นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2563 ณ อิมแพ็คชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี ซึ่งเป็นงานจัดแสดงรถยนต์ที่จัดขึ้นเป็นประจำในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูขายรถ จึงน่าจะเป็นอีกงานหนึ่งที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในปีนี้ที่อุตสาหกรรมยานยนต์และธุรกิจอื่นๆ ภายใน ประเทศ ประสบวิกฤติจากโรคระบาดอย่างโควิด-19
จากระยะเวลาเกือบ 1 ปี ที่ผ่านมา วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อ เศรษฐกิจ อุตสาหกรรมยานยนต์ และประชาชนคนไทยทุกท่าน ล้วนต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความยากลำบากด้วยกันทั้งสิ้น แต่จากนโยบายในการบริหารจัดการของภาครัฐ รวมถึงการให้ความร่วมมือ เฝ้าระวัง และดูแลตนเองอย่างมีระเบียบวินัยของคนไทย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและการแพร่ระบาดภายในประเทศมีสถานการณ์ที่ดีกว่าในหลายประเทศทั่วโลกเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มกลับมามีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่ซูซูกิเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2554 ซูซูกิ ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย แม้ในสภาวะวิกฤติครั้งนี้เราจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันกับผู้ประกอบการรายอื่น นอกจากการพยายามปรับกลุทธ์ทางธุรกิจเพื่อให้สามารถรักษาระดับยอดขายไว้ได้แล้ว
สิ่งหนึ่งที่เรามีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก คือ การทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคม ด้วยมุ่งหวังให้ลูกค้าและพี่น้องชาวไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน โดยทางซูซูกิได้ ร่วมมือ ร่วมใจกับผู้จำหน่ายทุกราย ริเริ่มโครงการช่วยเหลือในช่วงวิกฤติโควิด-19 อย่างโครงการแครี่ ปันสุข และบริการฉีดยาฆ่าเชื้อฟรี สำหรับรถลูกค้าที่เข้ามารับบริการ รวมถึงช่วงสถานการณ์น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ ทางผู้จำหน่ายก็ได้มีการปรับแต่งรถยนต์ซูซูกิเพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกด้วย
ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงการช่วยเหลือดูแลสังคมและลูกค้าเท่านั้น ซูซูกิและผู้จำหน่ายทุกรายล้วนให้ความสำคัญกับพนักงานของซูซูกิที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติในช่วงที่ผ่านมา เพราะเราเชื่อมั่นว่า พนักงาน คือ ทรัพยากรอันมีค่าที่สุดขององค์กร จึงได้จัดโครงการ Suzuki will never drive alone จุดประสงค์เพื่อสนับสนุนเงินช่วยเหลือพนักงานกับผู้จำหน่าย ประคับประคองพนักงานของผู้จำหน่ายให้สามารถยืนหยัด และฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงเวลาที่ยากลำบากเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติคร้ังนี้ไปได้ด้วยดี
ทั้งนี้ แม้จะอยู่ในช่วงที่ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่กลับยังมีนักธุรกิจที่เชื่อมั่นและให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุนกับซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จนทำให้เราเตรียมที่จะขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อดูแลลูกค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เกินกว่า 130 แห่ง ภายในเดือนมีนาคม 2564 นี้
ดังนั้น การที่เรายังสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่เพียงการมีผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ที่รองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างหลากหลายเท่านั้น แต่มาจากความตั้งใจจริง ที่ต้องการยกระดับคุณภาพของแบรนด์ให้เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคชาวไทยมากขึ้น จึงส่งผลให้ซูซูกิ ยังคงมีการเติบโตและรักษาระดับยอดขายไว้ได้เป็นอย่างดี โดยหากดูยอดขายรวมในช่วง มกราคม-ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ยอดขายของซูซูกิ ลดลงน้อยกว่าตลาด 4%
“การกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งของ SUZUKI CELERIO ที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและรักษาระยะห่างทางสังคมในการเดินทางช่วงโควิด-19 ด้วยราคาจำหน่ายและการผ่อนชำระต่อเดือนที่ตัดสินใจง่ายจึงช่วยผลักดันให้ยอดขายเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งในช่วงที่ผ่านเรามีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกมา 2 รุ่น คือ SUZUKI XL7 รถครอสโอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง และ SUZUKI SWIFT GL MAX EDITION สปอร์ตอีโคคาร์ที่เร้าใจกว่าเดิมด้วยชุดแต่งพิเศษรอบคัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทั้ง 2 รุ่นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดียิ่งจากลูกค้าของซูซูกิ”
สำหรับการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 หรือ Thailand International Motor Expo 2020 ซูซูกิ ยังคงนำรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่นเข้าร่วมโชว์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Delight Your Way” ตอบโจทย์ทุกการเดินทางที่เป็นคุณ ซึ่งผู้เข้าร่วมชมงานทุกท่านจะได้พบกับผลิตภัณฑ์คุณภาพจากซูซูกิที่จะมาพร้อมดีไซน์ กับสมรรถนะที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในทุกด้านของผู้บริโภค ไม่ว่าจะขับแบบเดิมๆ หรือนำไปตกแต่งเพื่อสร้างความแตกต่าง ก็สามารถมอบความเท่อย่างมีสไตล์ได้ในทุกรุ่นทุกคัน
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมงาน Thailand International Motor Expo 2020 ด้วยสถานการณ์หลายอย่างเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงบรรยากาศที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อรถในช่วงปลายปี เราคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างยอดจองได้ถึง 2,500 คัน ภายในงานปีนี้
โดยผู้เข้าชมงานทุกท่านจะได้พบกับรถยนต์ของซูซูกิทุกรุ่น ไฮไลท์สำคัญ คือ SUZUKI SWIFT GL MAX Edition รุ่นตกแต่งพิเศษ ด้วยชุดสเกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์หลัง สติ๊กเกอร์ลายพิเศษรอบคัน และเสาอากาศครีบฉลาม ซึ่งพร้อมจะมาอวดโฉมให้ลูกค้าที่ชื่นชอบในความโดดเด่นและแตกต่างไม่ซ้ำใคร ในราคาเพียง 541,000 บาท
SUZUKI XL7 รถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง ที่มาต่อยอดความสำเร็จในฐานะรถสำหรับครอบครัว ที่มอบสมรรถนะในการขับขี่และทุกฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงนี้ นับตั้งแต่เปิดตัวสามารถทำยอดขายไปได้แล้วถึง 3,454 คัน (ณ เดือนพฤศจิกายน 2563) SUZUKI XL7 โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light ตกแต่งใต้กันชนด้วยวัสดุสีเงินรอบคัน ซุ้มล้อสีดำพร้อมล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว ราวหลังคาเพิ่มการบรรทุกสัมภาระมากยิ่งขึ้น คอนโซลหน้าสไตล์สปอร์ต ตกแต่งด้วยวัสดุลาย Carbon Fiber พร้อมคิ้วโครเมียม มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลแจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ ห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย ด้วยเบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวที่สอง ปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40 สามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร เข้า-ออกสะดวกและง่ายดาย เบาะนั่งแถวที่สามปรับพับแยกเบาะแบบ 50:50 สามารถปรับพับเบาะนั่งได้หลายรูปแบบเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย มิติรถขนาดใหญ่ที่มีความยาว 4,450 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,775 มิลลิเมตร และความสูง 1,710 มิลลิเมตร รวมถึงการออกแบบความสูงของรถให้มีระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถมีความสูงถึง 200 มิลลิเมตร มอบวิสัยทัศน์ในการขับขี่และขับผ่านอุปสรรคบนท้องถนนที่ดียิ่งขึ้น ด้วยราคาจำหน่าย 779,000 บาท และดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%
นอกจากนั้น ยังคับคั่งไปด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพรุ่นยอดนิยมจากซูซูกิ ประกอบไปด้วย SUZUKI SWIFT สปอร์ตอีโคคาร์ยอดนิยมของคนไทย สร้างยอดขายเป็นอันดับหนึ่งของซูซูกิมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากดีไซน์อันโดดเด่น เครื่องยนต์รหัส K12M ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่ DUALJET ช่วยลดมลพิษและประหยัดน้ำมันถึง 23 กิโลเมตรต่อลิตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 499,000 บาท
SUZUKI CIAZ พรีเมียมอีโคคาร์ซีดานที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยนับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความสดใหม่ ชูความสปอร์ตเร้าใจและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้น วางราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 523,000 บาท
SUZUKI CELERIO รถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คคุณภาพเกินตัว และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รถยนต์รุ่นนี้สามารถทำยอดขายได้ดีเกินคาด ส่วนหนึ่งมาจาก สมรรถนะการขับที่ดี ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นเจ้าของได้ง่าย ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 318,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยพิเศษและผ่อนสบายเพียง 1,999 บาท ต่อเดือน
SUZUKI ERTIGA ยนตรกรรมอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง หนึ่งในรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก (MPV) รุ่นขายดี ที่ยังเดินหน้าสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ รูปทรงสวยทันสมัย ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวเร้าใจ ด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยม ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ เสริมด้วยไฟตัดหมอกทรงกลม ไฟท้าย LED และล้ออลูมิเนียมอัลลอยขนาด 15 นิ้ว ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 659,000 บาท
SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ มิติตัวรถขนาดความยาว 4,195 มม. ความกว้าง 1,765 มม. และความสูง 1,910 มม. กระบะบรรทุกแบบเรียบ ผลิตจากแผ่นเหล็กเสริมกัลวาไนซ์มีคุณสมบัติป้องกันสนิมและการสึกกร่อน เพิ่มความกว้างและความยาวของพื้นที่บรรทุกอยู่ที่ 1,670 มม. และ 2,450 มม. สามารถเปิดได้ทั้ง 3 ด้าน ขนถ่ายสัมภาระได้สะดวกยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ รับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดถึง 945 กิโลกรัมราคาจำหน่ายเพียง 385,000 บาท
สำหรับในโซน Customized ทางซูซูกิยังคงนำรถรุ่นยอดนิยมมาร่วมจัดแสดงภายในงาน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถที่ไม่เหมือนใคร ทั้งในรุ่น SUZUKI SWIFT SUZUKI XL7 SUZUKI ERTIGA และ SUZUKI CELERIO อีกทั้งยังมี SUZUKI CARRY ที่ตกแต่งพิเศษในรูปแบบ Pet Spa สำหรับธุรกิจ SME ต่อยอดไอเดียการใช้รถในเชิงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และนำเสนอรูปแบบการตกแต่งที่น่าสนใจ ซึ่ง SUZUKI CARRY เป็นได้มากกว่า Food Truck เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการที่สนใจต้องการจะมีธุรกิจเป็นของตนเองอีกด้วย ทั้งนี้ ซูซูกิ ยังได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่าน เพื่อให้สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่นได้ง่ายยิ่งขึ้น! ลูกค้าจองรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่น ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 จะได้รับแคมเปญพิเศษทันที ขับฟรี 90 วัน! พร้อมฟรี ประกันภัยชั้น 1 สิทธิพิเศษต่างๆ อีกมากมายแบบไม่ต้องลุ้น
นายวัลลภ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์ของซูซูกิทุกรุ่นสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงใจและหลากหลายเรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งตัวสินค้าและงานบริการในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเรายังมีผู้จำหน่ายที่เข้มแข็ง ที่พร้อมจะพัฒนาและเดินเคียงคู่ไปด้วยกัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นถึงความจริงใจและเจตจำนงค์อันดี จากความพยายามของผู้จำหน่ายในการเข้าไปดูแลช่วยเหลือลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นในช่วงโควิด-19 กับโครงการแครี่ “ปันสุข” บริการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคฟรี หรือช่วงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ก็มีการปรับแต่งรถเพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกด้วย
“ซูซูกิ มีความต้องการให้ผู้บริโภคทุกคนเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดี และการบริการที่ดีทั้งก่อนและหลังการขาย เราจึงไม่ได้มุ่งหวังแค่จะสร้างยอดขายให้เติบโตเพียงเท่านั้น แต่เราต้องการที่จะสร้างให้ซูซูกิเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อถือและไว้วางใจเดินคู่เคียงข้างคนไทยต่อไปในอนาคต”
ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธรถยนต์ซูซูกิ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2- 13 ธันวาคม 2563 ณ อิมแพ็คชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี หรือที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…