The All-New Lexus NX ขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ระบบส่งกำลัง 6 แบบ ซึ่งรวมไปถึงรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดแบบปลั๊กอินเพื่อเสริมความแข็งแกร่งภายใต้แนวคิด “Lexus Electrified” สร้างขึ้นบนความสำเร็จของรถ Crossover สุดหรู NX เจเนอเรชันแรกที่เปิดตัวในปี 2014 Lexus NXปรับโฉมใหม่อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อนำเสนอมาตรฐานเอกลักษณ์การขับขี่ที่มีลักษณะเฉพาะภายใต้แนวคิด “Lexus Driving Signature” ที่ได้ถูกแนะนำครั้งแรกในรุ่น IS ซึ่งเป็นการผสมผสานกับการยกระดับสมรรถนะการขับขี่ การออกแบบและเทคโนโลยีขั้นสูง ทิศทางการออกแบบของ Lexus ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่มอบสมรรถนะอันปราดเปรียวผ่านการผสมผสานระหว่าง “ความเรียบง่าย” ที่ฝังรากอยู่ในเทคโนโลยีและ “เอกลักษณ์” เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงล่าสุดของ Lexus และการปรับปรุงความสะดวกสบายตามแนวคิดที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางของแบรนด์หรูของญี่ปุ่น Lexus ประกาศเปิดตัว The All-New Lexus NX ครั้งแรกของโลก ที่ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า Lexus ทั่วโลก และแพร่ขยายความเป็นผู้นำของเลกซัสในด้านความหรูหราที่ยั่งยืน
นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1989 Lexus มุ่งมั่นในจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมและยังคงรับมือกับความท้าทายในการนำเสนอเทคโนโลยีและค่านิยมใหม่ๆ แก่ลูกค้า ด้วยการเปิดตัว RX รุ่นแรกในปี 1998 Lexus ได้สร้างสรรค์รถยนต์ Luxury Crossover SUV ระดับหรูรูปแบบใหม่ และได้เป็นผู้นำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ร่วมกับ The All-New NX ที่จะสานต่อความเป็นผู้นำในรถยนต์ SUV สุดหรู
Lexus NX เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ตามแนวคิด “Premium Urban Sports Gear” ตั้งแต่นั้นมารถยนต์ Crossover สุดหรูก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากสมรรถนะการขับขี่ที่คล่องตัวและการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวและโดดเด่น NX มียอดขายประมาณหนึ่งล้านคันทั่วโลก (ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2021) ในกว่า 90 ประเทศและภูมิภาค
The All-New NX นั้นถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “Vital x Tech Gear” ซึ่งผสมผสานความปราดเปรียว (Vital) เข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง (Tech) ด้วยสัดส่วนของรถที่ดูแข็งแกร่งและสะดุดตา ตลอดจนการเสริมความแข็งแกร่งของพื้นฐานรถและเทคโนโลยีใหม่ขั้นสูงมากมายจะทำให้ลูกค้าที่ได้ทดลองขับ The All-New NX ได้รับประสบการณ์การตอบสนองของรถที่ดียิ่งขึ้น
การปรับปรุงการควบคุมการขับขี่ตามหลักอากาศพลศาสตร์ และการลดน้ำหนักที่พิจารณามาอย่างละเอียดเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่รวมไว้เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ “ Lexus Driving Signature” ซึ่งจะเป็นจุดเด่นของรถยนต์ Lexus ในอนาคตทั้งหมด ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ ”Lexus Electrified” The All-New NX จะวางจำหน่ายทั้งรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) และรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดแบบปลั๊กอิน (PHEV) รุ่นแรกของ Lexus
ทางเลือกของเครื่องยนต์ที่หลากหลายใน Lexus NX ใหม่นี้ จะช่วยเร่งการเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าให้เร็วยิ่งขึ้นจึงเป็นการเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้นเพื่อเพิ่มการแสวงหาความเป็นกลางของคาร์บอน นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกระบบส่งกำลังอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง NX จะมีให้เลือกในเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 2.4 ลิตรอีกด้วย
คุณสมบัติหลักของ ALL NEW NX NX ใช้ระบบส่งกำลังที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าและเพื่อให้เกิดสังคมที่ปราศจากคาร์บอนระบบส่งกำลังที่มีจำหน่าย ได้แก่ PHEV รุ่นแรกของ Lexus PHEV ที่ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุสูง เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 4 สูบแถวเรียงขนาด 2.4 ลิตรที่พัฒนาขึ้นใหม่ และเครื่องยนต์ที่ไม่มีระบบอัดอากาศ 4 สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตร – ทั้งหมดมีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ที่มีให้ในรุ่นที่ติดตั้ง PHEV และระบบส่งกำลังเทอร์โบ 2.4 ลิตร ในขณะที่ทั้ง AWD และระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) มีอยู่ในรุ่นที่ติดตั้ง HEV และระบบส่งกำลังขนาด 2.5 ลิตร NX ใหม่ คือการปรับโฉมใหม่เต็มรูปแบบครั้งแรกของ Lexus เพื่อให้สัมผัสได้ถึง Lexus Driving Signature (LDS) ลูกค้า NX ใหม่ จะได้สัมผัสกับ LDS ที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาโดยตรงผ่านคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความเสถียรของรถยนต์ กำลังเครื่องยนต์ และความปลอดภัยที่มากขึ้น NXใหม่ จะมอบความรู้สึกในการขับขี่ที่ตอบสนองได้ทันทีด้วยการสื่อสารกับพวงมาลัยโดยตรงระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ วิศวกรของ Lexus ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพื่อให้แน่ใจว่า Lexus NX จะตอบสนองต่อความตั้งใจของผู้ขับขี่อย่างตรงไปตรงมา ดำเนินการประเมินและทดสอบรถยนต์ที่ศูนย์เทคนิค Shimoyama เพื่อปรับแต่งให้ตรงกับความพึงพอใจในการขับขี่สูงสุด AWD ที่พัฒนาขึ้นใหม่และควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ตลอดเวลาได้ถูกนำไปใช้กับรุ่นเทอร์โบชาร์จ 2.4 ลิตร ทิศทางการออกแบบของ Lexus เจนเนอร์เรชันใหม่ที่มีรากฐานมาจากสัดส่วนของที่ดูเข้มแข็งและก่อให้เกิดความประทับใจในด้านสมรรถนะและการทำงาน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าทั่วโลกNX แสดงองค์ประกอบของภาษาการออกแบบ Lexus ที่พัฒนาขึ้นซึ่งแสวงหา“ความเรียบง่าย” ที่ฝังรากอยู่ในเทคโนโลยีและ “เอกลักษณ์” ในส่วนผสมที่ลงตัวสร้างให้เกิดสมรรถนะอันปราดเปรียว การออกแบบภายนอกของ NX แสดงออกถึงรูปแบบที่น่าดึงดูดใจ โดยจำลองลักษณะภายนอกทุกส่วนใหม่ ด้วยเค้าโครงที่มีพลัง ที่สามารถรับรู้ผ่านได้จากแพลตฟอร์มของรถยนต์รุ่นใหม่ ภายในของ NX เป็นห้องโดยสารแรกที่รวมเอาแนวคิด Tazuna Concept มาใช้ในการออกแบบบริเวณแผงควบคุมด้านหน้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่เชื่อมต่อกับรถได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีสมาธิกับการขับขี่มากขึ้น NX ใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกันล่าสุด และเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกขั้นสูง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง“Lexus Safety System+” เจเนอเรชันใหม่นำเสนอเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำหน้าพร้อมที่จะคอยช่วยเหลือผู้ขับขี่ตลอดเวลาระบบ E-latch ที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกใน Lexus จะควบคุมการล็อคและปลดล็อคประตูแบบอิเล็กทรอนิกส์ NX สามารถติดตั้งระบบ “Advanced Park” ของ Lexus ได้ TAKEAKI KATO หัวหน้าวิศวกร LEXUS INTERNATIONAL “การพัฒนา NX ใหม่ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่สำหรับ Lexus เราใช้ “การพัฒนาแบบดิจิทัล” เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพ โดยการประเมินโครงสร้างการออกแบบที่รอบคอบภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ โดยใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบการทำงาน ในแง่ของการขับขี่ นักแข่งรถมืออาชีพได้ทำการทดสอบเพื่อประเมินผลที่สนามทดสอบ Shimoyama โดยทดสอบโครงสร้างตัวถังรถอย่างละเอียดและควบคุมแรงขับเคลื่อนเพื่อสืบทอดและพัฒนารสชาติการขับขี่ของ Lexus
ระบบส่งกำลังมีให้เลือกหลากหลาย รวมถึง PHEV รุ่นแรกของ Lexus เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 2.4 ลิตรที่พัฒนาขึ้นใหม่ และ full-time AWD ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ตลอดจนเทคโนโลยีขั้นสูงจำนวนมาก และมัลติมีเดียรุ่นใหม่ การออกแบบและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่น่าดึงดูดใจเกิดขึ้นจากความร่วมมือของผู้จัดจำหน่ายและนวัตกรรมในเทคโนโลยีการผลิตที่มากมาย การวางแผน การพัฒนา วิศวกรรมการผลิต และการผลิตเชื่อมต่อกันทางออนไลน์ข้ามพรมแดนในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก เช่น การเคลื่อนย้ายที่มีขีดจำกัด และเป็นครั้งแรกสำหรับ Lexus ที่การผลิตดำเนินการในสามแห่งทั่วโลก ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้โดยทีมงานของเราที่ทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่เพื่อรอยยิ้มของลูกค้า เราหวังว่าคุณจะได้สัมผัสกับความท้าทายของ Lexus รุ่นใหม่และ NX ใหม่ ซึ่งเรา ทีมพัฒนาได้ทุ่มเทความตั้งใจให้กับการส่งมอบประสบการณ์ที่ดี่ที่สุดให้กับท่าน”
ALL-NEW NX: ข้อมูลจำเพาะ
ความยาว 4,660 (+20) มม. ความกว้าง 1,865 (+20) มม. ส่วนสูง 1,640(+5) มม. ความยาวช่วงล้อ 2,690 (+30) มม. ระบบส่งกำลังเครื่องยนต์ สี่สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตร พร้อมระบบไฟฟ้าไฮบริดแบบปลั๊กอินเครื่องยนต์ สี่สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตร พร้อมระบบไฟฟ้าไฮบริดเครื่องยนต์ สี่สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตรเครื่องยนต์ เทอร์โบสี่สูบแถวเรียงขนาด 2.4 ลิตร ขนาดยาง235/50R20235/60R18
รถยนต์ระบบ PHEV รุ่นแรกจากเลกซัส จากวิสัยทัศน์ด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า “Lexus Electrified” ที่ประกาศในปี 2019 Lexus ตั้งเป้าที่จะมอบความสนุกสนานและความเพลิดเพลินที่รถยนต์มอบให้แก่ลูกค้า แม้กระทั่งในยุคของสังคมแห่งการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การทำเช่นนี้จะทำให้จำเป็นต้องมีวิวัฒนาการของสมรรถนะพื้นฐานของรถยนต์ Lexus เพิ่มความเร็วในการผลิตและใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า (พร้อมกับ HEV) ด้วยการเปิดตัวระบบส่งกำลัง PHEV รุ่นแรกของLexus ใน all-new Lexus NX PHEV โมเดลหลักระดับโลกซึ่งนำเสนอช่วงการใช้งานของ EV ที่เป็นไปได้จริง ประสิทธิภาพการเร่งความเร็วที่ทรงพลัง และความเงียบที่เหนือกว่า
ระบบไฮบริดแบบปลั๊กอิน
ระบบไฮบริดแบบปลั๊กอินที่ใช้ในเวอร์ชั่น PHEV ของ NX ติดตั้งด้วยเครื่องยนต์สี่สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตร
แบบประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังและความจุสูงและมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าและด้านหลัง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีกำลังส่งออกที่น่าประทับใจถึง 18.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ซึ่งมอบช่วงการใช้งาน EV ชั้นชั้นยอดและกำลังสำหรับการขับขี่ทุกวัน ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้สี่โหมด (โหมด EV โหมด AUTO EV/HEV โหมด HEV และโหมดชาร์จเอง) เพียงกดสวิตช์ ในโหมด HEV เครื่องยนต์และมอเตอร์จะทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้อัตราเร่งที่สูง นอกจากนี้ เมื่อเลือกโหมด AUTO EV/HEV โดยป้อนปลายทางเข้าสู่ระบบนำทาง โหมด EV/HEV ที่คาดการณ์ล่วงหน้าของ Lexus จะเปลี่ยนไปใช้โหมด HEV บนทางหลวงและสภาพถนนอื่นๆ โดยอัตโนมัติตามข้อมูล เช่น พลังงานแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ เส้นทาง และข้อมูลการจราจร ทั้งหมดเพื่อการขับขี่ที่ประหยัดพลังงาน
การขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ LEXUS จะช่วยมอบสมดุลในการบังคับเลี้ยวที่ตอบสนองได้ทันทีและกำลังในการขับเคลื่อนรถยนต์ SUV
รถยนต์ NX ใหม่ใช้โครงสร้างสถาปัตยกรรมยานยนต์ GA-K เพื่อให้ได้ตัวถังที่มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงสูง โดยมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเพื่อให้สามารถบังคับควบคุมรถได้อย่างเหนือชั้น สมรรถนะพื้นฐานของรถได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสืบทอดเอกลักษณ์การขับขี่ในแบบเฉพาะของ Lexus ซึ่งเป็นการขับขี่ที่สามารถตอบสนองต่อการบังคับเลี้ยวของผู้ขับขี่ได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการควบคุมที่ปรับปรุงเพื่อให้ได้การตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวระบบส่งกำลังให้เลือกถึง 8 รุ่น รวมถึง PHEV รุ่นแรกของ Lexus เพื่อนำเสนอระบบส่งกำลังที่เหมาะสมในระดับสากล ช่วยให้ท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่ผสมผสานความสะดวกสบาย เสถียรภาพ ความคล่องตัว พละกำลัง และความปลอดภัยได้อย่างลงตัว การเชื่อมต่อการควบคุม และความมั่นใจของผู้ขับขี่จะได้รับการยกระดับในทุกสภาวะด้วยปรัชญาในการพัฒนารูปแบบการขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lexus
ระบบส่งกำลัง PHEV e-FOUR 2.5 ลิตร (A25A-FXS + THS II Plug-in + มอเตอร์ด้านหลัง) HEVe-FOUR 2.5 ลิตร (A25A-FXS + THS II + มอเตอร์ด้านหลัง) HEVFF 2.5 ลิตร (A25A-FXS +THS II) ผสมผสานเครื่องยนต์สี่สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตรที่มีประสิทธิภาพสูงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง และใช้การคำนวณระบบควบคุมซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Lexus เพื่อให้ได้มาซึ่งสมดุลที่ดีที่สุดระหว่างประสิทธิภาพการเร่งความเร็วและการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง E-Four มีการกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อหน้า/ล้อหลังแบบแปรผันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โหมด 100:0 ไปจนถึง 20:80 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวเวอร์ชัน FWD เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า
AWD แบบเทอร์โบชาร์จ 2.4 ลิตร (T24A-FTS + Direct Shift-8AT + AWD แบบควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ตลอดเวลา) ประกอบด้วยทั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จแบบสี่สูบแถวเรียงขนาด 2.4 ลิตร Direct Shift-8AT แรงบิดสูง และ AWD แบบควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ตลอดเวลาที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ นอกจากระบบเผาไหม้ความเร็วสูงแล้ว เครื่องยนต์ยังมีระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบ center-injection direct-injection รุ่นแรกของ Lexus และมีการวางตำแหน่งเทอร์โบชาร์จเจอร์ไว้ใกล้กับเครื่องกรองไอเสียเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบด้านการปล่อยมลพิษและการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เข้มงวดมากขึ้นทั่วโลก และในขณะเดียวกัน ก็ตระหนักถึงความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วย ระบบส่งกำลังถูกพัฒนาให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ ช่วยให้สามารถสร้างแรงบิดสูงได้แม้จะมีความเร็วรอบเครื่องยนต์ต่ำก็ตาม เทคโนโลยีการควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ช่วยให้สามารถเร่งความเร็วและลดความเร็วได้ตรงตามความต้องการของคนขับ และให้รอบเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ที่น่าพอใจ นอกจากนี้ AWD แบบควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ตลอดเวลายังช่วยปรับการกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อหน้า/ล้อหลังอย่างต่อเนื่องจาก 75:25 เป็น 50:50 (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์) และใช้เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อให้ได้มาซึ่งการสัมผัสของหน้ายางกับพื้นผิวถนนและสัมผัสในการบังคับเลี้ยวที่ตอบสนองได้ดีที่สุดAWD 2.5 ลิตร (A25A-FKS + Direct Shift-8AT + AWD แบบมีการควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์สำรอง) FF 2.5 ลิตร (A25A-FKS + Direct Shift-8AT) เครื่องยนต์สี่สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตรที่มีประสิทธิภาพสูงและเกียร์ AT 8 สปีดแบบ Direct Shift ระบบ AWD มีการกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อหน้า/ล้อหลังแบบแปรผันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง 100:0 ไปจนถึง 50:50 ด้วยเทคโนโลยีการควบคุมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะและอัตราทดเฟืองท้ายที่ถูกปรับให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร มากที่สุด ซึ่งจะช่วยมอบแรงขับที่พอเหมาะเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่น่าพึงพอใจ พร้อมด้วยรอบเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสมและเป็นจังหวะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ระหว่างขับขี่ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวรุ่น FWD เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าของเรา
ตัวถังรถที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา เหล็กเสริมความแข็งแรงและแผงตัวถังถูกติดตั้งเพิ่มเข้ากับคานรองรับและชิ้นส่วนอื่น ๆ ของรถเพื่อให้ได้กำลังในการขับเคลื่อนสูงสุด ความแข็งแรงของโครงสร้าง GA-K ได้รับการพัฒนาโดยคำนึงถึงรูปร่างของโครงกระจังหน้าและมีการเพิ่ม ความหนาของแผ่นตัวถัง โครงสร้างส่วนบนของตัวรถยังได้รับประโยชน์จากฝากระโปรงหน้าที่มีโครงสร้างแบบล็อกคู่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรถยนต์ Lexus นอกจากโครงสร้างรูปวงแหวนแล้ว ยังมีการติดตั้งสารโฟมที่มีโครงสร้างแข็งแรงตามการวิเคราะห์ CAE เอาไว้ เพื่อลดการเสียรูปในช่องเปิดห้องเก็บสัมภาระด้านหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากเทคโนโลยี laser screw welding (LSW) และกาวยึดโครงสร้างแล้ว เทคโนโลยี laser peening ยังได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อเชื่อมโครงรถอีกด้วย ด้วยการวางตำแหน่งที่เหมาะสมและการขยายความยาวของส่วนที่เชื่อมต่อ แรงยึดจะเพิ่มขึ้นประมาณ 35% เมื่อเทียบกับรุ่นธรรมดา
แผ่นเหล็กกันกระแทกด้านนอกผลิตขึ้นจากเหล็กกล้า 1180 MPa ด้วยกระบวนการเชื่อมแบบเทเลอร์แบล็งค์ (เบากว่าชิ้นส่วนโครงสร้างทั่วไป 1.6 กก.) และ ตัวเสริมความแข็งแรงบริเวณกลางหลังคานั้นผลิตขึ้นจากเหล็กแผ่นแบบรีดเย็นซึ่งมีความทนแรงดึงถึง 1470 MPa*3 (เบากว่าชิ้นส่วนโครงสร้างทั่วไปประมาณ 0.3 กก.) โครงสร้างที่ทำจากเหล็กที่มีความต้านทานแรงดึงสูงดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความปลอดภัย และการควบคุมรถที่มีประสิทธิภาพพร้อมกับลดน้ำหนักของรถลงด้วย ระบบช่วงล่าง เบรค และยาง ระบบช่วงล่าง NX ที่พัฒนาขึ้นใหม่ใช้แมคเฟอร์สันสตรัทสำหรับส่วนหน้า และใช้ระบบช่วงล่าง หลังแบบปีกนกคู่สำหรับส่วนหลัง โช้คอัพที่พัฒนาขึ้นใหม่จะช่วยคงแรงสั่นสะเทือนที่ความเร็วต่ำโดยการออกแบบชิ้นส่วนที่มีแรงเสียดทานสูงอย่างระมัดระวัง F SPORT ติดตั้งมาพร้อมกับ Adaptive Variable Suspension (AVS) ล่าสุดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อให้เกิดความคล่องแคล่วในระดับสูงและสร้างความสบายในการขับขี่ โครงสร้างยึดล้อถูกเปลี่ยนจากการยึดด้วยโบลท์สตัดและน็อตดุมล้อมาเป็นการยึดด้วยโบลท์ดุมล้อ ด้วยการเพิ่มความแข็งแรงและลดน้ำหนักของรถส่วนที่ไม่ได้รองรับด้วยระบบช่วงล่าง (น้อยกว่าประมาณ 0.7 กก. เมื่อขันน็อตดุมล้อ) ส่งผลให้ได้สัมผัสในการบังคับเลี้ยวที่เฉียบคมและตอบสนองได้ดี รวมทั้งให้การขับขี่ที่มีคุณภาพสูง ยางขนาด 20 นิ้วและ 18 นิ้วถูกติดตั้งมาพร้อมกับ Extended Mobility Tyre (EMT)*4 เพื่อให้การขับขี่มีคุณภาพสูง และในขณะเดียวกัน ก็เพื่อให้มั่นใจว่ายางของรถยนต์สามารถใช้ในการขับขี่ตามระยะทางที่ปลอดภัยในกรณีที่เกิดยางรั่ว การบังคับเลี้ยวยังใช้แร็คเกียร์*5 แบบปรับได้ที่ใช้เป็นครั้งแรกใน Lexus เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการขับด้วยความเร็วสูงและสามารถตอบสนองต่อการเลี้ยวเข้าโค้งได้อย่างรวดเร็ว แร็คเกียร์บังคับเลี้ยวแบบแปรผันรุ่นใหม่ยังใช้งานได้ดีกับการขับขี่ที่ความเร็วต่ำอีกด้วย สำหรับการเบรก ยังมีการพัฒนาแป้นเบรกรูปทรงใหม่ ซึ่งถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อให้การสลับระหว่างแป้นเหยียบและการเหยียบแป้นเบรกนั้นง่ายขึ้น PHEV และ HEV เป็นรถยนต์ Lexus รุ่นแรกที่มีกลไกลดแรงสั่นสะเทือนของแป้นเหยียบ ช่วยเพิ่มคุณภาพในการเคลื่อนตัวเมื่อปล่อยแป้นเหยียบให้ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แอ็คชิวเอเตอร์เบรกที่ได้รับการพัฒนาและตอบสนองเร็วขึ้นยังรองรับการทำงานของ Lexus Safety Sense+ ได้ดีขึ้นอีกด้วย ประสิทธิภาพแอโรไดนามิก เราให้ความใส่ใจกับการควบคุมแอโรไดนามิกและเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างถี่ถ้วน คิ้วข้างรถจนถึงพื้นผิวประตูและพื้นผิวกระจกออกแบบมาให้เรียบเสมอกันและเกิดความแตกต่างน้อยที่สุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศและเพื่อเสถียรภาพในการขับขี่ ที่ด้านล่างของตัวรถ รอยเว้าในแผงป้องกันน้ำกระเซ็นใต้ท้องรถจะสร้างกระแสลมวนขนาดเล็กที่ช่วยเสริมการไหลเวียนของอากาศใต้ตัวรถและช่วยให้การขับขี่มีเสถียรภาพที่ความเร็วสูง กันชนหน้าได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การไหลเวียนของอากาศและแรงกดเพิ่มขึ้น และกันชนหลังยังมีช่องเปิดเพื่อปรับสมดุลการเคลื่อนตัวของช่วงล่างด้านหลัง ความเงียบ
เพื่อให้ได้มาซึ่งความเงียบในการขับขี่ที่คู่ควรกับ Lexus นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับเสียงและป้องกันเสียงของวัสดุในส่วนต่าง ๆ ของรถ เพื่อลดเสียงรบกวนที่เข้ามาในห้องโดยสารแล้ว อากาศและเสียงลมที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารยังลดลงอย่างมาก (ลดลงประมาณ 15% เมื่อเปรียบเทียบกับระดับเสียงในรถยนต์รุ่นก่อน) นอกจากนี้ เพื่อลดเสียงลมเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง จึงมีการปรับปรุงและพัฒนารูปร่างของยางขอบประตูและรางกระจกประตูหน้า เพื่อให้การปิดผนึกประตูมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับกระจกประตูหน้าได้มีการนำวัสดุป้องกันเสียงชนิดใหม่มาใช้*4 มีการใช้โครงสร้างแบบล็อกคู่ในฝากระโปรงหน้าเป็นครั้งแรกในรถยนต์ Lexus เพื่อลดการสั่นสะเทือนของฝากระโปรงที่เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลให้ได้ความเงียบที่ดียิ่งขึ้น รุ่นเทอร์โบชาร์จ 2.4 ลิตรมีคุณสมบัติ Active Noise Control/Engine Sound Enhancement ซึ่งช่วยปรับปรุงลักษณะเสียงของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จสี่สูบ และในขณะเดียวกัน ก็ให้ประสบการณ์การขับขี่พร้อมด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่น่าพึงพอใจตามแบบฉบับของ Lexus ทิศทางการออกแบบที่แสดงถึงเจนเนอร์เรชั่นใหม่ของ LEXUS ด้วยการผสมผสานไดนามิกเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความพยายามที่จะพัฒนาเอกลักษณ์ในการออกแบบ Lexus เจนเนอร์เรชั่นใหม่ รถยนต์ NX รุ่นใหม่จึงสร้างความแตกต่างโดยการเน้นที่สัดส่วนของรถซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์แบบสปอร์ตและสอดคล้องกับสมรรถนะในการขับขี่ ฟังก์ชัน และความเรียบง่ายที่ชัดเจนของเทคโนโลยี Crossover ใหม่ สำหรับภายนอก การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างส่งผลให้ได้รูปทรงที่แสดงออกถึงความรู้สึกแบบไดนามิกและมีชีวิตชีวา เสริมด้วยมุมที่นุ่มนวลและรูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น การตกแต่งภายในมุ่งเน้นไปที่การสร้างพื้นที่ที่อบอุ่นและน่าใช้งานสำหรับผู้โดยสารแต่ละคน และยังเป็นครั้งแรกที่รวมเอาแนวคิด Tazuna Concept เข้ามาใช้ในการออกแบบด้วย แนวคิดรูปแบบห้องโดยสารที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางนี้ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์เป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ช่วยเสริมสมาธิในการขับขี่
ไดนามิกเฟรมเวิร์กและพื้นที่ด้านหลังเพิ่มขึ้นด้วยการนำแพลตฟอร์มใหม่มาใช้ ยางหน้าและหลังเพิ่มขนาดจาก 225/60R18 นิ้ว เป็น 235/50R20 นิ้ว ดอกยางของล้อหน้าและล้อหลังยังขยายขึ้นเพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ไดนามิกของ NX นอกจากนี้ ด้วยการลดระดับจุดรองรับสะโพกของเบาะนั่งด้านหลังลง ทำให้ระยะห่างของศีรษะผู้โดยสารเพิ่มขึ้นและเพิ่มความสบายของผู้โดยสารในเบาะหลัง สัดส่วนที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของ LEXUS Spindle Grille ที่เป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส ได้รับการปรับปรุงให้ดูลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังรักษาและเก็บเอกลักษณ์ของ Lexus ไว้ด้วยการสร้างรูปทรงของรถที่มีบังโคลนหน้าแบบสามมิติแบบโค้งขึ้นด้านบน ผสานเข้ากับบังโคลนหลังที่อยู่ใกล้เคียงกัน มุมมองด้านหน้าที่ท้าทายการแสดงออก SPINDLE 3D เจนเนอร์เรชั่นใหม่ ฝากระโปรงหน้าถูกขยายออกไปที่ขอบด้านหน้า ในขณะที่พื้นผิวกระจังหน้าถูกยกขึ้นในแนวตั้งเพื่อเสริมมวลของส่วนหน้า นอกจากนี้ พื้นผิวกระจังหน้าที่ตั้งตรงมากขึ้นยังช่วยให้การไหลเวียนของอากาศมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนของหม้อน้ำ กรอบโครเมียมของกระจังหน้าถูกตัดออกเพื่อให้แสดงสัดส่วนของ NX ได้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทำให้การประกอบง่ายขึ้นและลดน้ำหนักลง รูปแบบกระจังหน้าเป็นรูปตัวยูตามแนวยาวพร้อมด้วยเอฟเฟกต์สามมิติ และมีช่องเปิดในแนวเฉียงที่ด้านล่าง ช่องเปิดในแนวเฉียงช่วยเพื่อประสิทธิภาพในระบายความร้อนและถูกออกแบบมาให้สามารถแสดงลักษณะไดนามิกของ NX ได้ดียิ่งขึ้น ไฟหน้าเป็นสีดำสนิทเพื่อขับเน้นไฟส่องสว่างเวลากลางวันรูปตัว L ภาพสะท้อนแห่งความโฉบเฉียวและขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ฝากระโปรงหน้าขยายออกไปที่กระจังหน้าเพื่อช่วย “ยืด” สัดส่วนส่วนหน้าไปข้างหน้า ส่วนยื่นด้านหลังของรถยนต์ถูกลดขนาดให้สั้นลงเพื่อให้ได้ความรู้สึกที่คล่องตัว ปรับคิ้วข้างรถยนต์ให้สั้นลงเพื่อเน้นการเอียงขึ้นทางด้านหลัง ทำให้ห้องโดยสารมีความรู้สึกกระชับมากขึ้น การผสมผสานระหว่างองค์ประกอบที่ตรงข้ามกันของเส้นที่คมชัดและพื้นผิวโค้งที่มีขนาดใหญ่ทำให้เราได้มาซึ่งพื้นผิวที่ช่วยขับเน้นซึ่งกันและกัน เรามุ่งเน้นเพื่อสร้างการออกแบบรูปแบบใหม่สำหรับถยนต์ Lexus เจนเนอร์เรชั่นใหม่ที่มีความเรียบง่ายแต่งดงาม มุมมองด้านหลังแสดงถึงความเข้มแข็งและจุดยืนที่แข็งแกร่ง ตั้งแต่หน้ารถไปจนถึงกึ่งกลางประตูหลัง รูปทรงจะแคบลงตามรูปทรงแบบ Spindle และบังโคลนหลังถูกออกแบบให้ประกบกับรูปทรงแบบ Spindle นี้ ซึ่งช่วยเน้นความรู้สึกของความแข็งแกร่งโดยรอบห้องโดยสารด้านหลังและรูปทรงที่กว้างขึ้นของยาง สำหรับชุดไฟท้าย แนวไฟส่องสว่างแบบยาวซึ่งอยู่ตรงกลางรถจะรวมเข้ากับกับไฟรูปตัว L ที่ถูกวางตำแหน่งไว้ทางด้านซ้ายและด้านขวาเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับรถยนต์รุ่น NX เครื่องหมายแบรนด์ติดตั้งไว้ตรงกลางประตูท้ายเหนือป้ายทะเบียนรถ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Lexus เจนเนอร์เรชั่นใหม่ สีสันภายนอกเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่หลากหลาย มีสีต่าง ๆ ให้เลือกรวมถึง Sonic Chrome ซึ่งใช้เทคโนโลยีสร้างพื้นผิวโลหะที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lexus สี Celestial Blue เป็นสีที่มีความอิ่มตัวสูงและตรงไปตรงมา และยังมีการแบ่งชั้นความคมชัดของสี Blazing Carnelian ที่ผสมผสานสีที่ลึกและมีชีวิตชีวา 2021.03.24 ห้องโดยสารตามแนวคิด TAZUNA และการออกแบบภายในที่ใกล้ชิดกับผู้โดยสารทุกคน ห้องโดยสารถูกออกแบบตามแนวคิด Tazuna ซึ่งเป็นห้องโดยสารแบบใหม่ที่พัฒนาตามแนวคิดของ Lexus ที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางนี้ นับเป็นรากฐานของการพัฒนารถยนต์ทั้งหมด แนวคิดการตกแต่งภายในนี้เปิดตัวครั้งแรกในรถยนต์คอนเซปต์ LF-30 Electrified ในปี 2019 คำว่า tazuna ได้มาจาก “บังเหียน” ที่ใช้ในการควบคุมม้า และมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความสุขในการควบคุมรถตามดั่งใจต้องการโดยทำให้การสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ดีขึ้น อัตราส่วนของพื้นด้านคนขับและผู้โดยสารได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด บริเวณมาตรวัดและจอแสดงผลตรงกลางช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบายขึ้นด้วยการมองเห็นที่กว้างและกระชับพื้นที่เข่าของผู้ขับขี่ พื้นที่ด้านผู้โดยสารที่กว้าง รวมทั้งส่วนบนของคอนโซล ทำให้ผู้โดยสารมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง เลย์เอาท์ของข้อมูลการแสดงผลข้อมูลต่างๆ เริ่มจาก heads-up display ไปจนถึงมาตรวัดและจาก heads-up display ไปจนถึงจอแสดงผลตรงกลางช่วยให้การเคลื่อนไหวของดวงตาราบรื่นขึ้นและลดการเสียสมาธิในขณะขับรถ นอกจากนี้ ปุ่มสตาร์ท คันเกียร์ และสวิตช์เลือกโหมดการขับขี่จะถูกติดตั้งไว้รอบ ๆ พวงมาลัย ทำให้สามารถควบคุมได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ดังนั้น ผู้ขับขี่จึงสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นโดยไม่ทำให้สูญเสียท่าทางในการขับขี่ มีการนำเสนอระบบใหม่อย่าง Touch Tracer Operation ซึ่งเป็นการทำงานที่รวมจอแสดงผลแบบ Head-up display เข้ากับสวิตช์เซ็นเซอร์สัมผัสบนพวงมาลัยเข้าด้วยกัน เมื่อคนขับแตะสวิตช์เซ็นเซอร์สัมผัสบนพวงมาลัย คู่มือการใช้งานจะปรากฏขึ้นบนจอแสดงผลบนกระจกหน้า (หรือบนมาตรวัดเมื่อปิดจอแสดงผลแบบ Head-up display) ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นโดยที่คนขับไม่จำเป็นต้องละสายตาจากถนนข้างหน้า นอกจากนี้ จอแสดงผลแบบ Head-up display ยังมาพร้อมกับโหมดการแสดงผลข้อมูลและเลย์เอาต์ที่แตกต่างกันถึงสามโหมด เพื่อให้ลูกค้าเพลิดเพลินไปกับการขับขี่ในขณะที่ยังคงมองเห็นสภาพถนนโดยรอบได้อย่างชัดเจน คนขับสามารถเปลี่ยนโหมดได้ตามสถานการณ์การขับขี่ นอกจากนี้ เลย์เอาต์และกราฟิกของมาตรวัดยังได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าคนขับจะได้รับข้อมูลที่ต้องการในขณะขับขี่ ด้วยการใช้จอแสดงผลแบบสัมผัสขนาดใหญ่ จึงสามารถรวบรวมฟังก์ชันมากมายไว้บนจอแสดงผลทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ Lexus ให้ความสำคัญกับรายละเอียดของขนาด รูปร่าง การจัดวาง ข้อมูลที่จัดแสดง เพื่อการใช้งานที่เป็นธรรมชาติ โดยคำนึงถึงการใช้งานแต่ละฟังก์ชัน พวงมาลัยที่พัฒนาขึ้นใหม่ยังคงรักษารูปทรงที่ Lexus ยึดถือมาโดยตลอด ซึ่งสามารถจับและใช้งานได้ง่าย และการออกแบบก้านพวงมาลัยได้รับการปรับปรุงเพื่อความรู้สึกสปอร์ตที่มากยิ่งขึ้น คันเกียร์ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่สำหรับการทำงานแบบ shift-by-wire เราเฟ้นหารูปร่างที่มีลักษณะของการสัมผัสที่เหนือกว่าซึ่งง่ายต่อการจับและใช้แรงกดเมื่อใช้งาน สำหรับโทนสีภายใน เรามุ่งสร้างชุดสีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับห้องโดยสารตามแนวคิด Tazuna Concept และช่วยให้คนขับมีสมาธิในการขับขี่ มีชุดสีให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมถึง “Black & Rich Cream” ซึ่งเป็นชุดสีตัดกันของสีดำและสีครีมที่มีการเดินตะเข็บด้วยสีส้มเข้ม การประดับตกแต่งจากแนวมาตรวัดไปจนถึงขอบประตูเป็นสีเข้มและมีความต่อเนื่องกับบริเวณที่นั่งคนขับเพื่อสร้างพื้นที่ให้คนขับขี่มีสมาธิในการขับขี่ “3D Cutting Black” คือรูปแบบเรขาคณิตที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่จะค่อย ๆ ไล่ลวดลายให้หนาแน่นไปยังด้านหลังของตัวรถเพื่อช่วยเสริมความรู้สึกของการเคลื่อนไหวและความก้าวล้ำของเทคโนโลยีขั้นสูง ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารเป็นแบบหกสิบสี่สี เพื่อเน้นความงามของรูปทรงและวัสดุภายในห้องโดยสาร โดยเพิ่มสีสันให้กับห้องโดยสารทั้งหมด เราได้ตั้งค่าสีแนะนำไว้ 14 สีที่แสดงอารมณ์และความรู้สึกที่เปลี่ยนไปเช่นเดียวกับขณะที่มองปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม หากคนขับต้องการเลือกสีอื่นๆ ได้อย่างอิสระ ก็สามารถเลือกสีอื่นๆ ได้ 50 สี ในเฉดสีของจอแสดงผลตรงกลาง เพื่อให้ได้บรรยากาศที่สอดคล้องกับอารมณ์ของตนได้ดียิ่งขึ้น F SPORT
คุณลักษณะภายนอก รวมถึงล้ออัลลอยด์พิเศษขนาด 20 นิ้ว สปอยเลอร์ที่กันชนด้านล่าง และการตกแต่งด้านหน้าที่ให้ความรู้สึกสปอร์ต สำหรับการตกแต่งภายใน นอกจากพวงมาลัยเฉพาะที่พัฒนาขึ้นใหม่แล้ว เบาะนั่งด้านหน้า แป้นเหยียบอะลูมิเนียม และคันเกียร์ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเสริมภาพลักษณ์ของสมรรถนะในการขับขี่ นอกจากนี้ AVS รุ่นล่าสุดยังได้รับการติดตั้งเป็นคุณสมบัติมาตรฐานเพื่อมอบการควบคุมระดับสูงและความสะดวกสบายในการขับขี่ 2021.03.24 ระบบมัลติมีเดียพร้อมคุณสมบัติขั้นสูงและความสะดวกสบาย หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 14 นิ้วของระบบมัลติมีเดียให้ภาพที่คมชัดด้วยคุณสมบัติป้องกันการสะท้อนแสง การเคลือบผิวกระจกหน้ารถและการใช้เทคโนโลยีการเคลือบเพื่อลดแสงสะท้อน*1.
NX ได้นำเสนอระบบมัลติมีเดียที่ล้ำสมัยแต่ใช้งานง่ายและสะดวก สวิตช์การเลือกเมนูต่าง ๆ จะแสดงเป็นไอคอนที่ด้านคนขับเสมอ เพื่อการเข้าถึงที่เหนือชั้น รูปแบบของหน้าจอทั้งหมดแบ่งออกเป็นพื้นที่แสดงผลตามความละเอียดของข้อมูล ในขณะที่ขั้นตอนการนำทาง การเล่นเพลง และการตั้งค่ารถจะรวมเข้าด้วยกันเพื่อความสะดวกในการใช้งาน เช่น มีการติดตั้งฟังก์ชันที่ช่วยให้ผู้โดยสารด้านหน้าเรียกการควบคุมที่ใช้บ่อยขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังสามารถปรับในส่วนของแผนที่และการควบเครื่องปรับอากาศได้ตามความชอบและความต้องการของคุณ สีและรูปแบบอักษรของหน้าจอการนำทางก็สามารถเลือกได้จากห้าธีมที่แตกต่างกันตามความชอบของผู้ใช้งาน ฟังก์ชันการจดจำเสียงล่าสุดจะเปิดใช้งานได้โดยใช้งานไอคอนไมโครโฟนบนจอแสดงผล หรือด้วยเสียง และยังสามารถเปิดใช้งานด้วยสวิตช์คำสั่งเสียงบนพวงมาลัย ด้วยการพูดคำเปิดใช้งานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (เช่น Hey Lexus!) ระบบสามารถเปิดใช้งานได้โดยการจดจำเสียงโดยไม่ต้องใช้งานสวิตช์หรือหยุดเล่นเพลง นอกจากนี้ ระบบยังรองรับการทำงานด้วยเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติราวกับว่าคุณกำลังคุยกับรถอยู่ กำหนดค่า Apple CarPlay*4และ Android Auto*5 เพื่อใช้ฟังก์ชันพิเศษเฉพาะของ iPhone*4 และอุปกรณ์ Android*5 บนจอแสดงผลในรถยนต์ นอกจากการเชื่อมต่อ USB แบบเดิมแล้ว ตอนนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wi-Fi นอกจากนี้ ผู้ให้บริการของ Lexus มีบริการที่ทำให้สามารถสตรีมเพลงโดยไม่ต้องใช้ฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้แล้ว ฟังก์ชัน My Settings ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ลงทะเบียนการตั้งค่าส่วนบุคคลกับรถ ขณะนี้สามารถตั้งค่ามัลติมีเดีย เช่น ระบบนำทางและเสียง นอกเหนือจากการตั้งค่ารถทั่วไป (ตำแหน่งขับขี่ ไฟส่องสว่าง ประตู ฯลฯ) Lexus Premium Sound System ประกอบด้วยลำโพง 10 ตัว ซึ่งรวมถึงกล่องซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ โดยใช้โครงสร้างแบบสะท้อนเสียงเบสของลำโพงด้านหลังและโครงสร้างของตัวรถ (ด้านหลังส่วนล่าง) เพื่อให้ได้เสียงย่านความถี่ต่ำที่สมบูรณ์และคมชัด ในขณะเดียวกัน Mark Levinson*7 Premium Surround Sound System มีพื้นฐานมาจากคอนเซ็ปต์ของ Mark Levinson*7 PurePlay ลำโพงทั้งสิบเจ็ดตัว รวมถึงกล่องซับวูฟเฟอร์คขนาดใหญ่ที่ใช้โครงสร้างของตัวรถ ถูกจัดวางอย่างเหมาะสมเพื่อสร้างความรู้สึกให้เหมือนอยู่บนเวทีที่ขยายตัวออกจากด้านหน้าไปด้านหลังและจากซ้ายไปขวา จุดมุ่งหมายคือเพื่อให้ได้ความรู้สึกของเวทีและเสียงที่ปราศจากความผิดเพี้ยน ระบบเสียงทั้งสองยังรองรับการเล่นจากแหล่งกำเนิดเสียงที่มีความละเอียดสูง (96 kHz/24 bit) ซึ่งมีข้อมูลมากกว่าแหล่งเสียงจากซีดี (44.1 kHz/16 bit) *1. เทคโนโลยีที่เติมช่องว่างระหว่างแผงกระจกและ LCD เมื่อประกอบเข้าด้วยกัน
ช่วยลดดัชนีการหักเหของแสงและลดแสงสะท้อนของหน้าจอ
*2. Bluetooth เป็นเครื่องหมายการค้าของ Bluetooth SIG, Inc.
*3. ข้อมูลจำเพาะอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ
*4. Apple, Apple CarPlay และ iPhone เป็นเครื่องหมายการค้าของ Apple Inc.
เครื่องหมายการค้า iPhone ใช้ภายใต้ใบอนุญาตจาก Aiphone Co., Ltd.
*5. Android™, Android Auto™ และ YouTube เป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC
*7. Mark Levinson และ Mark Levinson เป็นเครื่องหมายการค้าของ Harman International Industries, Inc.
2021.03.24 มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงล่าสุดและความสะดวกสบายที่ยึดการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อให้เป็นไปตามความปรารถนาสูงสุดของสังคมของการขับขี่ – “การไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร” NX จึงขอนำเสนอ Lexus Safety System+ ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ด้วยการขยายช่วงการตรวจจับของเรดาร์คลื่นมิลลิเมตรและกล้อง นอกจากนี้เราได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของแต่ละฟังก์ชันและเพิ่มฟังก์ชันใหม่เพื่อช่วยในการขับขี่บนถนนธรรมดา เป้าหมายคือการป้องกันอุบัติเหตุ ลดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากการจราจร และลดภาระของคนขับ
ระบบ LEXUS SAFETY SYSTEM+ ล่าสุด พร้อมฟังก์ชั่นทีหลากหลายและประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น <PRE-CRASH SAFETY [PCS*1 ]>
เพิ่มการให้ความช่วยเหลือที่ทางแยกโดยรวมเอาความช่วยเหลือในการหลีกเลี่ยงการชนกับรถที่วิ่งตัดกัน รถที่ขับสวนทางมาในทางตรงเมื่อเลี้ยวขวา*2 , และคนเดินถนนและนักปั่นจักรยานที่มาจากข้างหน้าเมื่อเลี้ยวขวาหรือซ้าย นอกจากนี้ ขอบเขตของการช่วยเหลือยังได้ขยายไปครอบคลุมถึงรถจักรยานยนต์ ยานพาหนะที่วิ่งสวนทางซึ่งเบี่ยงจากเลน และนักปั่นจักรยานในตอนกลางคืน เมื่อระบบพิจารณาแล้วว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการชน ระบบจะเปิดใช้งานสัญญาณเตือนและเบรกเพื่อช่วยลดความเสียหาย RADAR CRUISE CONTROL (WITH ALL-SPEED FOLLOW FUNCTION) หากรถคันก่อนหน้าในเลนเดินทางด้วยความเร็วที่ช้ากว่าความเร็วรถที่กำหนดไว้ ระบบจะดำเนินการการชะลอตัวโดยอัตโนมัติ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับทางโค้งข้างหน้าและการชะลอตัวก่อนหน้านี้ตามขนาดของทางโค้ง ฟังก์ชันการควบคุมความเร็วเมื่อเข้าโค้งได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับความรู้สึกของคนขับมากขึ้น เมื่อมีรถในช่องทางแซงที่ช้ากว่าความเร็วของรถ ระบบจะลดความเร็วรถเพื่อไม่ให้แซงออกจากเลนที่ขับขี่อยู่และรักษาระยะห่างระหว่างรถทั้งสองคัน*4 อื่นๆ LANE DEPARTURE ALERT[LDA*5 ] จุดมุ่งหมายคือการควบคุมระบบร่วมกับคนขับ เช่น การปิดใช้งานฟังก์ชั่นเตือนและยับยั้งการออกจากเลน เมื่อสามารถตัดสินได้ว่าคนขับได้ทำการบังคับรถโดยเจตนาเพื่อหลีกเลี่ยงบุคคลหรือรถที่จอดอยู่ นอกจากนี้ ระบบยังสามารถแยกแยะ เสาไฟฟ้า ขอบทางเท้า ราวกั้น กำแพง และแถวเสาไฟฟ้าที่เรียงต่อกันได้ ซึ่งจะช่วยการสนับสนุนเพิ่มเติมที่ในขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ
LANE TRACING ASSIST[LTA*6 ] ประสิทธิภาพการจดจำเลนได้รับการปรับปรุงเพื่อการสนับสนุนการบังคับเลี้ยวที่นุ่มนวลและไม่ถูกรบกวน ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การแซงรถในเลนที่อยู่ติดกัน หรือเมื่อมีระยะห่างระหว่างรถกับโครงสร้างถนนแบบออฟโรด ตำแหน่งการติดตามจะชดเชยจากศูนย์กลางของถนนไปยังด้านหลีกเลี่ยง เช่นเดียวกับการขับขี่ของคนขับ เพื่อให้เกิดการควบคุมร่วมกับคนขับ
ROAD SIGN ASSIST[RSA*9 ] นอกจากป้าย “ความเร็วสูงสุด” “ห้ามแซง” “ห้ามรถผ่าน” และ “หยุดชั่วคราว” แล้ว เรามีขยายขอบเขตการสนับสนุนให้รวมถึงป้าย “ห้ามเลี้ยว” แล้วเช่นเดียวกัน
PROACTIVE DRIVING ASSIST[PDA*11 ] ระบบจะการคาดการณ์ความเสี่ยงตามสถานการณ์การขับขี่ เช่น “คนเดินเท้าข้ามถนน” หรือ “รถยนต์อาจจะไม่สามารถควบคุมได้” และช่วยสนับสนุนคนขับเพื่อไม่ให้เข้าใกล้อันตรายมากเกินไป ส่งผลให้คนขับเกิดความอุ่นใจ นอกจากนี้ ระบบยังช่วยสนับสนุนการลดความเร็วของคนขับเพื่อตอบสนองต่อรถคันข้างหน้าหรือทางโค้งข้างหน้า และลดความจำเป็นในการเปลี่ยนการเหยียบแป้นบ่อยครั้ง
ระบบใหม่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบาย E-LATCH SYSTEM
การเปลี่ยนกลไกการล็อก/ปลดล็อกของประตูด้วยการควบคุมด้วยสวิตช์ไฟฟ้า ช่วยให้การทำงานของประตูเป็นไปอย่างราบรื่นและให้ความรู้สึกที่นิ่มนวล
PANORAMIC VIEW MONITOR Panoramic View Monitor ที่รวมเอาภาพจากกล้องที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย และด้านขวาของรถและแสดงขึ้นบนจอแสดงผลกลาง มีฟังก์ชันใหม่เพื่อแสดงภาพพื้นผิวถนนที่ถ่ายไว้ก่อนที่รถจะเคลื่อนที่ผ่าน เพื่อช่วยให้คนขับเข้าใจพื้นผิวถนนและตำแหน่งยางบริเวณใต้ท้องรถ
*1. PCS:Pre-Collision System
*2. เมื่อขับรถชิดซ้ายของถนน เมื่อขับชิดขวาของถนน เมื่อเลี้ยวซ้าย
*4. มีเฉพาะที่ยุโรป
*5. LDA:Lane Departure Alert
*6. LTA:Lane Tracing Assist
*8. LCA:Lane Change Assist
*9. RSA:Road Sign Assist
*11. PDA:Proactive Driving Assist