัน

โตโยต้า 14,267 คัน – มิตซูบิชิ 7,386 คัน – อีซูซุ 4,225 คัน – ฟอร์ด 4,022 คัน – นิสสัน 1,174 คัน –เชฟโรเลต 672 คัน

  • ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 283,438 คัน ลดลง 20.3%

อันดับที่ 1 อีซูซุ         126,098 คัน    เพิ่มขึ้น      7.7%        ส่วนแบ่งตลาด 44.5%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      97,940 คัน     ลดลง      28.2%        ส่วนแบ่งตลาด 34.6%

                  อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      20,428 คัน      ลดลง      31.5%        ส่วนแบ่งตลาด  7.2%

Facebook Comments
Thunyaluk Seniwongs

Recent Posts