ตลาดรถยนต์กรกฎาคมเติบโตฝ่าสายฝน ยอดขายรวม 64,033 คัน เติบโต 22.1%

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2565 มีตัวเลขการขายรวมทั้งสิ้น 64,033 คัน เพิ่มขึ้น 22.1% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 19,194 คัน เพิ่มขึ้น 15% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 44,839 คัน เพิ่มขึ้น 25.4% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 34,054 คัน เพิ่มขึ้น 22.4%

  • ประเด็นสำคัญ

นายสุรศักดิ์ เปิดเผยว่า “ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคมมีปริมาณการขาย 64,033 คัน เพิ่มขึ้น

15.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 15% ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเจริญเติบโตเช่นเดียวกันที่ 25.4% แม้จะอยู่ในช่วงกลางฤดูฝนซึ่งปกติเป็นช่วง Low Season ของทุกปี แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ หลังหยุดชะงักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สังเกตุได้จากสภาพการจราจรบนท้องถนนที่กลับมาติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน (Rush hour) ซึ่งประชาชนต่างเร่งเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน และกลับมาติดขัดอีกครั้งในช่วงเย็นหลังเลิกงาน และถึงแม้สถานการณ์ราคาน้ำมันยังไม่ปรับลดลงจนประชาชนพอใจ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้รถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากมีความจำเป็นในการเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย กว่าการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้ยอดขายรถยนต์ใหม่ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง”

           นายสุรศักดิ์ กล่าวถึงแนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคมว่า “มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากการแนะนำรถยนต์รุ่นสำคัญเข้าสู่ตลาดของค่ายรถยนต์ ประกอบกับแรงกระตุ้นของแคมเปญการตลาดในช่วงงาน Bangkok International Grand Motor Show  2022 ในระหว่างวันที่ 19 – 28 สิงหาคม ศกนี้ ซึ่งนอกจากกระตุ้นยอดขายรถยนต์ภายในงาน ยังขยายข้อเสนอพิเศษไปยังโชว์รูมผู้แทนจำหน่าย ทั่วประเทศอีกด้วย นับเป็นโอกาสดีที่ทำให้ประชาชนสามารถมีรถยนต์ใช้ได้ง่ายขึ้น และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เจริญเติบโตผ่านเครือข่ายธุรกิจรถยนต์ได้อีกทางหนึ่ง”

  • ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกรกฎาคม 2565
  • ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,033 คัน เพิ่มขึ้น 22.1%                           

อันดับที่ 1 โตโยต้า      20,277 คัน      เพิ่มขึ้น       19.0%       ส่วนแบ่งตลาด 31.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ         16,282 คัน      เพิ่มขึ้น       19.0%         ส่วนแบ่งตลาด 25.4%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      7,256 คัน      เพิ่มขึ้น        4.3%       ส่วนแบ่งตลาด  11.3%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,194 คัน เพิ่มขึ้น 15%                             

อันดับที่ 1 โตโยต้า      5,096 คัน      เพิ่มขึ้น      14.1%       ส่วนแบ่งตลาด 26.5%อันดับที่ 2 ฮอนด้า         4,635 คัน      ลดลง        23.6%  ส่วนแบ่งตลาด 24.1%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      1,788 คัน      เพิ่มขึ้น      48.4%       ส่วนแบ่งตลาด  9.3%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 44,839 คัน เพิ่มขึ้น 25.4%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ                  16,282 คัน      เพิ่มขึ้น      19.0%       ส่วนแบ่งตลาด 36.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      15,181 คัน      เพิ่มขึ้น      20.7%       ส่วนแบ่งตลาด 33.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด       3,609 คัน      เพิ่มขึ้น     70.2%        ส่วนแบ่งตลาด  8.0%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 34,054 คัน เพิ่มขึ้น 22.4%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ                  14,832 คัน      เพิ่มขึ้น       19.6%      ส่วนแบ่งตลาด 43.6%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      12,659 คัน      เพิ่มขึ้น       19.8%      ส่วนแบ่งตลาด 37.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด       3,609 คัน      เพิ่มขึ้น       70.2%      ส่วนแบ่งตลาด 10.6%

                             *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,240 คัน

อีซูซุ 1,567 คันโตโยต้า 1,321 คัน ฟอร์ด 700 คันมิตซูบิชิ 560 คัน นิสสัน 92 คัน

  •  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 29,814 คัน เพิ่มขึ้น 18.7%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ                  13,265 คัน      เพิ่มขึ้น     15.8%        ส่วนแบ่งตลาด 44.5%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      11,338 คัน      เพิ่มขึ้น    19.9%        ส่วนแบ่งตลาด 38.0%

                  อันดับที่ 3 ฟอร์ด       2,909 คัน      เพิ่มขึ้น     53.8%        ส่วนแบ่งตลาด  9.8%      

  • สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม กรกฎาคม 2565
  • ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 491,329 คัน เพิ่มขึ้น 15.4%                           

อันดับที่ 1 โตโยต้า      162,309 คัน    เพิ่มขึ้น       20.9%      ส่วนแบ่งตลาด 33.0%

อันดับที่ 2 อีซูซุ         126,171 คัน    เพิ่มขึ้น       18.1%      ส่วนแบ่งตลาด 25.7%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       47,417 คัน     ลดลง         4.5%       ส่วนแบ่งตลาด  9.7%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 155,087 คัน เพิ่มขึ้น 13.2%                                 

อันดับที่ 1 โตโยต้า      43,990 คัน     เพิ่มขึ้น      28.7%       ส่วนแบ่งตลาด 28.4%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า      34,209 คัน     ลดลง       19.8%       ส่วนแบ่งตลาด 22.1%

อันดับที่ 3 มาสด้า      13,843 คัน     เพิ่มขึ้น     13.7%        ส่วนแบ่งตลาด  8.9%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 336,242 คัน เพิ่มขึ้น 16.5%                    

อันดับที่ 1 อีซูซุ                  126,171 คัน    เพิ่มขึ้น     18.1%        ส่วนแบ่งตลาด 37.5%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      118,319 คัน    เพิ่มขึ้น     18.3%        ส่วนแบ่งตลาด 35.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด       18,510 คัน      เพิ่มขึ้น      0.5%        ส่วนแบ่งตลาด  5.5%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 261,896 คัน เพิ่มขึ้น 16.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ          116,271 คัน    เพิ่มขึ้น     19.3%        ส่วนแบ่งตลาด 44.4%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      101,891 คัน    เพิ่มขึ้น     20.3%        ส่วนแบ่งตลาด 38.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด       18,510 คัน     เพิ่มขึ้น       0.5%        ส่วนแบ่งตลาด  7.1%

                             *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 33,826 คัน

โตโยต้า 14,787 คันอีซูซุ 10,662 คันมิตซูบิชิ 4,714 คัน ฟอร์ด 2,946 คัน นิสสัน 717 คัน

  •  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 228,070 คัน เพิ่มขึ้น 17.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ                  105,609 คัน    เพิ่มขึ้น     21.3%        ส่วนแบ่งตลาด 46.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      87,104 คัน     เพิ่มขึ้น     22.2%        ส่วนแบ่งตลาด 38.2%

                  อันดับที่ 3 ฟอร์ด       15,564 คัน      ลดลง        0.6%        ส่วนแบ่งตลาด  6.8%    

Facebook Comments