จากเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ รถทั้งสองรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด เอสเฮชวีเอส SHVS หรือ Smart Hybrid Vehicle by Suzuki พร้อมระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ เครื่องยนต์เบนซิน ดวลเจ็ต Dualjet 1.2 ลิตร ระบบเปลี่ยนพลังงานจลน์ จากการเบรก ให้เป็นกระแสไฟฟ้า พร้อมระบบอินติเกรท สตาร์ทเตอร์ เจเนอเรเตอร์ ISG Integrated Starter Generator ที่ช่วยเสริมแรงขณะต้องการเร่งแซง ส่วนรุ่น อาร์เอส RS ก็มีระบบเดียวกัน เพียงแต่ใช้เครื่องยนต์ บูสเตอร์เจ็ท Boosterjet เทอร์โบ 1.0 ลิตร เท่านั้น
ข้อมูลเป็นทางการระบุว่า สวิฟท์ รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย สำหรับรถสเปคญี่ปุ่น ที่พบกันอยู่ในรถรุ่นใหญ่ๆ อาทิ ระบบเซ็นเซอร์คู่ช่วยการเบรก DSBS ซึ่งช่วยเบรกอัตโนมัติ, ระบบช่วยปรับไฟสูง-ต่ำของไฟหน้า ตามสภาพการจราจร, ระบบควบคุมความเร็ว พร้อมปรับความเร็วรถตามคันหน้า มีให้เลือกทั้งรุ่นขับหน้า หรือขับเคลื่อนสี่ล้อ
สวิฟท์ ใช้โครงสร้างเดียวกับ บาเลโน่ Baleno แต่จะให้ความรู้สึกสนุกในการขับขี่มากกว่า รวมทั้งการออกแบบภายนอกที่ทำให้ดูสปอร์ตขึ้น
ขนาดของรถจะยาวขึ้น เตี้ยลง และกว้างกว่ารุ่นปัจจุบัน รวมทั้งการลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็น และการเลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบาเป็นแชสซีส์ เช่นเดียวกับ บาเลโน่ และด้วยขนาดของรถน่าจะมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 900 กก. ซึ่งช่วยในเรื่องของการประหยัดเชื้อเพลิง การลดค่าไอเสีย และความคล่องแคล่วในการขับขี่
ส่วนรุ่น สวิฟท์ สปอร์ต จะออกสู่ตลาดในภายหลัง ปี 2561 ด้วยเครื่องยนต์ บูสเตอร์เจ็ท Boosterjet เทอร์โบ 1.4 ลิตร 138 แรงม้า ที่หยิบยืมมาจาก วิทาร่า เอส แต่สามารถเพิ่มแรงบิดได้ดีกว่า อันเนื่องมาจากการลดนำ้หนักตัวลง
และเช่นเคยกับรถยนต์ซูซูกิ ที่สามารถตั้งราคาได้ใกล้เคียงกับรุ่นเดิม ด้วยราคาเริ่มต้น 8,999 ปอนด์ ราว 359,960 บาท
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…