บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดกิจกรรม Porsche Ladies media exclusive trip แบบวันเดย์ทริป เปิดประสบการณ์ การขับรถยนต์ปอร์เช่หลากหลายรุ่นให้กับกลุ่มผู้สื่อข่าวสายรถยนต์ผู้หญิงล้วนล้วน
เราเริ่มต้นเดินทางจากศูนย์บริการ Porsche Centre Bangkok มุ่งหน้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแบบสบายๆ ในช่วงสายของวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2562
โดยมีรถปอร์เช่รุ่นเด่นๆให้ได้ทดสอบ และขับขี่กันอย่างเต็มอิ่มถึง 4 รุ่น ได้แก่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid), มาคันน์(Macan),พานาเมร่า4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) และ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด เอ็กซ์เซ็คคูทีฟ (Panamera 4 E-Hybrid Executive)
โดยคันที่ผู้เขียนเดินทางไปในครั้งนี้ก็คือ พานาเมร่า 4 E-Hybrid
รถสปอร์ตซาลูนสุดหรู ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
และขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า เพียงอย่างเดียวได้กว่า 50 กิโลเมตร
พละกำลังสูงสุดกว่า 462 แรงม้า ด้วยการทำงานของระบบมอเตอร์ไฟฟ้า เจเนอเรชั่นใหม่ซึ่งคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยปอร์เช่ ผสานพลังร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบสมรรถนะสูง ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดถึง 40 กิโลเมตรต่อลิตร
พวกเราออกเดินทางไปทางดอนเมือง ผ่านเส้นทางลัดสนามบินดอนเมือง เพื่อขึ้นโทลเวย์รังสิต-บางปะอิน
ลงโทลเวย์และมุ่งหน้าสู่อยุธยา
ออกเดินทางโดยผู้เขียนนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับมือแรกคือคุณศิราณี จาก ZTV โดยเราขับกันในโหมดไฮบริด ปล่อยให้เครื่องยนต์ปรับการทำงานเอง ซึ่งรถมีระบบให้เลือก คือ E-Power ,Hybrid ,Sport ,Sport Plus และIndividual
เมื่อก้าวเข้าไปในรถต้องร้องโอโฮเลยกว้างมาก อุปกรณ์ต่างๆในรถก็ไฮเทค เราก็เลยคุยกันว่าถ้าซื้อรถคันนี้ต้องขอเรียนรู้คู่มือการใช้รถก่อนเลยว่าจะปรับอะไรอย่างไรตรงไหนบ้าง
เพราะเราเดินทาง 3 คน คนที่นั่งด้านหลังก็สามารถเปิดวิทยุจากคอนโทรลที่นั่งด้านหลัง และสามมรถทำอะไรได้อีกหลายอย่างทั้งควบคุมอุณหภูมิแอร์ ถ้าไป 2 คนและนั่งหน้าก็ไม่รู้เลยว่าด้านหลังทำอะไรได้บ้าง
ที่นั่งด้านข้างคนขับก็นุ่มสบายโอบกระชับ รู้สึกถึงความนิ่มนวลของระบบช่วงล่างเลย
และเราก็แวะเปลี่ยนคนขับที่ Porto Go อยุธยา ซึ่งดิฉันเป็นคนขับ เมื่อขับเองปรับทุกอย่างให้เข้าที่ทั้งที่นั่งและกระจกมองข้างหน้าหลัง
พวงมาลัยกระชับมือควบคุมง่าย คันเร่งเหยีบบนิดเดียวก็พร้อมที่จะไปแล้ว เพราะกำลังของเครื่องยนต์แรงมาก รถพร้อมที่จะกระโจนไปเลย เบรกดีมากกดแรงก็ยังนิ่มนวล
หลายช่วงที่เป็นถนนแคบๆ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการขับรถในซอยแคบ
เมื่อเดินทางถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเราก็ไปจอดรถและลงเรือที่ ร้าน The Wine Ayudhya เพื่อล่องเรือรอบเกาะเมืองเก่าอยุธยาไหว้พระทำบุญในวัดเก่าแก่และเป็นโบราณสถานคู่เมืองอยุธยามาหลายร้อยปี
ดีนะวันที่เราเดินทางวันนั้นอากาศดีมากแดดก็ไม่แรง มีลมพัดโชยตลอดเวลา
วัดแรกที่ไปคือวัดแคราชานุวาส อันเป็นวัดสำคัญที่หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ได้มาจำพรรษาเป็นวัดแรก เมื่อครั้งเดินทางมาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ปางธุดงค์ และเป็นที่ตั้งของวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งกุฏิเดิมของหลวงปู่ทวด
วัดที่ 2 คือวัดเชิงท่า วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมฝั่ง ซ้ายของคลองเมืองหรือแม่น้ำลพบุรีเดิม โดดเด่นด้วยงานจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่สวยงาม
และวัดสุดท้ายคือ วัดนางกุย เที่ยวชมอุโบสถ์หลังเก่าของวัดซึ่งเป็นโบราณสถานที่มีรูปนารายณ์ทรงครุฑอยู่หน้าโบสถ พร้อมด้วยเสมาคู่ เจดีย์ และพระปรางค์เก่าแก่สมัยต้นกรุงศรีอยุธยา พร้อมนมัสการหลวงพ่อยิ้มซึ่งประดิษฐานข้างพระประธาน ในโบสถ์ที่สร้างขึ้นใหม่
จากนั้นขึ้นฝั่งที่ร้าน The Wine Ayudhya เพื่อรับประทานอาหารตำหรับไทยอยุธยา
อิ่มท้องแล้วก็มีแรไปต่อขับรถปอร์เช่เข้าสู่ตัวเมืองเก่าเพื่อชมบรรยากาศวัดวาอารามและโบราณสถานโดยรอบเป็นการปิดท้ายก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ
โดยขากลับได้ไปนั่งที่นั่งด้านหลังเป็นคุณนายซะหน่อย ที่นั่งด้านหลังสามารถปรับเอนได้ แต่ไม่มากนักสามารถบันทึกความจำตำแหน่งที่นั่งได้
ที่นั่งด้านหลังก็มีซันรูฟนะคะ โดยแยกคนละส่วนกับด้านหน้า คือถ้าคนด้านหน้าเปิดซันรูฟ คนด้านหลังก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดด้วย
ด้านหลังที่นั่งกว้าง นั่งสบาย ช่วงล่างนุ่มนวล ให้ความรู้สึกแบบอยากนั่งไปนานนาน
ก็เป็นทริปหนึ่งวันที่สบายๆ ขับรถหรู นั่งเรือไหว้พระ แล้วกลับกรุงเทพ ถึงกรุงเทพประมาณ 16.00 . โดยไม่ต้องรีบเร่ง
นั่ง Panamera 4 E-Hybrid คันนี้แล้วติดใจ ขอเก็บเงินก่อนนะคะราคาเบาเบา 9.4 ล้านบาทเท่านั้นเอง
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา(อาลองรีวิว)
ผู้หญิงขับรถ
อีซูซุส่งเครื่อ…