ภายในเดือนพฤษภาคม 2561 รถทุกคันที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา จะต้องติดตั้งกล้องส่องมองขณะถอยหลัง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยเป็นข้อบังคับใหม่ ท่ีต้องการลดอัตราการสูญเสียชีวิต หรืออุบัติเหตุจากการถอยรถ ซึ่งเกิดกับทั้งคนเดินเท้า หรือเด็ก บางครั้งก็เป็นคนในครอบครัวตนเองอีกด้วย
ข้อมูลระบุว่า ในแต่ละปี จะมีผู้เสียชีวิตในอเมริกาจากเหตุการณ์ที่ว่าราว 200 คน และบาดเจ็บอีกมากกว่า 14,000 คน กว่าครึ่งของผู้เสียชีวิต เป็นเด็กอายุตำ่กว่า 5 ปี ซึ่งร่างกายยังเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้จากที่นั่งคนขับ และจากการวิจัยวิธีการป้องกันปัญหา สามารถทำได้โดยติดกล้องส่องมองหลังในรถยนต์ จะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้ราวครึ่งหนึ่ง
ข้อบังคับที่ว่านี้ ศาลสูงสหรัฐ ออกพิจารณาคดีที่องค์กรเพื่อความปลอดภัย ฟ้องร้อง และมีการพิจารณาโดยทำการสอบสวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นเวลานานนับปี หลังจากประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ลงนามในข้อบังคับความปลอดภัย เมื่อปี 2550 ที่จะให้ สถาบันเพื่อความปลอดภัยจากการเดินทางในทางหลวง ประกาศเรื่องกล้องส่องมองหลังให้เป็นมาตรฐาน แต่ผู้ปฏิบัติ ก็อ้างเหตุ ข้อขัดข้องมากมายมาถึง 5 ครั้ง จนกระทั่ง องค์กรเพื่อความปลอดภัยหลายแห่ง รวมตัวกันส่งเรื่องให้ศาลพิจารณา และได้ผลออกมาเป็นข้อบังคับดังกล่าว
ข้อบังคับนี้ บังคับให้ยานยนต์ที่มีนำ้หนักไม่เกิน 4,500 กก. ทุกประเภท ไม่เว้นแม้รถกระบะหรือรถบัส ต้องติดตั้งกล้องส่องมองหลัง ที่สามารถมองเห็นด้านหลังรถในรัศมีตั้งแต่ 3-6 เมตร เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
รถยนต์หลายรุ่นที่ออกจำหน่ายในปัจจุบัน ก็มีรุ่นที่ติดตั้งกล้องส่องมองหลังเป็นมาตรฐานหลายรุ่น ประมาณครึ่งหนึ่งของที่ออกจำหน่ายในอเเมริกา โดยประเมินค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสำหรับรถที่ไม่มีกล้อง แต่มีจอแสดงผลในรถอยู่แล้ว อยู่ในราวคันละ 1,200-1,300 บาท แต่หากไม่มีจอแสดงผล ค่าใช้จ่ายจะตกราวคันละ 4,000-4,500 บาท
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…