บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) และ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (โตโยต้า) ได้จับมือกันเพื่อผลักดันเป้าหมาย สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย พร้อมเปิดกว้างพันธมิตรทุกภาคส่วน
นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี พ.ศ.2464 ซีพี ได้ดำเนินการและขยายธุรกิจในประเทศไทยในหลากหลายสาขา โดยยึดหลักการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ประชาชน ซึ่งขยายโอกาสการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพ รวมถึงการจัดจำหน่าย อุตสาหกรรม เกษตรกรรม และปศุสัตว์ ในด้านการจัดจำหน่าย ซีพี ได้ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านการขนส่ง และส่งมอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ผ่านการดำเนินการที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึง 7-Eleven และช่องทางค้าปลีก ค้าส่ง โดยคำนึงถึงผลกระทบด้านสังคม เศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม ตลอดจนแนวทางเพื่อความยั่งยืน ทั้งนี้ ซีพี ได้กำหนดเป้าหมายสู่การเป็นองค์กร Carbon Neutral ภายในปี ค.ศ.2030 และการบรรลุเป้าหมาย Zero Carbon ภายในปี ค.ศ.2050 แม้จะเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ซีพี มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ โดยร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในหลายประเทศ
สำหรับโตโยต้า บริษัทฯ เริ่มดำเนินธุรกิจ โดยได้รับการสนันสนุนจากทุกภาคส่วน อาทิเช่น บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของโตโยต้า และได้เจริญเติบโตไปพร้อมกับพัฒนาการของสังคมไทย ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การชำระภาษี การจ้างงาน และการถ่ายทอดเทคโนโลยี และในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็ได้ผ่านความท้าทายต่างๆ เช่น วิกฤตทางการเงินในภูมิภาคเอเชียในปี พ.ศ.2540 และอุทกภัยในปี พ.ศ.2554
มร.อากิโอะ โตโยดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะกรรมการบริหารของ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทั้งสองบริษัทฯ ซึ่งต่างคำนึงถึงประเทศไทยและโลกใบนี้ ได้เห็นร่วมกันที่จะดำเนินการในสิ่งที่เราสามารถเริ่มต้นทำได้ในขณะนี้ โดยอาศัยจุดแข็งและทรัพยากรที่มีอยู่ของแต่ละบริษัทฯ ผมเชื่อว่าการริเริ่มในครั้งนี้ จะนำไปสู่การยอมรับและสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม” นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสของ ซีพี ได้กล่าวตอบว่า “สิ่งที่ประธาน
โตโยดะและผม มีร่วมกันคือ ความรู้สึกที่ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินไทย ผมรู้สึกยินดีที่ทั้งสองบริษัทฯ มีโอกาสร่วมมือกันเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย และยังเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนมาช่วยกันศึกษา หาแนวทางเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซีพี และ โตโยต้า จะแสวงหาความร่วมมือทางสังคม ด้วยการเชื่อมโยงกันระหว่างสองบริษัทฯ เราจะช่วยกันดำเนินการในสิ่งที่สามารถทำได้ในขณะนี้ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนกระบวนการผลิต การขนส่ง และการใช้พลังงาน เพื่อนำไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใต้กรอบความร่วมมือดังนี้
โดยความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ ทรู ลิสซิ่ง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือซีพี ที่ให้บริการด้านการขนส่ง จะเข้าร่วมกับ
โตโยต้า ที่จะเริ่มพิจารณาจากการมีส่วนร่วมของ Hino Motors, Ltd. และกลุ่มบริษัทใน Commercial Japan Partnership Technologies Corporation (ประกอบด้วย ISUZU Motors Limited, SUZUKI Motor Corporation, DAIHATSU Motor Co., Ltd. และ TOYOTA) ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยแก้ปัญหาความท้าทายที่ภาคการขนส่งต้องเผชิญ และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการเผยแพร่เทคโนโลยี CASE ในภูมิภาคเอเชียและการมุ่งสู่เป้าหมายนั้น ทุกอุตสาหกรรมและประชาชนทุกคนควรทำงานร่วมกัน ซีพี และ โตโยต้า จึงอยากเชิญทุกภาคส่วนที่มีความปรารถนาเดียวกัน เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในความร่วมมือครั้งนี้
หมายเหตุ: การแถลงข่าวจะดำเนินการในวันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น (17:30 น. ตามเวลาประเทศไทย) และจะมีการถ่ายทอดสด (Livestreaming) ซึ่งสามารถรับชมได้ที่นี่
————————————————————-
CP and Toyota to join forces to study path toward carbon neutrality in Thailand
Charoen Pokphand Group (CP) and Toyota Motor Corporation (Toyota) will explore collaboration toward carbon neutrality in Thailand. Both companies are willing to welcome any partners who share the same view.
Since its establishment in 1921, CP has been operating with the core value of three benefits: to country, to people, and to organization. CP provides accessibility to high quality products and expands its business in Thailand to a wide range of fields, including retail (such as 7-Eleven), distribution, industrial product, and agriculture & livestock. In the distribution field, CP has been supporting the lives of Thai people by transporting and delivering a variety of products through its wide-ranging operations, considering social, economic and environmental impacts and sustainability practices.
In addition, Toyota’s business in Thailand has garnered the support of a number of stakeholders including Siam Cement Group, an important local partner for Toyota, and has grown along with the development of Thai society through products, tax payment, employment and technology transfer, while overcoming a number of challenges such as the 1997 Asian financial crisis and the 2011 floods.
Akio Toyoda, President and CEO of Toyota, commented, “The two companies, both of which consider the best for Thailand and the Earth, have agreed to proceed with what we can do now, by using each company’s strengths and assets. I believe that taking this crucial step will allow us to be rewarded with the appreciation from the country, and will change the future landscape.” Dhanin Chearavanont, Senior Chairman of C.P. Group, responded, “What President Toyoda and I share is affection and gratitude to Thailand, and both of us very much want to give back to the country. I am delighted that both companies have an opportunity to jointly consider collaboration toward carbon neutrality in Thailand and welcome any companies that share the same carbon neutrality ambitions.”
Specifically, CP and Toyota will explore social implementation in the following three areas. With these actions being linked with each other, the two companies will proceed with what can be done now, to consistently reduce CO2 emissions throughout the entire process of producing, transporting, and using energy, toward accelerating carbon neutrality.
1. Production of hydrogen using biogas derived from farm wastes (with the focus on economic zones)
2. Introduction of fuel cell delivery trucks into CP’s fleet, which are to use the above-mentioned hydrogen (provide a variety of solutions such as BEV and FCEV, considering travel distance and load weight)
3. Efficient logistics by proposing optimized delivery routes through connectivity technology
This collaboration will be considered with the participation of True Leasing Co., Ltd, CP’s transportation service business. In addition, the study will be conducted with Hino Motors, Ltd. who will participate into these efforts, which will be made in Asia by Commercial Japan Partnership Technologies Corporation (capitalized by Isuzu Motors Limited, Suzuki Motor Corporation, Daihatsu Motor Co., Ltd., and Toyota), which has been established with the aim of helping solve challenges faced by the transport sector and achieve carbon neutrality by realizing and spreading CASE technology. Furthermore, as carbon neutrality should be tackled by all people and industries, CP and Toyota are willing to welcome any partners who share the same view toward carbon neutrality.
Note: A press conference about this announcement is planned at 19:30 Japan Standard Time on Wednesday, December 14, 2022. Livestreaming of the conference is available here.
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…