ฟอร์ด ประเทศไทย เชิญคณะสื่อมวลชนร่วมผจญภัยไปกับทริป ‘Ford Next Level Experience’ ในเมืองซาปา ประเทศเวียดนาม กับรถฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ รุ่นย่อยล่าสุดทั้งฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นสตอร์มแทรค ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นไวลด์แทรค และฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร และเบนซิน 3.0 ลิตร สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ตอบโจทย์ไลฟสไตล์นักผจญภัยสายลุย
เริ่มต้นกิจกรรมด้วยการทดสอบขับบนถนนที่คดเคี้ยวและเล็กแคบของเมืองซาปา ผู้ขับขี่ได้สัมผัสความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร และใช้กล้องมองรอบคัน 360 องศา ช่วยให้มองเห็นอุปสรรคได้รอบตัว
เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ขับในการมุ่งหน้าสู่อ่างเก็บน้ำเซียวมีที (Seo My Ty) อ่างเก็บน้ำที่อยู่สูงที่สุดจากระดับน้ำทะเลของเวียดนามที่ 1,600 เมตร ท่ามกลางทัศนียภาพทางธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและทุ่งนาขั้นบันไดเขียวขจี
จากนั้น ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจึงได้แบ่งกลุ่มทดสอบสมรรถนะและการใช้งานรถฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ ใน 3 สถานี ได้แก่
สถานีที่ 1 ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นไวลด์แทรค พวกเราได้ร่วมพิสูจน์รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่ผสานสมรรถนะเพื่อการผจญภัยเข้ากับความสะดวกสบาย ต่อยอดสมรรถนะและเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์แบบไวลด์แทรค และครบครันทั้งความเท่ แข็งแกร่ง และขับสนุกในทุกการเดินทาง
ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกสัมภาระบนราวหลังคาแบบยกสูงซึ่งเป็นแบบใหม่เฉพาะฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นไวลด์แทรค
อีกทั้งยังได้สัมผัสความพร้อมลุยทุกสถานการณ์กับการขับรถลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 ม(ช่วงนั้นน้ำยังไม่เยอะคะ ก็เลยยังไม่ได้ลอง )รวมถึงระบบขับเคลื่อนแบบ 4×4 ที่มีตัวเลือกโหมดการขับขี่มากถึง 6 โหมด เพื่อสมรรถนะสูงสุดสำหรับการเดินทางบนทุกสภาพพื้นผิว และยังได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมรอบทะเลสาบ ไม่ว่าจะเป็น ดริปกาแฟ แกลมปิ้ง ปั่นจักรยานชมนาขั้นบันได เป็นต้น
สถานีที่ 2 ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร และเบนซิน 3.0 ลิตร ก้าวข้ามความท้าทายไปอีกระดับกับบททดสอบสำหรับรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง อัดแน่นด้วยดีเอ็นเอฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ ที่ออกแบบมาเพื่อเอาชนะทุกสภาพถนน
โดยพวกเราได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดบนเส้นทางสุดท้าทายบริเวณอ่างเก็บน้ำเซียวมีทีอันเต็มไปด้วยเนินหิน บ่อโคลน และทราย ด้วยโหมดการขับขี่ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ ที่มีมากถึง 7 โหมด และการใช้ฟังก์ชัน Trail Control ซึ่งเปรียบเสมือนระบบควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติสำหรับเส้นทางออฟโรด ใช้ในการไต่ขึ้นและลงทางลาดชัน ทำให้ผู้ขับขี่ผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากไปได้อย่างง่ายดาย
การแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีการขับขี่ขั้นสูงตามมาตรฐานของฟอร์ด ที่ยังมีทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program – ESP) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control พร้อม Electric Brake Booster ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation – ROM) กล้องมองรอบคัน 360 องศา และฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย
สถานีที่ 3 ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นสตอร์มแทรค ที่มาพร้อมราวหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ (Flexible Rack System) เพื่อให้ผู้ขับขี่เลือกปรับรูปแบบสปอร์ตบาร์ได้อย่างสะดวกสบายกับความสามารถในการเลื่อนจุดล็อคได้ถึง 5 ตำแหน่งด้วยมือเดียว ทั้งยังรองรับน้ำหนักได้สูงสุด 80 กก. (ขณะขับ) และ 250 กก. (ขณะจอด)
นอกจากนั้นยังได้ทดสอบการบรรทุกเรือคายักและซัพบอร์ด และร่วมเล่นกีฬาทางน้ำ เพื่อจำลองการใช้งานจริงของผู้ใช้งานรถฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นสตอร์มแทรค ที่มองหาการใช้งานรถกระบะที่เน้นความอเนกประสงค์มากกว่าที่เคย รวมถึงทดลองใช้โหมดการขับขี่แบบออฟโรด ทั้งในโหมดโคลน (Mud Mode) โหมดทราย (Sand Mode) และการขับผ่านทางลื่นด้วยโหมดถนนลื่น (Slippery)
ทั้งนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นสตอร์มแทรค ได้รับการออกแบบมาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุดท้าทายไปอีกขั้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันทันสมัย
ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ มอบพละกำลังสูงสุด 210 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร พร้อมตัวเลือกระบบขับเคลื่อนแบบ 4×4 และ 4×2 มาพร้อมเทคโนโลยีระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Fully Automated Park Assist) เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ นอกเหนือจากฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะในตระกูลเพอร์ฟอร์มานซ์
สำหรับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่น ไวลด์แทรค ซึ่งเป็นคันที่ผู้เขียนใช้ในการเดินทางในครั้งนี้ เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter มอบพละกำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ 4×4 ที่มีตัวเลือกโหมดการขับขี่มากถึง 6 โหมด ได้แก่ Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery, Mud/Ruts และ Sand เพื่อสมรรถนะสูงสุดสำหรับการเดินทางบนทุกสภาพพื้นผิว
ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้เส้นทางที่เดินทางลาดชันและแคบ และบางช่วงเป็นร่อง เราก็เลยปรับโหมดไปที่ร่องและโคลนและใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ 4×4 ก็ปรับง่ายหมุนปุ่มที่อยู่ตรงกลางของคอนโซล แล้วดูที่หน้าจอคนขับ รูปจะโชว์ว่าใช้โหมดอะไรอยู๋
และอีกระบบที่ใช้เยอะในการเดินทางครั้งนี้ ก็คือกล้อง 360 องศา เพราะถนนที่เราเดินทางแคบมาก บางช่วงถนนแคบมาก เมื่อรถสวนต้องจอดชิดไหล่ทาง ก็เปิดกล้องดูรอบๆเพื่อความปลอดภัย หรือบนทางแคบที่รถสวนไม่ได้ แล้ต้องเจอโค้งหักศอก ก็เปิดกล้องนี่แหละให้เห็นเส้นขอบทาง และวางล้อได้ถูกต้อง ไม่ตกถนน ขอบอกว่ากล้องชัดมาก
แล้วเราก็ขับขี่กันอย่างปลอดภัยในทริป Ford Next Level Experience
สาวสาวที่ชอบใช้ชีวิตลุยลุย ฟอร์ดก็เป็นรถอีกหนึ่งทางเลือกให้คุณนะคะ
เลือกให้เหมาะกับสไตล์ของเราเลยค่า
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา(Alongcaronline)
ผู้หญิงขับรถ
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…